เจาะลึกกลยุทธ์ เมืองไทยประกันชีวิต รุกตลาดความมั่งคั่ง ชู 2 กรมธรรม์มรดก ปั้น Ecosystem ครบวงจร

เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) เดินเกมรุกในตลาดประกันชีวิตสำหรับกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (High-Net-Worth Individuals) เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพื่อการวางแผนมรดก เมืองไทย พรีเมียร์ เลกาซี่ 99/1 และ เมืองไทย เฟล็กซี่ โพรเทคชั่น 99/20 เปิดตัวบริการ MTL Legacy Consultant ที่ปรึกษาด้านการวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งแบบครบวงจร พร้อมสะท้อนความเชื่อมั่นต่อทิศทางการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มประกันสุขภาพและประกันเพื่อความคุ้มครองในช่วงครึ่งหลังของปี

MTL

สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางสภาวะการณ์ที่ชีวิตมีความไม่แน่นอนสูง การเตรียมความพร้อมเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับคนที่รักจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บริษัทฯ เข้าใจถึงความ “ห่วง” ในหลากหลายมิติของผู้บริโภค โดยเฉพาะการวางแผนเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น (Wealth Transfer) ซึ่งเป็นโจทย์ที่มีความซับซ้อนและต้องการเครื่องมือทางการเงินที่ตอบสนองได้อย่างตรงจุด

ด้วยเหตุนี้ เมืองไทยประกันชีวิตจึงได้พัฒนาและนำเสนอ 2 แบบประกันภัยล่าสุด ที่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการวางแผนมรดกโดยเฉพาะ ควบคู่ไปกับการยกระดับการให้บริการผ่าน “MTL Legacy Consultant” ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์การสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่สมบูรณ์ เพื่อมอบโซลูชันที่ครอบคลุมมากกว่าแค่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต แต่รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ภาษี และการวางแผนชีวิตในวาระสุดท้าย

“เมืองไทย พรีเมียร์ เลกาซี่ 99/1” เครื่องมือสร้างหลักประกันก้อนใหญ่ด้วยเงินก้อนเล็ก

สำหรับผลิตภัณฑ์เรือธงที่มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง คือ “เมืองไทย พรีเมียร์ เลกาซี่ 99/1 (แบบเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์คงที่)” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การสร้าง “หลักประกันก้อนใหญ่” ด้วย “เงินก้อนเล็ก” อย่างแท้จริง โดยมีจุดเด่นสำคัญคือการชำระเบี้ยประกันภัยเพียงครั้งเดียว (Single Premium) แต่ให้ความคุ้มครองชีวิตยาวนานไปจนถึงอายุ 99 ปี

สาระ อธิบายถึงแนวคิดเบื้องหลังผลิตภัณฑ์นี้ว่า เป็นการใช้ประโยชน์จากหลักการของประกันชีวิตเพื่อสร้างกองทุนมรดกที่มีประสิทธิภาพและสภาพคล่องสูง สมมติว่าลูกค้าต้องการเตรียมเงินสด 40-50 ล้านบาทไว้ให้ทายาท อาจจะต้องกันเงินลงทุนหรือสินทรัพย์สภาพคล่องไว้จำนวนมาก แต่ด้วยผลิตภัณฑ์นี้ ลูกค้าสามารถใช้เงินทุนที่น้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เช่น หลักล้านบาท เพื่อสร้างความคุ้มครองชีวิตในหลักสิบล้านบาทได้ทันที ซึ่งเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ที่ส่งมอบให้ผู้รับประโยชน์นั้นยังได้รับการยกเว้นภาษีมรดกและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้มั่นใจได้ว่าความมั่งคั่งจะถูกส่งต่อไปยังคนที่รักอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ผลิตภัณฑ์นี้เปิดรับสมัครตั้งแต่อายุ 30 วัน ถึง 80 ปี โดยกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำที่ 10 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดบนอย่างชัดเจน

“เมืองไทย เฟล็กซี่ โพรเทคชั่น 99/20” ปกป้องยืดหยุ่น ตอบโจทย์วัยทำงานสู่วัยเกษียณ

ขณะเดียวกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าวัยทำงานที่ต้องการสร้างหลักประกันตั้งแต่วันนี้ และมองหาความคุ้มครองสุขภาพในระยะยาว เมืองไทยประกันชีวิตได้นำเสนอ “เมืองไทย เฟล็กซี่ โพรเทคชั่น 99/20” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพไว้ในกรมธรรม์เดียว

จุดเด่นของแบบประกันนี้คือระยะเวลาการชำระเบี้ยที่สั้นเพียง 20 ปี แต่ให้ความคุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี ช่วยให้ผู้เอาประกันภัยหมดภาระการจ่ายเบี้ยในช่วงวัยเกษียณ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับนวัตกรรมที่โดดเด่น คือ ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนวงเงินความคุ้มครองชีวิตให้เป็นวงเงินค่ารักษาพยาบาลได้เมื่อถึงวัยเกษียณ (ตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไป) ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) ในรูปแบบเหมาจ่าย ซึ่งช่วยแก้ปัญหาค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่ปรับตัวสูงขึ้นตามอายุในวัยชรา และยังสามารถนำเบี้ยประกันภัยไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปีตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร

ยกระดับบริการสู่ที่ปรึกษาครบวงจรด้วย “MTL Legacy Consultant”

สาระ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์ คือการสร้างโซลูชันที่ครบวงจร บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวบริการ “MTL Legacy Consultant” เพื่อมอบสิทธิพิเศษเหนือระดับให้กับลูกค้าคนสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อแบบประกันภัย “เมืองไทย พรีเมียร์ เลกาซี่ 99/1” ที่มีทุนประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป บริการนี้เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ 2 แห่ง ได้แก่

  1. บริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Tilleke & Gibbins): บริษัทที่ปรึกษากฎหมายและภาษีอากรชั้นนำของประเทศ จะเข้ามาให้คำปรึกษาเชิงลึกแบบส่วนตัว (Online Private Consultant) ในด้านการวางแผนภาษีมรดก การออกแบบพินัยกรรม และโครงสร้างธุรกิจครอบครัว เพื่อให้การส่งต่อทรัพย์สินเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย
  2. บริษัท ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด: ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนชีวิตในระยะท้าย (End-of-life Planning) จะจัดกิจกรรม Exclusive Workshop เพื่อให้ความรู้และคำปรึกษาในการออกแบบพินัยกรรมชีวิต (Living Will) ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาเลือกวิธีการรักษาในช่วงสุดท้ายของชีวิต และการจัดทำสมุดบันทึกเพื่อนชีวิต (Living & Leaving Note) เพื่อให้การจากไปเป็นไปอย่างสงบและสมศักดิ์ศรี

นอกเหนือจากนี้ ลูกค้ายังได้รับสิทธิ์ปรึกษานักวางแผนการเงินส่วนบุคคล เพื่อวางแผนการลงทุน บริหารความเสี่ยง และภาษีในภาพรวมอีกด้วย การสร้างสรรค์บริการนี้สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ของเมืองไทยประกันชีวิตที่ต้องการเป็นมากกว่าผู้ขายประกัน แต่เป็น “คู่คิด” ที่ช่วยลูกค้าวางแผนเรื่องสำคัญของชีวิตได้อย่างรอบด้าน

เชื่อมั่นการเติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง

เมื่อมองถึงภาพรวมธุรกิจ สาระ ให้ความเห็นว่าแนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปียังคงมีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง ซึ่งยังคงได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงไตรมาสที่ 1 จะมีผลิตภัณฑ์ประเภท Co-payment เข้ามาทำตลาด แต่ความต้องการความคุ้มครองสุขภาพแบบครอบคลุมยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโต

“แนวโน้มของเบี้ยประกันใหม่ยังคงเติบโตได้ดี เรายังคงเห็นการเติบโตประมาณ 2-3% ซึ่งเป็นสัญญาณบวก การแข่งขันในตลาดประกันสะสมทรัพย์อาจจะรุนแรง แต่ในฝั่งของผลิตภัณฑ์คุ้มครอง (Protection) และสุขภาพ (Health) ยังมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมาก ผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้จึงออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ไม่ใช่แค่การแข่งขันด้านผลตอบแทน” สาระ กล่าว

กลยุทธ์ของเมืองไทยประกันชีวิตไม่ได้จำกัดอยู่แค่การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังรวมถึงการดูแลฐานลูกค้าเดิมผ่านโครงการ “เมืองไทยสไมล์คลับ” ซึ่งสมาชิกสามารถใช้คะแนนสะสม Smile Point เพื่อแลกรับสิทธิ์เข้าร่วมบริการของ MTL Legacy Consultant ได้เช่นกัน นับเป็นการเปิดกว้างให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการวางแผนมรดก ซึ่งเป็นพันธกิจของบริษัทฯ ในการช่วยทุกคนส่งต่อความห่วงใยและความมั่นคงให้กับคนที่รักได้อย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา