ช่วงนี้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างหันมาร่วมมือแทนที่จะเป็นคู่แข่งเหมือนในอดีต อย่างล่าสุด Mitsubishi Motors ที่จับมือกับกลุ่ม Daimler จากเยอรมันเพื่อเดินหน้าผลิตยานยนต์ยุคใหม่ร่วมกัน
จับมือตามรอย Nissan-Renault ที่เริ่มไปก่อนแล้ว
การพัฒนารถยนต์หลังจากนี้ต้องเริ่มจับมือกันมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับนั้นเป็นเรื่องที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์นั้นไม่คุ้นเคย ซึ่งต่างจากบริษัทนวัตกรรม หรือค่ายรถยนต์ไฟฟ้าเกิดใหม่ที่ทำได้ค่อนข้างดีกว่า จึงไม่แปลกที่ช่วงนี้เราจะเห็นข่าวในลักษณะนี้กันบ่อย
ล่าสุดอย่าง Mitsubishi Motors ที่ตัดสินใจกลับมาเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม Daimler เจ้าของแบรนด์ Mercedes-Benz อีกครั้งหลังจากดีลในลักษณะเดียวกันนี้จบลงไปเมื่อ 13 ปีก่อน โดยเหตุผลหลักที่ดีลนี้เกิดขึ้นเนื่องจากทั้งสองบริษัทต้องการช่วยกันพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ในอนาคต รวมถึงช่วยกันผลิตยานยนต์เหล่านั้นด้วย
อย่างไรก็ตามการกลับมาเป็นพันธมิตรระหว่าง Mitsubishi Motors กับ Daimler ก็เป็นการทำตามกลุ่มพันธมิตร Nissan-Renault ที่เป็นพันธมิตรกับ Daimler มาตั้งแต่ปี 2553 แล้วด้วย เพื่อร่วมกันพัฒนายานยนต์ใหม่ๆ ด้วยกัน เช่นการดำเนินงานโรงงานอัตโนมัติที่เม็กซิโก และพัฒนาชิ้นส่วนสำคัญในโรงงานอีก 3 แห่ง
ทั้งนี้การร่วมมือระหว่างพันธมิตร Nissan-Renault กับ Daimler ก็มีการแลกหุ้นด้วย โดย Nissan และ Renault ต่างได้หุ้นใน Daimler จำนวน 3.1% ของ Daimler ส่วน Daimler ก็ได้หุ้น 1.55% ในบริษัททั้งสอง ที่สำคัญปี 2543 ทาง Daimler เคยซื้อหุ้น Mitsubishi Motors 34% แต่สุดท้ายก็ทยอยขายหุ้นจนหมดในปี 2548
สรุป
การจับมือกันระหว่าง Mitsubishi Motors และกลุ่ม Daimler แสดงให้เห็นถึงการเดินหน้าของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ต้องช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี เพราะหากยังแข่งขันกันอยู่ในแบบเดิมๆ ก็เสี่ยงที่ค่ายรถยนต์หน้าใหม่จะมาแย่งตลาด ผ่านความเชี่ยวชาญในเรื่องเทคโนโลยีที่มากกว่าอยู่แล้ว
อ้างอิง // Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา