ขึ้นชื่อว่า Heavy Duty เรื่องความทนทานต้องมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่คำว่า Heavy Duty ของ Mitsubishi Heavy Duty นั้นมีความหมายมากกว่านั้น
เพราะสินค้าของแบรนด์ดังกล่าวมีคุณภาพในมิติอื่น ๆ ควบคู่ไปกับความทนทานสมชื่อ เช่น เครื่องปรับอากาศที่ใช้เทคโนโลยี Jet Flow ช่วยกระจายลมไปทั่วห้อง และ Nano Filter ที่กรองฝุ่น PM 2.5 ได้
เมื่อผสานกับระบบอินเวอร์เตอร์ที่ช่วยให้เครื่องปรับอากาศประหยัดไฟ และทนทาน Mitsubishi Heavy Duty จึงเป็นอีกแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่มองข้ามไม่ได้ แล้วปีนี้ทางแบรนด์จะมีสินค้ารุ่นใดบ้างมาเขย่าตลาดนี้
ทนทาน ประสิทธิภาพสูง รักสุขภาพ คือหัวใจ
เครื่องปรับอากาศของ Mitsubishi Heavy Duty ทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน หรือตั้งแต่บริษัทร่วมมือกับกลุ่มมหาจักรเพื่อตั้งโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศที่จังหวัดระยองเมื่อปี 2531 และทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคทั่วไป และกลุ่มลูกค้าระดับองค์กร
สำหรับปี 2566 Mitsubishi Heavy Duty แบ่งการทำตลาดสินค้าออกเป็น 4 ประเภทประกอบด้วย
- เครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย
- เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าเพดาน
- เครื่องปรับอากาศเพื่องานพาณิชย์
- เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
สำหรับกลุ่มเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty จะมีให้เลือกทั้งระบบอินเวอร์เตอร์ และระบบดั้งเดิม เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่ม แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย, เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความเย็นเร็ว แต่ประหยัดไฟดังเช่นที่แบรนด์ Mitsubishi Heavy Duty ทำได้มาตลอด
ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ถือเป็นครั้งแรกที่ Mitsubishi Heavy Duty บุกตลาดนี้ ผ่านการเปิดตัวเครื่องกรองอากาศ Mori Series ที่กรองฝุ่น PM 2.5 ได้ 99% สร้างอากาศบริสุทธิ์ด้วยการปล่อยประจุไอออนลบ ทั้งฟิลเตอร์ยังใช้งานได้นานถึง 2,400 ชม. แสดงถึงความจริงจังในการเป็นแบรนด์ที่ต้องการดูแลสุขภาพผู้ใช้เป็นอย่างดี
เครื่องปรับอากาศในบ้านที่หลากหลาย
เมื่อเจาะไปที่กลุ่มเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัยจะพบว่า Mitsubishi Heavy Duty มีตัวเลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่รุ่นที่ใช้ระบบดั้งเดิมในชื่อ Kaze Series ที่เน้นแข่งขันเรื่องราคา ไล่ไปจนถึง Fuyu Series ที่ใช้ระบบอินเวอร์เตอร์แท้ 100% ที่ตอบโจทย์เรื่องความเย็นสบาย แต่ประหยัดไฟ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
มากกว่านั้น Mitsubishi Heavy Duty ยังเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ในชื่อ Hoshi Series ที่ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์แท้ทั้งระบบ แต่มากับราคาที่เอื้อมถึงง่ายขึ้น เบื้องต้นมีให้เลือก 4 รุ่น ตั้งแต่ 9,492-16,837 BTU พร้อมรับประกันการใช้งาน 5 ปี
Hoshi Series ยังมากับเทคโนโลยี Jet Flow ที่ช่วยส่งลมไกลสูงสุด 17 ม. ทั้งยังมีปุ่ม Hi Power ที่ให้เครื่องทำอุณหภูมิตามที่กำหนดได้ภายใน 15 นาที รวมถึงเทคโนโลยี Self Clean Operation ที่ทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติด้วยการเป่าไล่ความชื้นในคอยล์เย็น ลดการเกิดเชื้อรา และกลิ่นอับ รวมถึง Filter ที่กรอง PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้
เสริมแกร่งเครื่องปรับอากาศเพื่องานพาณิชย์
ด้านเครื่องปรับอากาศเพื่องานพาณิชย์ Mitsubishi Heavy Duty ทำตลาดทั้งหมด 4 ประเภทสินค้าคือ เครื่องปรับอากาศแบบฝังเพดาน, เครื่องปรับอากาศแบบห้อยเพดาน, เครื่องปรับอากาศแบบต่อท่อลม และเครื่องปรับอากาศแบบวางตั้ง เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของการใช้งานในองค์กรต่าง ๆ
ปี 2566 มีรุ่นไฮไลต์คือ FDT Series เครื่องปรับอากาศแบบฝังเพดาน มีให้เลือก 2 สีคือขาว กับดำ และมีระบบการทำงานให้เลือกใช้งานทั้ง 2 แบบ ทั้งแบบ Non-Inverter และ Inverter เหมาะกับการติดตั้งในอาคารรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่พักอาศัย คอนโด หรืออาคารเชิงพาณิชย์ มาพร้อมกับการรับประกัน 5 ปี ครอบคลุมตั้งแต่ 14,786-49,474 BTU หรือให้ความเย็นได้ในพื้นที่ขนาด 15-64 ตร.ม.
จุดเด่นของรุ่นดังกล่าวที่มากับเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์คือ ควบคุมการไหลของสารทำความเย็นได้อย่างเหมาะสมช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้งาน และประหยัดพลังงานด้วยการควบคุมความเร็วของมอเตอร์อย่างแม่นยำ ควบคู่ไปกับการปรับการทำงานอัตโนมัติให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์
เครื่องปรับอากาศคุณภาพที่ผลิตในประเทศไทย
จากคุณสมบัติข้างต้น เครื่องปรับอากาศแบรนด์ Mitsubishi Heavy Duty ผลิตในประเทศไทยทั้งหมดโดย MACO หรือ บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์-มหาจักร แอร์ คอนดิชั่นเนอร์ส จำกัด ที่ก่อตั้ง และสร้างโรงงานผลิตเมื่อปี 2531 บนพื้นที่ 50 ไร่ ของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
ถือเป็นอีกความภูมิใจของคนไทย เพราะโรงงานดังกล่าวส่งออกเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ไปเกือบทุกภูมิภาค
ไม่ว่าจะเป็นยุโรป, อเมริกาใต้, โอเชียเนีย รวมถึงประเทศญี่ปุ่น ต้นกำเนิดของแบรนด์ Mitsubishi เช่นกัน โดยรวมแล้วโรงงานแห่งนี้ผลิตและส่งออกเครื่องปรับอากาศออกไปมากกว่า 65 ประเทศทั่วโลก ภายใต้มาตรฐานการยอมรับในระดับสากล เช่น มาตรฐานเกี่ยวกับการผลิต มาตรฐานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานเกี่ยวกับความปลอดภัย รับรองได้ว่าสินค้าที่ออกจากโรงงาน MACO ภายใต้หน่วยงานใหญ่อย่าง Mitsubishi Heavy Industries สู่มือชาวไทยในชื่อเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty นั้น หนักแน่นด้วยข้อดีที่คุณไม่หนักใจอย่างแน่นอน
ที่สำคัญ โรงงาน MACO ยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในการผลิตเครื่องปรับอากาศเพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีการควบคุมมาตรฐานการผลิตด้วยเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้มั่นใจในเรื่องสินค้าและอะไหล่ที่มีคุณภาพ อีกทั้งมาตรฐานของโรงงานยังครอบคลุมถึงด้านสิ่งแวดล้อมและด้านความปลอดภัยอีกด้วย
รู้จัก Mitsubishi Heavy Industries
ท้ายนี้ แบรนด์ Mitsubishi Heavy Duty จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มี Mitsubishi Heavy Industries บริษัทแม่ของแบรนด์ดังกล่าว ก่อตั้งเมื่อปี 2504 และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นผ่านการทำตลาดสินค้าหลากหลายกว่า 700 ประเภท ครอบคลุมทั้งภาคพื้นดิน, ทะเล, อากาศ และอวกาศ
หากยกตัวอย่างธุรกิจจะมีตั้งแต่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์, เครื่องบิน, เรือขนส่งสินค้า, ชิ้นส่วนรถยนต์ และเทคโนโลยีทางทหาร เป็นต้น ซึ่งสินค้าเครื่องปรับอากาศจะอยู่ในธุรกิจกลุ่มเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน และเชื่อใจได้ว่าเมื่อทำตลาดสินค้ามากมาย และก่อตั้งมานานกว่า 60 ปี แบรนด์ Mitsubishi Heavy Duty ย่อมไม่ถูกละเลยเรื่องคุณภาพแน่นอน
และรู้หรือไม่ว่า ด้วย Mitsubishi Heavy Industries ก่อตั้งมายาวนาน ทำให้บริษัทเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนการแข่งขันฟุตบอลของประเทศญี่ปุ่น ผ่านการเป็นต้นกำเนิดของทีม Urawa Red Diamonds และปัจจุบันตราสโมสรดังกล่าวยังมีสัญลักษณ์เพชรสีแดงติดอยู่ ซึ่งเพชรนั้นเหมือนกับโลโก้ของบริษัทด้วย
สรุป
Mitsubishi Heavy Duty เป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่น่าสนใจอีกแบรนด์ในตลาดไทย ผ่านการการันตีเรื่องความทนทานสมชื่อ แต่ยังมากับเทคโนโลยี และระบบต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือเรื่องสุขภาพ กับการทำงาน ดังนั้นใครที่กำลังเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศอยู่ คงมองข้ามแบรนด์นี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา