Mister Donuts เข็นเมนูอาหารมื้อใหญ่ สนองอินไซท์คนไม่นิยมห่อกลับบ้าน

Mister Donuts ที่ญี่ปุ่นเปิดตัวแคมเปญ “Misudo Gohan” (มิสุโด โกฮัง) กระตุ้นยอดขายอาหารเช้าและอาหารกลางวัน ซึ่ง Misdo ย่อมาจากMister Donuts” และ Gohan ในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “ข้าว” นั่นเอง

ซึ่งได้เปิดตัวสินค้าใหม่ 11 ชนิด เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้แก่ พายไส้เค็ม 4 รสชาติและพายไส้หวาน 2 รสชาติ ในราคา 216 เยน (ประมาณ 62 บาท) ท็อปปิ้งโทสต์อบร้อน 2 รสชาติ ในราคา 270 เยน (ประมาณ 78 บาท), โดนัทแซนวิซ 3 รสชาติ ในราคา 172 เยน (ประมาณ 50 บาท)

Teruji Yamamura ประธานบริษัท Duskin เจ้าของแบรนด์โดนัทยี่ห้อนี้กล่าวว่า ปัจจุบันมีครัวเรือนที่ทำงานทั้งคู่สามีภรรยาและคนโสดเพิ่มมากขึ้น ไลฟ์สไตล์ก็เปลี่ยนแปลงไป การใช้เวลาในร้านก็นานขึ้นกว่าเดิม คือไม่นิยมห่อกลับไปทานที่บ้าน

“ธุรกิจเมื่อ 46 ปีก่อน จะมาจากแม่บ้านที่ซื้อแบบ take out กลับบ้านสำหรับคนในครอบครัว แต่ปัจจุบันนั้นกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จำนวนของการซื้อกลับบ้านนั้นก็ลดลงด้วย จึงอยากทำอาหารที่สามารถรับประทานได้ง่ายๆ ที่ร้าน จึงได้เพิ่มเมนูอาหารขึ้นมา”

ปัจจุบันสัดส่วนของการซื้อกลับบ้านของมิสเตอร์โดนัทที่ญี่ปุ่นมีอัตราส่วนประมาณ 60% ถึง 70% ซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของคนโสดและสังคมผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ยอดขายลดลงอีกด้วย

มิสเตอร์โดนัทมีภาพลักษณ์ของร้านขนมหวาน จึงทำให้ยอดขายในช่วงบ่ายของวันนั้นเป็นช่วงพีคไทม์ จึงได้เกิดแคมเปญนี้เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น. ในหมวดประเภทอาหารเช้าและอาหารเที่ยง ซึ่งสัดส่วนการรับประทานที่ร้านในปัจจุบันมีประมาณ 35% และคาดการณ์ว่าหลังจากเกิดแคมเปญนี้จะมีอัตราการทานที่ร้านเพิ่มขึ้นเป็น 40%

ทางร้านได้มีการเพิ่มเตาอบร้อนตัวใหม่เพื่อให้บริการอุ่นร้อนเพิ่มความกรอบและรสชาติที่ดีขึ้น มีจัดเซ็ตลดราคาคู่กับเครื่องดื่ม รวมไปถึงการร่วมสนุกด้วยการถ่ายรูปแชร์ในทวิตเตอร์และ Instagram ในแฮชแท็ก #ミスドゴハン ลุ้นรับบัตรเงินสดมิสเตอร์โดนัทจำนวน 500 เยน ทุกสัปดาห์ 100 รางวัล ซึ่งมีผลตอบรับไปในทางที่ดี

#彼氏と #朝ごはん #ミスド #ミスドゴハン #たまごマヨ #ツナメルト 優雅な朝だ〜✨✨✨

โพสต์ที่แชร์โดย 405_b2p (@405_b2p) เมื่อ

และในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้ายังมีแพลนจำหน่าย พาสต้า และพิซซ่า ซึ่งแคมเปญแรกนั้นเน้นไปที่อาหารเช้าและกลางวัน แต่ในส่วนหลังนั้นจะเน้นไปที่อาหารมื้อหลักอย่างแท้จริง ซึ่งครั้งนี้มิสเตอร์โดนัทได้ร่วมมือกับร้านพาสต้า Pietro เพื่อพัฒนาสูตรอาหารและวางแผนขยายร้านพาสต้าให้ครอบคลุมอีกประมาณ 600 สาขา ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับวงการขนมอีกด้วย

สรุป

การปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน ธุรกิจจึงต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงให้ทันท่วงที ซึ่งในบางครั้งอาจจะต้องทำสิ่งที่แตกต่างจากที่เคยทำในอดีต เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ

ที่มา – ryutsuubiz

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

คอลัมนิสต์ Brand Inside ผู้หลงใหลแดนอาทิตย์อุทัย ชอบลองขนมใหม่และอะไรที่กินได้