Japan Today รายงาน วานนี้ บริษัท Mitsubishi Motors เผยว่า เตรียมจะถอนตัวออกจากตลาดจีน หลังจากที่ยอดขายตกต่ำ ขณะเดียวกันก็ยังมีการลงทุนมากขึ้นถึง 212 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7.6 พันล้านบาทในการลงทุนกับรถยนต์ไฟฟ้า Renault SA ทั้งนี้ก็เพื่อเร่งพัฒนารถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
Mitsubishi ได้มีการระงับการผลิตรถยนต์ในจีนไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาท่ามกลางการแข่งขันอย่างหนักกับบรรดาค่ายรถยนต์แบรนด์ท้องถิ่นในจีนและยังเตรียมเดินหน้าที่จะหยุดจำหน่ายรถยนต์ที่ยังเหลือค้างอยู่ให้หมดด้วย ซึ่งโรงงานที่ผลิตรถยนต์ในจีนนี้ ตั้งอยู่ที่จังหวัด Hunan เป็นการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินเป็นหลัก และยังเป็นการร่วมทุนกับ Guangzhou Automobile Group
สำหรับยอดขายในจีนช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ถือว่าตกต่ำมากกว่าปีที่แล้ว ยอดขายตกถึง 47.6% เทียบจากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 12,497 คัน ซึ่งการประกาศถึงความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้เป็นช่วงเดียวกับที่อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกกำลังเดินหน้าเข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก อีกทั้งการตัดสินใจของมิตซูบิชิก็เกิดขึ้นตามหลังบริษัท Nissan Motor Co. ประกาศไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่จะลงทุนในกิจการ Renault มูลค่า 600 ล้านยูโรหรือประมาณ 2.29 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในค่ายรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส
อย่างไรก็ดี แผนการลงทุนล่าสุดหมายความว่า หุ้นส่วนพันธมิตรทั้งสามค่ายจะร่วมมือกันเพื่อเปิดบริษัทผลิตรถยนต์ EV ใหม่ภายใต้ชื่อ Ampere ก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิก็มีท่าทีค่อนข้างคลุมเครือแม้ว่าจะเคยระบุไว้ว่ากำลังพิจารณาที่จะลงทุนก็ตาม ซึ่งการขยายการร่วมทุนไปยังรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่นี้ก็คือการเพิ่มแผนขายรถยนต์ไฟฟ้าโดย Ampere ภายใต้แบรนด์ตัวเองในตลาดยุโรปด้วย
ทั้งนี้ มิตซูบิชิไม่ใช่รายเดียวที่ได้รับผลกระทบจากยอดขายตกต่ำในจีนรายเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึง Nissan ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน นับตั้งแต่มกราคมถึงสิงหาคม ยอดขายตกราว 26.3% ขณะที่ Honda Motor Co. นี่ก็ยอดขายตกราว 24.0% ส่วน Toyota Motors Corp นี่ก็ตามมาติดๆ ยอดขายลดลงราว 5.1%
ที่มา – Japan Today
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา