อยากตี้แต่ไม่อยากเมา? รู้จัก ‘Morning Affair’ ปาร์ตี้กาแฟตอนฟ้าสว่างสไตล์คนรุ่นใหม่

อยากไปตี้ แต่ไม่สะดวกออกจากบ้านตอนดึกๆ แอลกอฮอล์ก็ไม่ค่อยดื่ม ทำยังไงดี?

Morning Affair

‘Morning Affair’ คืองาน ‘ปาร์ตี้กาแฟ’ ที่จะจัดขึ้นในช่วงสายๆ จนถึงบ่ายแก่ๆ ของวันหยุดสุดสัปดาห์ เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ‘TICTACTOE’ บาร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ กับ ‘RISE Coffee’ แบรนด์ร้านกาแฟสุดเรียบง่ายที่อยากให้ทุกคนเข้าถึง โดยเพิ่งจัดครั้งล่าสุดเป็นครั้งที่ 5 ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

แม้ Morning Affair จะเกิดขึ้นในตอนที่ฟ้ายังสว่างจ้า แต่บรรยากาศนี่แทบไม่ต่างจากการไปร้านเหล้าปกติเลย เพราะมีทั้งโปรดักชันอลังการ ดีเจ เวที เพื่อนๆ สายตี้ และกาแฟกับเบเกอรีหอมกรุ่นทำกันสดใหม่

แรงบันดาลใจในการจัด Morning Affair คืออะไร? มาดูกัน

จากร้านเหล้าตอนกลางคืน สู่ ‘ปาร์ตี้กาแฟ’ ตอนกลางวัน

Morning Affair
ภาพจาก Facebook: Tictactoe Bangkok

เอาจริงๆ หากจะให้เล่าถึง Morning Affair คงต้องย้อนไปที่สองธุรกิจแรกอย่าง ‘Echelon’ และ ‘TICTACTOE’ ก่อน

‘ธีธัช เยื่องศรีกุล’ ผู้ร่วมก่อตั้ง Morning Affair, TICTACTOE และ Echelon เล่าภายในงาน The Secret Sauce Summit 2025 ว่า จุดเริ่มต้นมันมาจากการที่เขาและเพื่อนๆ อีก 5 คนไปเที่ยวกลางคืนแล้วเจอปัญหา

‘ธีธัช’ เผยว่า ปกติ เวลาคนจะไปเที่ยวกลางคืน ส่วนมากตัวเลือกคงมีอยู่แค่ 2 แบบคือไม่ไปไนท์คลับก็ต้องไปบาร์ ซึ่งตัวเขาเองเป็นคนที่ชอบไปบาร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เจอปัญหาว่า เมื่อไปเที่ยวและเครื่องติด อยากไปไนท์คลับต่อ พวกเขาก็ต้องย้ายร้าน ซึ่งช่วงเวลาแบบนี้นี่ล่ะที่เพื่อนจะค่อยๆ หายกลับบ้านไปทีละคน ไม่ครบตี้เหมือนตอนขามา

ด้วยเหตุนี้ ธีธัชกับเพื่อนๆ จึงตัดสินใจก่อตั้ง ‘Echelon’ ขึ้นมา โดยหวังให้มันสามารถเป็นได้ทั้งบาร์และไนท์คลับในสถานที่เดียว เพื่อแก้ปัญหาที่พวกเขาเจอ

หลังจากเปิด Echelon ไปสักพัก ธีธัชสังเกตว่า มี Dating Culture (วัฒนธรรมการเดต) เกิดขึ้นในร้าน จึงนำวัฒนธรรมนี้ไปต่อยอดให้เกิดเป็น ‘TICTACTOE’ บาร์แห่งใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองให้ลูกค้าในร้านได้รู้จักกันมากขึ้น

ธีธัชอธิบายว่า จุดเด่นของ TICTACTOE คือการผสานความเป็น Dating Culture เข้าไปในหลายๆ องค์ประกอบ เช่น เมนูค็อกเทล ที่สามารถนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ได้ตั้งแต่แก้วแรกยันแก้วสุดท้าย

แน่นอนว่า พอเปิด TICTACTOE พวกเขาก็เจอปัญหาใหม่อีก โดยรอบนี้ ลูกค้าบางส่วนบอกว่า อยากได้ประสบการณ์ Dating Culture บ้าง แต่ไม่ค่อยชอบดื่มแอลกอฮอล์ ทำอย่างไรดี?

นี่ล่ะ จึงเป็นที่มาของ Morning Affair ปาร์ตี้กาแฟตอนฟ้าสว่าง ซึ่งธีธัชนิยามว่า เป็นเหมือนการย้าย TICTACTOE มาตอนกลางวันเลย และพอเกิดไอเดียนี้ปุ๊ป จึงไปติดต่อ RISE Coffee ให้มาร่วมงานด้วยกัน

เหมาหมด ‘คอกาแฟ-คนรักสุขภาพ-สายตี้’

Morning Affair
ภาพจาก Facebook: Tictactoe Bangkok

แล้ว Morning Affair นี่เหมาะกับใคร? ธีธัชก็บอกว่า อีเวนต์นี้มีกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ 3 ประเภทคือ 

  1. คอกาแฟที่ชอบเช็กอินร้านกาแฟต่างๆ
  2. สายรักสุขภาพ เช่น วิ่งเสร็จตอนเช้าๆ ก็มาร่วมงานได้ 
  3. สายตี้ที่เที่ยวฉ่ำตั้งแต่คืนวันศุกร์และวันเสาร์ แต่ยังอยากมาเที่ยวต่อในเช้าวันอาทิตย์ รวมถึงอดีตสายตี้ที่ตอนนี้ไม่สะดวกเที่ยวกลางคืนอีกต่อไป

ธีธัชเล่าว่า ตอนจัด Morning Affair ครั้งแรก เขาตั้งใจจัดงานแค่ในสเกลเล็กๆ เท่านั้น โดยเชิญแต่คนที่รู้จักประมาณ 100-200 คน

อย่างไรก็ตาม เมื่องานเริ่มแล้วคนพากันลงคอนเทนต์ ลูกค้าจึงมาเพิ่มขึ้น จนพุ่งไปถึง 600 คน แถมยังถามกันอีกว่า รอบสองจะจัดเมื่อไร?

ธีธัชเผยว่า ลูกค้าของ Morning Affair ลงคอนเทนต์ให้เยอะมาก ซึ่งพอผู้บริโภคกลายเป็นคนส่งต่อเนื้อหาเอง ความอินมันก็จะชัดกว่า และทำให้คอมมูนิตี้เหนียวแน่นขึ้น โดยไม่ได้ส่งผลดีแค่กับงานนี้เท่านั้น เพราะยังทำให้มีลูกค้าไปเที่ยว TICTACTOE เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

“Morning Affair เราจัดเดือนละวัน ลูกค้าที่มาเขา want to be seen มากๆ หมายความว่าเขาไม่ได้จะแอบมาเที่ยวนะ ฉันตั้งใจมาเที่ยวมาก เขาลงคอนเทนต์ให้เราเยอะมาก ผมจัดที่ผ่านมา 4 รอบ มีลูกค้าลง 3,500 mention เลย แล้วก็มีการแชร์ การดูกันกว่า 9-10 ล้านวิว ก็เลยค่อนข้างที่จะชัดมากว่า เออ ลูกค้าเขา want to be seen” ธีธัชกล่าว

ทำในสิ่งที่ชอบ คงคุณค่าหลักไว้ และปรับปรุงตามฟีดแบค

Morning Affair
ภาพจาก Facebook: Tictactoe Bangkok

แม้ Morning Affair เคยจัดขึ้นไปถึง 5 ครั้งแล้ว แต่ในโลกของการทำงาน ต่อให้มีประสบการณ์มากขนาดไหน ยังไงๆ เราก็หนีปัญหาไม่พ้นอยู่ดี

“เฟลทุกครั้ง ทุกครั้งที่จัดก็เฟลตลอด คือกว่าจะออกมาได้งานนึง เราหกคนตีกันมาเยอะมาก ทั้งทีมมาร์เก็ตติ้งด้วย เราวางแผนกันอย่างดีเลย แต่ว่าสุดท้าย You don’t know what you don’t know คือเราทำไปเต็มที่ สุดท้ายก็มีปัญหา ยังไงก็มีปัญหาแน่นอน ซึ่งเราเจอปัญหา เราก็แค่แก้ปัญหาหน้างานไปเรื่อยๆ แก้ตามฟีดแบคไป โดยที่ core value เราไม่หลุด” ธีธัชกล่าว

ในมุมของธีธัชแล้ว จุดแข็งของทั้งสามธุรกิจที่ทำมาคือความสามารถในการคง ‘Core Value’ ไว้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ยอมแก้ไขอะไรเลย เพราะตัวเขาและเพื่อนๆ ยินดีปรับปรุงตามฟีดแบคจากลูกค้า ตราบใดที่มันไม่เข้าไปเปลี่ยนหรือทำให้ตัวตนแบรนด์เสียหาย

ธีธัชยกตัวอย่างว่า ตอนจัด Morning Affair ครั้งที่ 3 ปัญหาที่เจอคือ คนมาแน่นมาก ราวๆ 800 คน จึงตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่ในงานครั้งที่ 4 ให้รองรับผู้เข้าร่วมได้กว่า 2,500 คน โดยมีทั้งดีเจด้านในและด้านนอก 

แต่ก็ยังไม่วาย เจอปัญหาอีก เพราะอากาศร้อน ทำให้ในครั้งที่ 5 พวกเขาเลยจัดในสถานที่ที่ติดแอร์ทั้งหมด

“เรายินดีที่จะปรับ อย่าง Morning Affair เราจัดรอบแรกแล้วดริงก์ช้า อะไรช้า เรายินดีปรับ แต่เพลง หรือ crowd นี่เราจะล็อก core value เราไว้เลย” 

ธีธัชเชื่อว่า ทุกวันนี้ โลกเรามีกระแสเต็มไปหมด หากจะตามแค่เทรนด์นั้นๆ ไม่นานก็คงเหนื่อย แต่ถ้าทำในสิ่งที่ตนเองชอบ รู้จักปรับจูน นี่ต่างหากถึงเป็นสิ่งที่ยั่งยืนและทำให้ core value ชัดเจนไปตลอดได้

จากเรื่องราวของ Morning Affair เราคงเห็นแล้วว่า บางที ธุรกิจที่สำเร็จอาจไม่ใช่ธุรกิจที่ไม่เจอปัญหา แต่เป็นธุรกิจที่เผชิญปัญหาและยังเลือกที่จะปรับปรุงต่อไปมากกว่า

ที่มา: tictactoebangkok, RISE COFFEE

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา