ปลุกไฟในตัวคุณ กับ SME ตัวท็อป และเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ

ปีนี้หลายคนที่ทำธุรกิจคงเจอปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว, ความไม่มั่นคงทางการเมือง รวมถึงความโศกเศร้าในช่วงสิ้นปีอีก จนรู้สึกท้อไปตามๆ กัน เพราะผู้บริโภคไม่จับจ่ายเหมือนในสภาวะปกติ แต่นี่ก็จะปีใหม่แล้ว Brand Inside จึงอาสาปลุกไฟในตัวคุณ ผ่านแนวทางการทำธุรกิจของหลากหลายเอสเอ็มอี เพื่อการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

coco

เร่งหานวัตกรรมสร้างความแตกต่าง

วราภรณ์ มนัสรังษี กรรมการผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออลโคโค จำกัด ผู้จัดจำหน่ายมะพร้าวน้ำหอม All Coco เล่าให้ฟังว่า กว่าตัวแบรนด์จะติดตลาด และเป็นที่รู้จักในต่างประเทศต้องใช้เวลาสร้างนวัตกรรมใหม่ เพราะมะพร้าวน้ำหอมคือผลไม้ที่หาได้ง่ายในประเทศไทย ดังนั้นถ้าไม่แตกต่าง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำธุรกิจต่อ จึงเร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ให้กับตัวมะพร้าวน้ำหอม เช่นหาวิธีทำให้ตัวมะพร้าวสดใหม่ตลอดเวลา และทำมะพร้าวน้ำหอมแบบปลอกเปลือกพร้อมรับประทาน รวมถึงไอศครีมที่มาจากมะพร้าวน้ำหอมรสชาติต่างๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังกล้าเสี่ยงที่จะเปิดร้าน Coconut Cafe ขึ้นมา เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ นอกจากการวางจำหน่ายภายใน Super Market เพราะต้องการสร้างความโดดเด่นให้กับตัวแบรนด์ จนปัจจุบันเปิดไปทั้งสิ้น 14 สาขา ที่สำคัญด้วยตัวมะพร้าวน้ำหอมที่หาซื้อได้ยากในต่างประเทศ และความแตกต่างกับผู้เล่นรายอื่น ทำให้ All Coco สามารถเข้าไปวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้, ฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้ และอังกฤษ และกำลังจะขยายเพิ่มเติมอีกด้วย พร้อมย้ำว่า ก่อนจะทำธุรกิจใดๆ ต้องมองถึงประโยชน์ของผู้บริโภค ก่อนผลกำไร

ภาพเฟสบุ๊ก after u
ภาพเฟสบุ๊ก after u

Dream และ Draw ช่วยเพิ่มความมั่นคง

กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.อาฟเตอร์ ยู เสริมว่า กว่าร้าน After U จะเติบโตมาถึงขนาดนี้ ต้องอาศัย Dream และ Draw มามากกว่า 10 ปี เพราะคุณพ่อ (วิวัฒน์ กนกวัฒนาวรรณ) สอนให้กล้าฝัน และจดบันทึกเรื่องที่ชอบมาโดยตลอด ที่สำคัญส่วนตัวชอบทำขนมมาตั้งแต่เด็กๆ และจดสูตรมาตลอด จนปี 2550 ตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อนเพื่อเปิดร้าน After U ที่ J Avenue ทองหล่อ และใช้ ขนมปังเนย หรือ Shibuya Toast เป็นพระเอกของร้าน ซึ่งสุดท้ายก็สามารถดึงคนมาที่ร้าน และสามารถขยายได้ 18 สาขาภายใน 9 ปี

“คนที่อยากทำธุรกิจใหม่ควรมี Dream ก่อน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และ Draw มันทุกอย่าง เพราะหากทุกอย่างเหมาะสม ทั้งเรื่องเวลา และงบลงทุน ก็จะสร้างธุรกิจได้เร็วมาก ส่วนเรื่องอนาคตยังไม่อยากให้โตเร็วมากนัก เพราะ After U ปกติแล้วจะเปิดปีละ 1 สาขา แต่พอมันเร็วก็เร็วจริงๆ รวมถึงมีนักลงทุนจากต่างประเทศอยากซื้อเฟรนไชส์เราอีก แต่ก็ไม่อยากขายตอนนี้ แม้อยากจะออกไปทำตลาดต่างประเทศก็ตาม และอยากย้ำว่ากลุ่มเอสเอ็มอีต้องสู้ตลอด ไม่สามารถท้อได้ แม้จะเจอเรื่องหนักๆ ก็ตาม เช่น After U ก็เคยโดนเผาร้านมาแล้ว”

ภาพ pixabay.com
ภาพ pixabay.com

ดึงใจแรงงานผ่านนโยบาย SOTUS

วรชาติ ดุลยเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูลเลเซีย อะกริฟลูอิด จำกัด บอกว่า กว่าบริษัทจะเข้ามาเป็นเบื้องหลังให้กับผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตรหลายรายได้ นอกจากทีมงานวิจัยเกี่ยวกับการเกษตรต้องเก่งแล้ว เรื่องพนักงานส่วนอื่นๆ เช่นฝ่ายผลิต และขนส่งก็ต้องมีใจให้กับบริษัทเช่นกัน เพราะถ้าพวกเขาไม่ใส่ใจ ก็เท่ากับฟันเฟืองของธุรกิจหายไปตัวหนึ่งทันที โดยทางบริษัทได้ใช้นโยบาย SOTUS ที่ใช้ในมหาวิทยาลัย เพื่อซื้อใจพนักงานทุกคน และร่วมฝ่าวิกฤติต่างๆ ไปด้วยกัน

“ในระดับคีย์แมน เราก็สักโลโก้บริษัทไปที่ผิวหนังของเขาด้วย คงไม่มีใครบ้าเท่าเราอีกแล้ว ส่วนเรื่อง SOTUS ก็เลียนแบบมาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ผมจบมา ทำให้เราอยู่กันเหมือนพี่กับน้อง มากกว่าเจ้านายกับผู้ใต้บังคับบัญชา และเรื่องพนักงานนั้นเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีว่าเงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง เพราะถึงให้เงินเดือนเขาสูงแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีใจเขาก็คงต้องออกจากองค์กรเรา ซึ่งปัจจัยนี้ทำให้บริษัทสามารถเจาะกลุ่มบริษัทเคมีทางการเกษตรได้ 300 กว่าบริษัทในไทย และมีหลายองค์กรในต่างประเทศที่ติดต่อให้เราไปช่วยพัฒนาสินค้าด้วย”

สรุป

นวัตกรรม – ความฝัน – การซื้อใจ เป็น 3 เรื่องที่สามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตในยุคที่แข่งขันสูงได้ ดังนั้นเอสเอ็มอีรายใดที่อยู่ในช่วงวิกฤตอาจเอาแนวคิดนี้ไปปรับใช้ หรือผู้ที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจก็สามารถนำไปสร้างธุรกิจได้เช่นกัน แต่ทั้งหมดนี้ต้องอย่าลืมว่า เราไม่สามารถคิดได้แค่ในไทย เพราะตอนนี้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเริ่มแล้ว และคู่แข่งก็ไม่ใช่แค่ในประเทศอีกต่อไป

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา