ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าไม่ได้จบลงเพียงแค่การขายสินค้า แต่ยังขยายไปถึงการสร้างประสบการณ์ร่วมที่สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นและความรักในแบรนด์ หรือ Brand Love ซึ่ง Star Camp กิจกรรมตั้งแคมป์สุดพิเศษจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนถึงความตั้งใจในการสร้างสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าอย่างแท้จริง
Star Camp แนวคิดจากญี่ปุ่นสู่ไทย
สาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขาย และบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า Star Camp ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับกลุ่มมิตซูบิชิ เนื่องจากกิจกรรมนี้เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1991 และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
จุดมุ่งหมายของ Star Camp นั้นจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมกิจกรรมที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติผ่านการแคมปิงด้วยรถยนต์ และให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ซึ่ง Star Camp ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมแคมปิงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คนทุกปี
ที่ญี่ปุ่นนั้น Star Camp จัดขึ้นที่จังหวัดนางาโนะ เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ และการแคมปิงทั่วญี่ปุ่น นอกจากนี้ภายในงานยังมีการฉายภาพยนตร์กลางแจ้งเพื่อสร้างประสบการณ์ที่พิเศษ และแตกต่างให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ต้องการนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ในประเทศไทย โดยมองหากิจกรรมที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า และแบรนด์ พร้อมกับมอบประสบการณ์พิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถในยุคปัจจุบัน จึงมองว่า Star Camp เป็นอีกโครงการที่เป็นไปได้
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ต้องการนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ในประเทศ โดยมองหากิจกรรมที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ พร้อมกับมอบประสบการณ์พิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถในยุคปัจจุบัน
“ปี 2023 คือปีแรกของการจัดงาน Star Camp ในไทยที่วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โดยมีครอบครัวผู้ใช้รถมิตซูบิชิเข้าร่วมกว่า 40 ครอบครัว หรือประมาณ 120 คน และในปี 2024 ก็ยังคงได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมงานจำนวนมากจนต้องคัดเลือกผู้เข้าร่วม”
ประสบการณ์ที่เหนือกว่าแค่การเที่ยวแคมป์
Star Camp ไม่ใช่แค่การพาลูกค้าไปเที่ยวแคมป์ธรรมดา แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างลูกค้า และผู้บริหารระดับสูงอย่างตรงไปตรงมา ผ่านการที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเข้ามาร่วมงาน และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง
ขณะเดียวกัน สาโรจน์ ยังย้ำว่า “เสียงของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” ทำให้งาน Star Camp ในปี 2024 จัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมาอีกครั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีอากาศดี และแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งยังเหมาะสมกับการตั้งแคมป์
กิจกรรมในแคมป์ถูกออกแบบมาให้ทุกคนในครอบครัวสามารถมีส่วนร่วมได้ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ไล่ตั้งแต่ การทำอาหารแคมปิง กิจกรรมศิลปะสำหรับเด็ก การรับชมภาพยนตร์ และการแข่งขันสร้างสรรค์ฐานต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว ผู้ร่วมงานยังได้รับของที่ระลึกพิเศษจากมิตซูบิชิ เช่น กล่อง Set Box ที่สามารถนำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
“ปี 2023 เราได้รับข้อเสนอจากลูกค้าที่เข้ามาร่วมงานว่า อยากตั้งแคมป์เองบ้าง เพราะเวลานั้นเราต้องการให้บริการลูกค้าเต็มที่ จึงอยากเตรียมให้ แต่ลูกค้าบางกลุ่มมีอุปกรณ์พร้อม และอยากทำเองมากกว่า งานปี 2024 จึงแบ่งเป็นสองพื้นที่คือ กลุ่มลูกค้าที่เราเตรียมเต็นท์ไว้ให้ และกลุ่มที่ต้องการกางเต็นท์เอง ทำให้ได้ผลตอบรับที่ดีขึ้นอีก”
MITSUBISHI Xpander: รถครอบครัวที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง
หนึ่งในรถรุ่นเด่นที่ได้รับความนิยมในกิจกรรม Star Camp คือ MITSUBISHI XPANDER CROSS HEV และ MITSUBISHI XPANDER HEV รถครอบครัว 7 ที่นั่งที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (AYC) และโหมดการขับขี่ 7 โหมดที่เหมาะสมกับทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นทางฝุ่น หรือทางฝน Xpander ช่วยให้การเดินทางของลูกค้าสะดวกสบายและสนุกสนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การผจญภัยของครอบครัวคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
ภายในงาน Star Camp ผู้เข้าร่วมสามารถขับทดสอบ MITSUBISHI XPANDER CROSS HEV และ MITSUBISHI XPANDER HEV ในหลากหลายเส้นทาง เช่น ทางหิน ทางฝุ่น รวมถึงทางลาดยาง เพื่อเข้าใจสมรรถนะของรถยนต์รุ่นดังกล่าว รวมถึงภายในงานนี้ยังมีการจัดแสดงรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมถึงผู้เข้าร่วมงานยังสามารถพูดคุยกับผู้ขับขี่รถยนต์ของแบรนด์นี้ภายในงานเช่นกัน
ความประทับใจจากลูกค้าที่เข้าร่วม StarCamp
ในมุมลูกค้า ปัญญา เชี่ยวไพบูลย์ผล เจ้าของ MITSUBISHI XPANDER CROSS HEV กล่าวว่า “เพิ่งออกมิตซูเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา (2024) และได้มาร่วมงาน Star Camp ครั้งแรก สนุกมากเลยครับ มิตซูให้เยอะมาก ผมใช้ Lancer E Car มือสองมาก่อน และดู Xpander ไว้ตั้งแต่รุ่นแรก แต่ตอนนั้นยังผลิตในอินโดนีเซีย จนกระทั่งรุ่นนี้ผลิตในไทย เครื่อง 1,600 CC และมีโปรโมชั่นดี ๆ ก็เลยจองทันที อัตราเร่งโอเคมากเลยครับ”
ปัญญา เล่าต่อว่า “เคยใช้ Wet Mode บนทางด่วนบูรพาวิถี รู้สึกเลยว่ารถหนักแน่นขึ้น ส่วนการมีลูกสองคนทำให้ครอบครัวใหญ่ขึ้น รถในรุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ได้ ส่วนกิจกรรม Star Camp ก็ประทับใจมาก ทั้งการทดสอบรถในเส้นทางต่าง ๆ และฐานกิจกรรมก็สนุกดี มีทั้งครอบครัวร่วมกัน ปีหน้าผมก็สนใจอยากมาร่วมอีกครับ”
ธีรเดช ไพรอด เจ้าของ MITSUBISHI PAJERO SPORT ปี 2012 4WD กล่าวว่า “ผมเคยมาครั้งแรกแล้วติดใจครับ เลยมาอีกรอบ เพราะครั้งที่แล้วจัดงานดีมาก ปีนี้ก็ดีกว่าเดิม ส่วนจุดเริ่มต้นที่เลือก Pajero Sport เพราะเมื่อก่อนใช้รถเก๋ง แต่ถนนเดินทางไม่ค่อยดี และระบบออปชั่นของมิตซูครบกว่าในราคาที่คุ้มค่า”
ธีรเดช กล่าวเสริมว่า “งาน Star Camp ช่วยให้เราได้เจอเพื่อนใหม่และได้ลองรถในสภาพเส้นทางจริง ผมพาครอบครัวมาด้วย ซึ่งทุกคนก็สนุกกับกิจกรรมมาก ปีหน้าถ้าจัดอีกก็จะมาแน่นอนครับ”
Star Camp: มากกว่าการสร้างประสบการณ์ แต่คือสร้างชุมชน
Star Camp ไม่เพียงเป็นกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ แต่ยังเป็นการสร้างชุมชนของผู้ใช้รถมิตซูบิชิที่มีความสนใจในไลฟ์สไตล์การผจญภัย และการแคมปิง การรวมตัวของครอบครัวผู้ใช้รถทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเคล็ดลับต่าง ๆ เช่น วิธีการปรับแต่งรถสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือการเดินทางระยะไกล
ธีรเดช เล่าเสริมว่า “การมาร่วมงานทำให้ได้รู้จักครอบครัวใหม่ ๆ ได้แลกเปลี่ยนไอเดียกัน เช่น เทคนิคการใช้ Pajero Sport ในเส้นทางออฟโรด รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง”
มากกว่ารถยนต์: ความตั้งใจที่เคียงข้างลูกค้าตลอด 63 ปี
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 63 ปีในการดำเนินธุรกิจในไทย โดย สาโรจน์ ยืนยันว่า “เราไม่ใช่แค่บริษัทขายรถยนต์ แต่เรายังเคียงข้างลูกค้า และสังคมไทยในทุกมิติ” และด้วยกิจกรรม CRM อย่าง Star Camp และโครงการอื่น ๆ เช่น Charity Run ที่ผสานความร่วมมือกับ CSR รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มคาร์คลับ ทำให้แบรนด์มิตซูบิชิยังแข็งแกร่งในประเทศไทย
เมื่อผนวกกับคำนิยมของมิตซูบิชิว่า “เราดูแล คุณแค่ขับ” ที่แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งในเรื่องบริการหลังการขาย และการสร้างแบรนด์ด้วยการให้ประสบการณ์การขับขี่ เช่น แคมเปญ “ท้าโหลด ท้าลุย” ที่จากเดิมการลองรถยนต์ต้องลองที่โชว์รูม แต่บริษัทได้เปลี่ยนเป็นลองรถกระบะในสวนปาล์มในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับรู้การใช้งานจริง
หลังจากรวมปัจจัยบวกทั้งหมดทำให้การมีส่วนร่วมกับแบรนด์ หรือ Brand Engagement ของมิตซูบิชินั้นเติบโตขึ้น และเพิ่มความยั่งยืนให้กับแบรนด์ในระยะยาวเช่นเดียวกัน ซึ่ง Brand Inside มองว่า การทำแบบนี้ช่วยสร้าง Brand Love อย่างยั่งยืน รวมถึงเพิ่มความแตกต่างให้กับคู่แข่งในตลาด และเกิดการบอกต่อปากต่อปากเพื่อสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์มิตซูบิชิในอนาคต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา