ผลสำรวจเผย ลูกค้ารุ่นใหม่ 86% ไม่นิยมซื้อของหน้าร้าน เพราะประสบการณ์ไม่ดี สินค้าชอบหมด

ผลสำรวจพบ คนรุ่นใหม่ไม่นิยมซื้อของผ่านหน้าร้าน เพราะมีประสบการณ์ไม่ดี สต็อคสินค้าหมด ร้านหามาทดแทนให้ไม่ได้ ส่วนใหญ่จึงหันไปซื้อผ่านออนไลน์แทน

หน้าร้านค้าปลีก

ประสบการณ์สินค้าหมดสต็อค ทำให้คนรุ่นใหม่นิยมซื้อของออนไลน์มากขึ้น

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสการซื้อของออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความสะดวก มีของให้เลือกจำนวนมาก และสามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าได้ในครั้งเดียว เข้ากับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา

ผลสำรวจ “2020 APAC Shopper Study” ของ ซีบรา เทคโนโลยีส์ พบว่า

  • คนกลุ่ม Millennials กว่า 86% ได้รับประสบการณ์ไม่ดีกับหน้าร้าน เพราะสินค้ามักหมดสต็อค จึงหันไปซื้อสินค้าผ่านออนไลน์แทน
  • คนกลุ่ม Gen X อีก 56% ก็เช่นกัน ส่วนใหญ่ตั้งใจมาซื้อสินค้าที่หน้าร้าน แต่พบว่าสินค้าหมด จึงทำให้ต้องกลับไปซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์
  • ผลสำรวจยังพบอีกว่าผู้บริโภคยุคนี้กว่า 29% ไม่นิยมซื้อสินค้าที่หน้าร้าน เพราะส่วนใหญ่มีราคาขายที่แพงกว่าร้านค้าออนไลน์

แม้ออนไลน์จะมาแรง แต่ก็ไม่ใช่คำตอบสูงสุดหนึ่งเดียว

แม้ว่าการซื้อสินค้าที่หน้าร้านจะมีแต่ข้อเสียจนสู้หน้าร้านออนไลน์ไม่ได้ แต่บางครั้งหน้าร้านออฟไลน์ก็สำคัญ

ยกตัวอย่างเช่น บางครั้งหากสินค้าที่ซื้อมาเสียหรือชำรุด ผู้บริโภคต้องการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า การซื้อของจากหน้าร้านย่อมทำได้ง่ายกว่าการซื้อสินค้าออนไลน์ เพราะอย่างน้อยก็มีหน้าร้านเป็นตัวเป็นตนชัดเจน ไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหา

จากผลสำรวจพบว่ามีผู้บริโภคเพียง 57% เท่านั้นที่พึงพอใจระบบการคืนสินค้าของร้านค้าออนไลน์ และการที่ผู้บริโภคเห็นสินค้าจริงที่หน้าร้านย่อมกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ง่ายกว่าเช่นกัน

ภาพจาก Zebra Technologies การใช้คอมพิวเตอร์มือถือเข้ามาช่วยในร้านค้า

ในเมื่อทั้งร้านค้าออนไลน์และหน้าร้านแบบเดิมๆ มีข้อดีข้อเสียต่างกัน จึงเกิดเป็นแนวคิดร้านค้าแบบใหม่ ที่เรียกว่า New Retail ที่เป็นหน้าร้านแบบเดิม แต่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น เช่นติดตั้งหน้าจอเพื่อให้ข้อมูลสินค้า แจ้งโปรโมชันและราคาให้ลูกค้าทราบทันที เหมาะกับสินค้าที่มีการปรับราคาบ่อยๆ หรือแม้แต่ช่องจ่ายเงินอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถจ่ายเงินค่าสินค้าได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องจ่ายผ่านพนักงาน ซึ่งลูกค้ากว่า 58% มีแนวโน้มที่จะใช้ช่องจ่ายเงินอัติโนมัติ เพราะต้องการออกจากร้านได้ทันที ไม่ต้องจ่ายเงินกับพนักงาน ในมุมของร้านค้าการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ จะช่วยให้บริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

จากผลสำรวจยังพบอีกว่า ลูกค้ากว่า 63% มีความพึงพอใจจากประสบการณ์ในร้านมากขึ้นหากพนักงานใช้แท็ปเล็ตช่วยค้นหาสินค้าต่างๆภายในร้าน ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นการช่วยให้พนักงานทำงานได้ง่ายขึ้นเช่นกัน คือ

  • พนักงาน 48% มองว่าจะสามารถช่วยลูกค้าค้นหาราคาสินค้าได้
  • พนักงาน 46% มองว่าจะสามารถให้ข้อมูลสินค้าแก่ลูกค้าได้
  • พนักงาน 42% มองว่าจะสามารถให้บริการได้เร็วขึ้น และประหยัดเวลาลูกค้าได้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา