กรุงเทพพร้อมไหมกับบริการเช่าจักรยาน แต่ถึงคำตอบจะเป็นอย่างไร Mobike จากจีนก็รุกบริการนี้เต็มที่

อย่างที่รู้กันว่าถนนหนทางในกรุงเทพนั้นถึงจะมีเลนจักรยาน แต่ก็ไม่เหมาะสมกับการใช้ขับขี่มากนัก และยิ่งเห็นตัวอย่างโครงการ “ปันปั่น” ที่แทบไม่มีผู้ใช้ด้วย แต่ถึงจะไม่พร้อมขนาดไหน Mobike ผู้ให้บริการ Bike Sharing ก็ยังจะเข้ามาทำตลาด

จักรยาน Mobike ถ้าสังเกตดีๆ จะไม่มีโซ่ และตัวล้อใช้ยางแบบไม่ต้องสูบลม บวกกับโครงสร้างที่ทนทาน ทำให้ใช้งานได้นานถึง 4 ปี โดยไม่ต้องซ่อมบำรุง

ไม่ใช่ครั้งแรกของบริการเช่าบริการจักรยาน

บริการเช่าจักรยานในกรุงเทพนั้นมีมานานแล้ว แรกๆ อาจแค่เช่าขับขี่ในสวนสาธารณะ แต่พอกระแสรักษาสุขภาพด้วยการขับขี่จักรยานเริ่มมาแรง “หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ก็เดินหน้าโครงการจักรยานสาธารณะโดยกรุงเทพมหานคร หรือชื่อเท่ๆ ว่า “ปันปั่น” ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะการใช้งานที่ยาก ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานไม่อำนวย

เรื่องการใช้งานที่ยากนั้นก็ไล่ตั้งแต่ต้องลงทะเบียนออนไลน์ และต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปก่อน แถมต้องโอนเงินค่าสมัครบริการอีก 350 บาท (ค่าสมาชิก 320 บาท ค่าส่งบัตรสมาชิก 30 บาท) ส่วนการใช้งานก็ต้องเดินไปที่สถานีเพื่อเติมเงินเข้าไปในบัตรก่อน และแตะที่ตู้จึงเอารถจักรยานออกมาจากสถานีได้ โดยคิดค่าบริการเริ่มต้น 15 นาที-1 ชม. ที่ 10 บาท

ส่วนโครงสร้างพื้นฐานไม่เอื้ออำนวยนั้น ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง และเส้นทางพิเศษสำหรับจักรยานก็มีการจอดรถ ไม่ก็มีมอเตอร์ไซค์มาวิ่งแทน ประกอบกับอากาศค่อนข้างร้อน ทำให้คนกรุงไม่รู้จะปั่นจักรยานไปทำไม แต่ถึงกระนั่น Startup จากจีนอย่าง Mobike ก็เตรียมเข้ามาให้บริการเช่าจักรยาน ภายใต้แนวคิด Bike Sharing

เริ่มต้นที่มหาวิทยาลัย ชูราคาครึ่งชม. 10 บาท

สำหรับการเข้ามาทำตลาดของ Mobike นั้น Startup จากจีนเริ่มต้นด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) เพื่อนำซิมมาใช้กับจักรยาน เพราะต้องเชื่อมต่อ GPS รวมถึงใช้ QR Code, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อนำจักรยานชุดแรกไปทดลองให้บริการกว่า 300 คัน และบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ด้วย

Joe Xia ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ Mobike เล่าให้ฟังว่า การเข้ามาให้บริการในกรุงเทพจะเริ่มที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปลายเดือนต.ค. เพราะที่นั่นมีผู้ใช้จักรยานเยอะ และเป็นการสร้างสังคมจักรยานภายในมหาวิทยาลัยที่ดีขึ้นด้วย โดยจะให้ใช้บริการฟรีเป็นเวลา 2 เดือน หลังจากนั้นจะคิดค่าบริการเริ่มต้น 10 บาท/30 นาที ซึ่งผู้ใช้จะต้องเติมเงินเข้าไปใน Application เพื่อใช้บริการ

รอพัฒนาด้านภาษาเพื่อให้บริการเต็มรูปแบบสิ้นปี

อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้ใช้ในประเทศไทยสามารถดาวน์โหลด Mobike มาใช้งานบน Smartphone ได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถลงทะเบียนผู้ใช้ได้ เพราะอยู่ระหว่างเชื่อมต่อระดับบ รวมถึงพัฒนาด้านภาษา ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ และลักษณะการใช้งานของ Mobike ก็จะคล้ายกับ “ปันปั่น” โดยมีค่ามัจจำ 99 บาทเมื่อลงทะเบียน แต่สามารถค้นหาจักรยานที่ต้องการผ่าน Application และปลดล็อคการขับขี่ผ่าน App ได้ทันที รวมถึงตัวจักรยานจะจอดอยู่ตามที่สาธารณะต่างๆ ไม่มีที่จอดประจำ

การจอด Mobike ในสิงคโปร์ โดยการจอดนั้นจะจอดที่ใดที่เป็นที่จอดสาธารณะก็ได้ แต่ต้องไม่รบกวนผู้อื่น เช่นจอดในที่จอดรถเป็นต้น

สรุป

ตอนนี้ Mobike ให้บริการใน 160 เมือง ทั้งหมด 5 ประเทศ เช่นจีน, อังกฤษ และฝรั่งเศส โดยไทยจะเป็นประเทศที่ 7 เพราะก่อนเราจะไปที่มาเลเซียก่อน ซึ่งการมาทำตลาดในไทยนั้นทาง Mobike ก็ปรับราคาให้เข้ากับประเทศไทยแล้ว เพราะที่จีนตอนลงทะเบียนต้องมัจจำถึง 99 หยวน (ราว 500 บาท) ถือว่าสูงมากหากมาให้บริการในไทย แต่ถึงจะลดราคามาขนาดไหน ส่วนตัวเชื่อว่าบริการนี้คงสำเร็จในไทยได้ยาก เพราะโครงสร้างพื้นฐาน และพฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้เอื้ออำนวย

ส่วนใครกังวลว่าจักรยานจะหายหรือไม่ ด้วยโครงสร้างที่หนักเกือบ 10 กิโลกรัม (อาจจะหนักไปสำหรับนักปั่น) คงยกลำบากแน่ๆ รวมถึงหากมีการขยับจักรยานในกรณีที่ตัวล็อคบริเวณล้อหลังยังไม่ปลด จะมีสัญญาณร้องดังออกมา เพื่อป้องกันการขโมยด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา