คนกรุงเทพฯ​ เบื่อง่าย เปลี่ยนไว Minor Food เสิร์ฟแบรนด์น้องใหม่ Hey! Gusto ขายอาหารอิตาเลี่ยน

ถ้าลองไล่ๆ ดูแล้วจะพบว่า Minor Food คือตัวจริงเสียงจริงเรื่อง ‘อาหารตะวันตก’ ในประเทศไทย เพราะไม่ว่าจะเป็น The Pizza Company, Sizzler, Burger King, Swenzens, Daily Qieen หรือน้องใหม่อย่าง Steak and More จนถึง Sandwich Society

แต่ Minor Food ก็ยังไม่หยุดสร้างแบรนด์ใหม่ โดยเฉพาะแบรนด์อาหารตะวันตก ล่าสุดได้เปิดตัว Hey! Gusto แบรนด์น้องใหม่สไตล์อิตาเลียนอีกหนึ่งแบรนด์ คำถามคือในยุคที่แบรนด์อาหารสไตล์ตะวันออกเฟื่องฟูแบบนี้ ทำไมถึงเป็นตะวันตกอีกแล้ว และทำไมถึงเป็น ‘อาหารอิตาเลี่ยน’

คนไทยกินอาหารฝรั่งตลอด กรุงเทพมีร้านอิตาเลียน 400 ร้าน

Brand Inside ได้คุยกับ ‘อนุพนธ์ นิธิยานันท์’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่เริ่มประโยคแรกว่า “Western food never enoungh for thais” หรือไม่ว่าอย่างไรคนไทยก็ยังคงกินอาหารตะวันตกอยู่ตลอด

โดย ‘พิซซ่า’ เป็นอาหารตะวันตกประเภทแรกๆ ที่เข้ามาในประเทศไทย เป็นอาหารอิตาเลี่ยนที่สามารถเจาะกลุ่มแมสในประเทศไทยได้สำเร็จ พิซซ่าและพาสต้าจึงเป็นตัวแทนของอาหารอิตาเลี่ยนที่เข้าใจง่าย เข้าถึงง่ายสำหรับคนไทย แตกต่างจากอาหารฝรั่งเศสหรือเยอรมันที่คนไทยจะรู้จักน้อยกว่า

แค่ในกรุงเทพฯ​ ก็มีร้านอาหารอิตาเลี่ยนมากกว่า 400 ร้านแล้ว ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบ find dining หรือ casual dining เสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะโซนสุขุมวิทและพระราม 4 ที่มีเยอะมาก และมีร้านใหม่เปิดตัวอยู่ตลอด ร้านอาหารกลุ่มนี้จะเน้นเชฟอิตาเลี่ยน เสิร์ฟอาหารสูตรเด็ดจากวัตถุดิบคุณภาพ และมีบรรยากาศร้านที่ดี โดยที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นจะเป็นคนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยว 

ขณะที่ฝั่ง ‘ห้างสรรพสินค้า’ เองก็ต้องการร้านอาหารที่มีความสดใหม่ของคอนเซปต์และแบรนด์มากขึ้น นั่นจึงทำให้ Minor Food ตัดสินใจจะเปิด ‘ร้านอาหารอิตาเลี่ยน’ แบรนด์ใหม่ ในตลาด Premium Focus Dine-in Experience

สร้างแบรนด์ใหม่ เน้นพาสต้า-สเต็ก-บูราต้า-พิซซ่าฟัวคาเซีย

พอแน่ใจว่าจะเน้นมอบประสบการณ์นั่งรับประทานในร้าน Minor Food ก็เลือกพัฒนาคอนเซปต์ใหม่จากแบรนด์อาหารอิตาเลี่ยนของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในสิงคโปร์อย่าง ‘Vicoletto Osteria’ นำมาเป็นแม่แบบการพัฒนาแบรนด์ใหม่จนกลายเป็น Hey! Gusto ขึ้น

Minor Food ส่งเชฟและทีมงานไปเทรนด์ถึงสิงคโปร์ เพื่อนำเอาแรงบันดาลใจจากงานดีไซน์ การนำเสนออาหาร และเมนูของ Vicoletto Osteria มาพัฒนาให้เหมาะกับประเทศไทย ใช้เวลานานกว่า 6 เดือนตั้งแต่เริ่มคิดจนถึงเวลาเปิดร้าน

สุดท้ายจึงได้เปิด Hey! Gusto สาขาแรกในประเทศไทย ณ เซ็นทรัลเวิลด์ แทนที่ร้านพูเลห์ที่ตัดสินใจให้ออกจากตลาดไทยไป จุดเด่นของ Hey! Gusto คืออาหารสไตล์โฮมคุก เน้นเสิร์ฟพาสต้า สเต็ก และสลัด โดยมี ‘พิซซ่าแป้งฟัวคาเซีย’ เป็นส่วนเสริมให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ที่หน้าตู้ 

นอกจากนั้น ยังมี ‘บูราต้า’ เป็นเมนูไฮไลท์และ ‘ทีรามิสุ’ ทำสดหน้าร้าน เสิร์ฟในรูปแบบตัก ทำให้แบรนด์ Hey! Gusto แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ทุกเมนูมาในราคาที่ “แข่งขันได้” กับแบรนด์ในเซกเมนต์เดียวกัน เพราะต้องการให้ลูกค้าตัดสินใจง่าย ในแบบที่สามารถเลือกพาสต้า 1 จานพร้อมเครื่องดื่มเป็นอาหารกลางวันที่เข้าถึงได้ทุกวัน

จุดแข็งอีกอย่างของแบรนด์ คือ ‘โลเคชัน’ เพราะเดินทางง่าย อยู่ใจกลางเมืองในห้างชั้นนำ แตกต่างจากร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ส่วนใหญ่อยู่ในซอยเล็กเข้าถึงยาก โดยเซ็นทรัลเวิลด์เป็นห้างสรรพสินค้าที่รวมทั้งคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติ ในพื้นที่ CBD เอาไว้ด้วยกัน

คนกรุงเทพฯ เบื่อง่าย เปลี่ยนไว แบรนด์หลายร้อยสาขาอาจไม่เซ็กซี่

‘อนุพนธ์’ อธิบายว่า ตอนนี้ตลาดร้านอาหารแข่งขันสูง สิ่งที่ทุกคนเจอเหมือนกันหมดคือ แบรนด์ที่อยู่มานานๆ จะสามารถอยู่ต่อไปได้ แต่จะเน้นขยายในตลาดต่างจังหวัด 

ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ คนเบื่อง่าย เปลี่ยนเร็ว และต้องการของใหม่อยู่ตลอด อย่างห้างสรรพสินค้าใหม่ในกรุงเทพฯ​ ก็มักเลือกแบรนด์ใหม่ๆ มาตบอบโจทย์ลูกค้าและได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มบนจำนวนมาก

ความท้าทายที่ Hey! Gusto จะต้องเจอคือ การเข้าถึงลูกค้าและความแตกต่างจากตลาด เพราะมีสาขาเดียวจึงเลือกทำการตลาดแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ทั้งทางออนไลน์และลูกค้าของเซ็นทรัลเวิลด์ ขณะที่ต้องรักษามาตรฐานของอาหารและคงความสดใหม่ของคอนเซปต์ที่จะออกเมนูใหม่ไตรมาสละ 1 เมนู 

พร้อมความคาดหวังว่า Hey! Gusto จะมาเติมเต็มพอร์ตฟอลิโอในกลุ่มอาหารตะวันตกสไตล์พรีเมี่ยมที่ Minor Food ไม่มีมาก่อน ถือเป็นการเข้าตลาดอย่างจริงจังครั้งแรกของกลุ่มบริษัท ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในส่วนที่ขาดหายไป 

รวมถึงช่วยให้ Minor Food มีโอกาสขยายเข้าไปในศูนย์การค้าใจกลางย่าน CBD ที่มองหาร้านอาหารที่ยังไม่แมสมาก ซึ่งอาจจะมองว่า แบรนด์ของ Minor Food ที่มีหลายร้านสาขา ไม่เซ็กซี่ ไม่ดึงดูด เพราะหลายคนมองหาของใหม่ ดังนั้น Hey! Gusto ก็จะสามารถตอบสนองดีมานด์ของตลาดตรงนี้ได้

โดยตั้งเป้าจะเจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่ต้องการกลุ่มคนไทยมากกว่า เพื่อให้แบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมยืนยันว่าหลังเปิดให้บริการมา 1 เดือน Hey! Gusto สามารถทำยอดขายได้ดีกว่าแบรนด์เก่าที่เคยขายอยู่ในพื้นที่เดียวกันนี้กว่า 100% ซึ่งถือเป็นการตอบรับที่ดี

อาหารจีนโตช้าลง คนไทยสลับฮิต อาหารเอเชี่ยน-อาหารฝรั่ง

นอกจากนั้น พอถูกถามว่าทำไมไม่เลือกอาหารจีนหรืออาหารเอเชี่ยนที่กำลังได้รับความนิยมสุดๆ ในยุคนี้ ‘อนุพนธ์’ ก็เล่าว่า จริงๆ ร้านอาหารจีนก็เริ่มเข้ามาในประเทศไทยช้าลง อย่างเช่นร้านหมาล่าเองช่วงแรกๆ ก็มาในลักษณะพรีเมี่ยมแล้วค่อยขยับมาแมส

แล้วกระแสก็เริ่มหันไปสนใจอาหารเกาหลีมากขึ้นแทน แต่ Minor Food มี ‘Bonchon’ อยู่แล้ว จึงไม่อยากไปชนตลาดเน้นความคุ้มค่ากับกลุ่มอาหารจีน อีกอย่างคือ กระแสความนิยมในอาหารของคนไทยก็จะสลับไปมาระหว่าง ‘ตะวันออก’ และ ‘ตะวันตก’ สลับไปมาเรื่อยๆ อยู่ตลอด

ผู้บริหารของ Minor Food ยอมรับว่า การสร้างแบรนด์ใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย “สำหรับคนไม่เคยสร้างแบรนด์เลยอาจจะเป็นเรื่องยากมาก แต่ถ้าเคยสร้างมาแล้วก็จะบอกว่าท้าทาย เพราะโจทย์แต่ละครั้งไม่เหมือนกันเลย”

โดยยกตัวอย่างการปั้นแบรนด์ Steak and more ที่เป็นตลาดเน้นความคุ้มค่า ต้องเข้าถึงลูกค้าให้ถูกจุด ถูกโลเคชัน เป็นพฤติกรรมของลูกค้าที่จะแตกต่างกับ Hey! Gusto อย่างสิ้นเชิงเลย

สำหรับ Minor Food กลยุทธ์หลักที่เป็น ‘จุดแข็ง’ ของกลุ่มย่อมเป็น ‘การขยาย’ แบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น The Pizza Company, Sizzler, Swensen’s, Daily Queen หรือแม้แต่ Steak and more ที่ขึ้นมาเป็นแบรนด์หลักแบรนด์ใหม่จากการขยายอย่างแข็งแกร่ง 10 สาขาในหนึ่งปี 

แนวทางการขยายของเหล่าแบรนด์หลักจะเน้นไปในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะแบรนด์แมส เมื่ออายุถึง 5 ปีก็จะเข้าสู่ ‘วงจร’ อย่างการเกิด แก่ เจ็บ ตาย แบรนด์จะอยู่ในตลาดนานๆ ได้ก็จะต้องสร้างความตื่นเต้นใหม่ๆ ให้ตลาดเติบโตต่อเนื่อง 

แบรนด์แมสจะมีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม เข้ามาในแต่ละช่วงเวลาไม่เหมือนกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะออกสินค้าตัวใดตัวหนึ่งมาแล้วคนจะชอบตั้งแต่เบบี้บูมเมอร์ไปจนถึงเจนอัลฟา แต่ข้อดีของแบรนด์ใหม่คือสามารถออกมาตรงใจกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเจาะจงไปเลยมากกว่า

จึงนำมาสู่อีกกลยุทธ์จะเน้น ‘นวัตกรรม’ หรือพัฒนาแบรนด์ใหม่ๆ อย่างเช่น Sandwich Society แบรนด์ใหม่ที่พัฒนาจากชีสโทสต์ของ Sizzler ซึ่งนำเสนอสาขาแรกในตลาดนั่นเอง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา