บริษัทอังกฤษส่วนใหญ่ถูกใจการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ผลประกอบการดี พนักงานไม่หมดไฟ ลาออกลดลง

ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์มันดีต่อใจจนถูกใจคนอังกฤษ บริษัทรายได้เพิ่มขึ้น พนักงานหมดไฟลดลง

4-Day Week Global องค์กรเอกชนของนิวซีแลนด์ทำการศึกษาเรื่องการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ในหลายแห่งได้ศึกษาบริษัท 61 แห่ง รวมถึงพนักงานอาสาสมัครราว 2,900 รายในสหราชอาณาจักรที่เปลี่ยนมาใช้นโยบายทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทในสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวน อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ความไม่มั่นคงทางการเมือง และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) สหราชอาณาจักรถือเป็นสนามทดลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ผลการศึกษาพบว่า บริษัท 56 แห่งเลือกที่จะขยายเวลาใช้นโยบายทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ในจำนวนนี้มีบริษัท 18 แห่งเลือกใช้นโยบายนี้แบบถาวร เพราะมองว่าทำให้ผลประกอบการของบริษัทดีขึ้น พนักงานลาออกลดลง และปัญหาอาการหมดไฟลดลง รวมทั้งการลาป่วยของพนักงานในช่วงการทดลองลดลง 2 ใน 3 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2021

นอกจากนี้ จากการสำรวจความพึงพอใจของพนักงาน 2,900 รายทั้งก่อนและหลังการทดลอง พนักงาน 39% กล่าวว่าตนเองเครียดลดลง 40% กล่าวว่านอนหลับได้ดีขึ้นและ 54% เผยว่าการได้หยุดเพิ่มอีก 1 วันทำให้หาความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้ดีขึ้น 

องค์กรที่ทำการศึกษาเตรียมเสนอผลการศึกษานี้ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อผลักดันให้มีการอนุมัติกฎหมายให้พนักงานทุกคนในสหราชอาณาจักรทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (4 วัน วันละ 8 ชั่วโมง)

ผลการศึกษานี้ช่วยยืนยันผลการศึกษาทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ และออสเตรเลีย ที่แสดงให้เห็นว่าบริษัททีผลประกอบการดีขึ้น ระดับประสิทธิผลในการทำงาน (Productivity) ของพนักงานมากขึ้น การลางานโดยไม่มีเหตุผลและการลาออกก็ลดลงด้วย ทั้งนี้ การศึกษานี้มีบริษัทร่วมทดลองน้อยว่าการศึกษาในสหราชอาณาจักรราวครึ่งหนึ่งและมีพนักงานเป็น 1 ใน 3 เท่านั้น

แม้ว่ากระบวนการศึกษาจะถูกออกแบบมาอย่างเป็นระบบและครอบคลุมองค์กรจากหลายธุรกิจ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ว่าองค์กรที่เข้าร่วมมีขนาดเล็ก และอาจจะไม่ครอบคลุมทั้งหมดเพราะองค์กรและพนักงานเข้าร่วมการศึกษาโดยอาสาสมัครเองไม่ใช่องค์กรที่เป็นผู้ศึกษาสุ่มเอง

ทำงานน้อยลงในช่วงวิกฤติค่าครองชีพ?

ไม่มีพนักงานในการทดลองเลยสักคนที่ต้องการให้บริษัทยกเลิกนโยบายทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ และพนักงาน 15% เผยว่าการที่บริษัทจ่ายเงินเดือนเพิ่มจะทำให้พวกเขากลับมาทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์

พนักงานที่ร่วมทดลองเผยว่าตนเองชอบทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ทุกอย่างดีขึ้น เครียดและเหนื่อยล้าน้อยลง สุขภาพและการจัดการกับชีวิตส่วนตัวดีขึ้น พนักงานชายใช้เวลาในการดูแลบุตรเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับพนักงานหญิงในระหว่างการทดลอง

บริษัทส่วนใหญ่เลือกใช้นโยบายการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ยกเว้นบริษัทไม่กี่แห่งที่เลือกให้พนักงานทำงาน 5 วันแต่ทำงานในชั่วโมงที่สั้นลง และธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการทำงานตามฤดูกาลอย่างเช่น ร้านอาหาร

อย่างไรก็ตาม รายงานจากองค์กรด้านทรัพยากรมนุษย์ Chartered Institute of Personnel and Development (CIPD) เผยว่า มีพนักงานจำนวนมากในสหราชอาณาจักรต้องการเพิ่มชั่วโมงการทำงานเพื่อหาหนทางเพิ่มรายได้ในช่วงที่เกิดวิกฤติค่าครองชีพพุ่งสูง

Jon Boys นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านตลาดแรงงานของ CIPD ยังเผยว่าความเสี่ยงของการปรับนโยบายเหลือวันทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์คือ เมื่อบริษัทลดชั่วโมงการทำงานลง 20% ต้องทำให้ Productivity เพิ่มขึ้น 25% เพื่อทำให้ประสิทธิภาพของงานยังเท่าเดิม 

ขณะที่ผลการศึกษาในสหราชอาณาจักรพบว่าผลประกอบการของบริษัทดีขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2021 และเพิ่มขึ้น 1.4% ในช่วงที่ทำการศึกษา รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ ให้คะแนน Productivity เฉลี่ยอยู่ที่ 7.5 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 การลางานเฉลี่ยลดลงเหลือ 0.7 วันต่อเดือนจากเดิมอยู่ที่ 2 วัน การลาออกของพนักงานลดลงมากกว่าครึ่ง โดยรวมแล้วมีคะแนนเฉลี่ยประสบการณ์ในช่วงการทดลอง 8.3 คะแนนจาก 10 คะแนน

Tyler Grange บริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้าร่วมในการทดลองเปลี่ยนไปใช้นโยบายการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์อย่างถาวรกับพนักงานราว 100 คน บริษัทเผยว่า เวลาการทำงานที่น้อยลงเพิ่ม Productivity ได้มากกว่า 20% และทำให้พนักงานลาป่วยลดลงราว 18 วัน พนักงานเองยังบอกว่าการลดเวลางานลง 1 วันช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลบุตรและค่าเดินทาง

ความยืดหยุ่นที่อาจไม่ยืดหยุ่นจริง

ในยุคที่ความยืดหยุ่นในการทำงานเป็นปัจจัยสำคัญ นโยบายทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ช่วยดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้ามาทำงานกับบริษัท

ทั้งพนักงานชายและหญิงต่างมองว่าการทำงานลดลง 1 วันมีประโยชน์และสร้างความพึงพอใจในชีวิต รวมทั้งยังสร้างความเปลี่ยนแปลงของบทบาทในครัวเรือน โดยผู้ชายช่วยเลี้ยงดูบุตรมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีบางคนมองว่านโยบายทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ในอีกแง่หนึ่งก็อาจจะทำให้เสียความยืดหยุ่นในการทำงาน Matthew Crummack ซีอีโอของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า Domestic & General มองว่าในช่วงวันที่หยุดเพิ่มอาจมีงานด่วนเข้ามาจนพนักงานต้องจำใจทำงานก็ได้ บริษัท Domestic & General จึงเลือกให้พนักงานทำงานตามชั่วโมงที่ยืดหยุ่นได้อย่างเต็มที่ และสามารถตัดสินใจเองได้เลยว่าจะเข้ามาทำงานที่สำนักงานหรือไม่

ต้องลองลุ้นต่อไปว่าเมื่อผลการศึกษาถูกนำเสนอต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว พนักงานในสหราชอาณาจักรจะได้เปลี่ยนมาทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์กันทุกคนหรือไม่

ที่มา – The Strait Times, The Guardian

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา