วงการทุเรียนไทยจะสั่นสะเทือนหรือไม่? ?
Alibaba ออกหน้าช่วยเหลือ ดันทุเรียนมาเลเซีย เข้าไปขายในจีน
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า รัฐบาลมาเลเซียได้ทำข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลจีน เพื่อตกลงกันรับซื้อทุเรียนจากมาเลเซียมากขึ้น ที่สำคัญจะไม่ได้รับซื้อทุเรียนแบบแช่แข็งเท่านั้น เพราะจะรับเป็นลูกๆ ด้วย อย่างไรก็ดีข้อตกลงใหม่นี้ได้เริ่มต้นแล้วนับตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา
- ทุเรียน Musang King (อันที่จริงมีชื่อเท่ๆ ในวงการว่าเป็น Hermès แห่งวงการทุเรียน เพราะมีราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท) เตรียมเข้าตลาดจีนด้วยความช่วยเหลือจาก Alibaba
ล่าสุด Alibaba ประกาศว่า พร้อมออกหน้าช่วยเหลือเต็มที่ในการนำเอาทุเรียนมาเลเซียเข้ามาขายในจีน โดยทางบริษัทจะส่งเครื่องมือทางการตลาดมาช่วยผลักดันผู้ผลิตทุเรียนท้องถิ่นในมาเลเซียเพื่อนำทุเรียนเข้ามาขายในตลาดจีนผ่าน ecosystem ที่มีอยู่ เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต Freshippo หรือเหอหม่า (Hema) ที่รู้จักกันดี ซึ่งเราก็รู้กันอยู่ว่า พลังของ Alibaba นั้นยิ่งใหญ่และมีพลังมหาศาลแค่ไหน ดูอย่างต้นปี 2018 ที่ Tmall (แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ Alibaba ในจีน) ได้นำเอาทุเรียนไทยไปขาย แค่เพียง 1 นาทีเท่านั้น มีคนจีนสั่งซื้อไปกว่า 80,000 ลูก คิดเป็นมูลค่ากว่า 3,000 ล้านหยวน
ตัวเลขของตลาดทุเรียนจีน หากอ้างอิงจาก United Nations Commodity Trade ระบุว่าในปี 2017 มีมูลค่าการนำเข้ากว่า 552 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) เติบโตกว่า 8 เท่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
ส่วนมาเลเซีย ในปัจจุบันส่งออกทุเรียนไปขายในต่างประเทศเพียงแค่ 5% เท่านั้น ดังนั้นคาดการณ์ได้เลยว่าการที่ได้นำทุเรียนเข้าไปขายในจีนครั้งนี้ จะทำให้มูลค่าการส่งออกทุเรียนของมาเลเซียจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
คำถามที่น่าสนใจคือ ไทยที่เป็นผู้ส่งออกทุเรียนไปยังจีนเบอร์ต้นๆ โดยครองส่วนแบ่งตลาดนำเข้าทุเรียนมากกว่า 90% จะได้รับผลกระทบจากการมาถึงของทุเรียนมาเลเซียที่ตอนนี้ยังคงครองตลาดจีนเพียงแค่ 1% เท่านั้น
จะมากน้อยเพียงใด ยังไม่มีใครรู้ แต่นี่คือศึกทุเรียนอาเซียนที่น่าติดตาม
อ้างอิงข้อมูล – Alizila
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา