MR. D.I.Y. ค้าปลีกสัญชาติมาเลเซีย มีจุดเด่นเรื่องความหลากหลายของสินค้า มีราคาคุ้มค่า เข้ามาทำธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี 2016 และถือเป็นการขยายสาขานอกประเทศครั้งแรกหากนับจากเริ่มทำธุรกิจในมาเลเซียเมื่อปี 2005 ซึ่งรู้หรือไม่ ปี 2023 MR. D.I.Y. มีถึง 739 สาขาในไทย ผ่านโมเดลในศูนย์การค้า, สแตนด์อโลน และเอ็กซ์เพรส
แต่หลังจากนี้ MR. D.I.Y. ยังคงดีกรีการเพิ่มสาขาต่อปีโดยเฉลี่ย 40% นับตั้งแต่เปิดธุรกิจ ก่อนที่ปี 2025 หรือปีที่ 10 ในการทำธุรกิจในประเทศไทย MR. D.I.Y. จะมีสาขา 1,000 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย พร้อมนำสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่นี่
ความสำเร็จของ MR. D.I.Y. ในปี 2023 เป็นอย่างไร และปี 2024 ตัวธุรกิจจะเดินหน้าด้วยกลยุทธ์แบบไหน Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ แอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MR. D.I.Y. ประเทศไทย เพื่อหาคำตอบข้างต้นดังนี้
MR. D.I.Y. ค้าปลีกที่เร่งขยายสาขา
แอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MR. D.I.Y. ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบัน MR. D.I.Y. มี 739 สาขาทั่วประเทศไทย จำหน่ายสินค้ารวมกว่า 15,000 SKU ผ่านการจำหน่ายสินค้า Private Brand และสินค้าที่ร่วมกับพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ ในประเทศไทย
“ปี 2023 MR. D.I.Y. เปิดไปทั้งหมด 186 สาขา ซึ่งเรามีสาขาเติบโตต่อปีโดยเฉลี่ย 40% นับตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจในประเทศไทยเมื่อปี 2016 เพื่อรับกับจุดมุ่งหมายของแบรนด์ที่ต้องการทำให้การซื้อสินค้านั้นง่าย และสนุก ผ่านคุณภาพ กับราคาที่แข่งขันในตลาดนี้”
ล่าสุด MR. D.I.Y. ได้เปิด Flagship Store ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ โดยสาขาดังกล่าวมีพื้นที่จำหน่ายสินค้า 1,285 ตร.ม. ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และตกแต่ง รวมถึงมีสินค้าที่แตกต่างจากสาขาอื่น และยังเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าในรอบ 3 ปี
เร่งขยายจนเปิดเบอร์ 1 ของตลาด
หากอ้างอิงจากข้อมูลจากบริษัทวิจัย และสำรวจ Frost & Sullivan แบรนด์ MR. D.I.Y. มีส่วนแบ่งในตลาดร้านขายสินค้าจิปาถะ หรือ General Home Improvement & Life Style Retail เป็นอันดับ 1 เมื่ออ้างอิงรายได้ ด้วยส่วนแบ่ง 32.4% โดยตลาดนี้มีผู้เล่น เช่น Daiso, Go Wow และ Miniso เป็นต้น
“Mr. D.I.Y. เป็นอันดับ 1 ในตลาด แต่บอกได้เลยว่ายังไม่มีใครจำหน่ายสินค้าแข่งขันกับเราตรง ๆ เพราะเรามีสินค้าหลากหลายมาก เช่น กลุ่มเครื่องเขียน อาจไปแข่งกับร้านหนังสือ หรือกลุ่มฮาร์ดแวร์อาจไปแข่งกับร้านเครื่องมือช่างก็ได้ แต่ที่เราเป็นเบอร์ 1 ในตลาดนี้ก็พิสูจน์ได้ว่า โมเดลธุรกิจนี้ตอบโจทย์ชาวไทย และอาเซียนได้จริง”
หากมองในมุมจำนวนสาขาเทียบกับคู่แข่งในตลาดข้างต้น MR. D.I.Y. ยังเป็นเบอร์ 1 ของตลาดเช่นกัน และบริษัทยืนยันว่าถึงจะเปิดมากขนาดนี้ แต่ยังมีโอกาสในการเติบโตด้านจำนวนสาขาอีก จึงคงเป้าหมาย 1,000 สาขา ภายในปี 2025 โดยเบื้องต้นในปี 2024 จะขยายสาขาอย่างน้อยเท่ากับที่ทำในปี 2023
เป้า 1,000 สาขา ดันไทยสำคัญรองแค่มาเลเซีย
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น MR. D.I.Y. เป็นร้านที่มีต้นกำเนิดจากมาเลเซีย และมีการขยายไปในภูมิภาคอาเซียนประกอบด้วย สิงคโปร์, ไทย, บรูไน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา รวมถึงมีในตุรกี, อินเดีย และสเปน ผ่านสาขารวมทั้งหมด 3,500 แห่ง และไทยคือประเทศที่มีสาขามากที่สุดรองจากมาเลเซีย คิดเป็น 20% ของสาขาทั่วโลก
“ผมไม่คิดว่า MR. D.I.Y. ขยายสาขาอย่างรวดเร็ว แต่เราทำผ่านความเข้าใจ และรู้จักว่าผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่นั้นชอบอะไร และที่สำคัญ เราพยายามเป็นร้านที่ตอบโจทย์ได้ทุกคนในครอบครัว ผ่านการมีทุกอย่างให้พ่อ แม่ และลูก ได้เลือกซื้อ ที่สำคัญถ้าเดินเข้ามาในร้านเรา กำเงิน 200 บาท จะได้ของกลับบ้านไป 10 ชิ้นเป็นอย่างน้อย”
หากเจาะไปที่การขยายสาขาในปี 2024 จะยังเน้นเปิดที่กรุงเทพ และต่างจังหวัดไปพร้อมกัน เช่น ฝั่งภาคตะวันออก ผ่านจำนวนประชากรที่มาก และการขยายจะไปในทุกรูปแบบ หรือร้านที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า, ร้านแบบสแตนด์อโลน และร้านขนาดเล็ก หรือเอ็กซ์เพรส
เพิ่มคลังสินค้า เดินหน้าออนไลน์ หาโอกาสร้านใหม่
ทั้งนี้การขยายสาขาจำนวนมากทำให้ MR. D.I.Y. จำเป็นต้องลงทุนขยายคลังสินค้าเพื่อกระจายไปยังสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 9 แห่ง และยังมีสถานที่เพียงพอ แต่หลังจากนี้จะขยายเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว
- แนวโน้ม คนตกแต่ง-ซ่อมบ้านเองมากขึ้น MR. D.I.Y. เร่งศักยภาพสินค้าไพรเวทแบรนด์ รับความต้องการตลาด
- MR. D.I.Y. เตรียม IPO ที่ตลาดหุ้นมาเลเซียสิ้นเดือนนี้ คาดมูลค่ากิจการสูงถึง 75,000 ล้านบาท
อานุภาพ คงมาลัย รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด MR. D.I.Y. ประเทศไทย เสริมว่า ปัจจุบันยอดขายของ MR. D.I.Y ในประเทศไทยจะมาจากกลุ่มสินค้าภายในบ้าน และฮาร์ดแวร์ 50% โดยทางร้านมีการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Shopee และเว็บของร้าน แต่ยอดขายยังเป็นน้อยกว่า 1%
ขณะเดียวกัน MR. D.I.Y. ยังอยู่ระหว่างศึกษาการนำร้านอื่น ๆ ในเครือ เช่น MR. DOLLAR ที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารในราคาประหยัด รวมถึง MR. TOY ร้านขายของเล่นราคาประหยัด เข้ามาทำตลาดในไทยเช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา