เข้าใจความหมาย AI มากขึ้นผ่านมุมมอง Microsoft ที่นิยามว่ามันเป็นมากกว่า “ปัญญาประดิษฐ์”

Artificial Intelligence หรือ AI มีความหมายภาษาไทยว่า “ปัญญาประดิษฐ์” แต่ด้วยการใช้งาน AI ที่เพิ่มขึ้นทั้งในระดับโลก และประเทศไทย Microsoft จึงเริ่มมอง AI ไปไกลกว่านั้น เพราะมัน “ประดิษฐ์ปัญญา” ได้

ai

การยกระดับทุกมุมด้วยปัญญาประดิษฐ์

ปัจจุบัน AI มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ผ่านการประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เพราะมันพิสูจน์ได้จริงว่าสามารถสร้างประโยชน์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ, การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ, การทำงานที่ดีขึ้น รวมถึงการปรับตัวในยุคที่สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ดีกว่าเดิม

สำหรับในประเทศไทยเอง การประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ ก็เกิดขึ้นจริงแล้ว ผ่านการตระหนักรู้ขององค์กรต่างๆ ที่ต่างก็เห็นว่ามันยกระดับธุรกิจของพวกเขาได้จริง แม้ว่าตอนนี้บุคลากรด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะที่เชี่ยวชาญเรื่อง AI จะมีค่อนข้างน้อยก็ตาม

ai

หากอ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า จำนวนประชากรไทยมีทั้งหมด 66.3 ล้านคน ถูกจ้างงานในประเทศไทย 37.8 ล้านคน ทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ และ SMEs ราว 16.4 ล้านคน แต่คนที่ทำงานด้านไอทีมีเพียง 2.68 แสนคน และมีตำแหน่งงานเป็น Software Developer แค่ 48,000 คน เรียกว่ามีน้อยเอามากๆ

ติดอาวุธบุคลากรด้วยเทคโนโลยีใหม่

แม้ AI จะดูเป็นเรื่องยากในสายตาหลายคน แต่หากเร่งสร้างบุคลากรที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผ่านการให้ความรู้ และจัดอบรมการเรียนการสอนตั้งแต่เบื้องต้น ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรก็น่าจะลดน้อยลง ซึ่ง Microsoft มีการพัฒนาเรื่องนี้ผ่านการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในไทยเพื่อจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับ AI แล้ว

ai

ในทางกลับกัน Microsoft ก็มีการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ในไทยเพื่อให้ความรู้ และช่วยประยุกต์ AI ให้ใช้งานในหลายธุรกิจได้ ผ่านการเข้าไปหาองค์กรเหล่านั้นโดยตรง หรือร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการพัฒนา AI เพื่อช่วยออกแบบการใช้งาน AI อีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้จากการสำรวจองค์กรในประเทศไทยพบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งมีการนำ AI ไปประยุกต์ใช้งานจริงแล้ว โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นการนำไปใช้กับส่วนหลักของธุรกิจ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนำไปใช้ในโครงการทดลอง แสดงให้เห็นว่า AI เข้าถึงง่ายขึ้น และองค์กรในประเทศไทยก็เริ่มเห็นประโยชน์จากการใช้งาน AI

ai

ประดิษฐ์ปัญญา ผ่าน ปัญญาประดิษฐ์

ขณะเดียวกันเมื่อเทียบในระดับเอเชียแปซิฟิค ประเทศไทยก็มีการนำ AI ไปพัฒนาใช้ในอัตราที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ และทาง Microsoft เชื่อว่าจะมีองค์กรอื่นๆ ที่ยังไม่นำ AI ไปประยุกต์ใช้ หันมาใส่ใจเรื่องนี้มากขึ้น จากเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่เน้นเรื่อง Internet of Things (IoT) กับ Big Data มากกว่า

อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังมองไม่เห็นเรื่องเกี่ยวกับการที่ AI จะเข้ามาทดแทนแรงงานมนุษย์ทั้งหมด เพราะยังมีงานอีกมากมายที่มนุษย์ยังมีทักษะที่เหนือกว่า ยกเว้นเพียงตัวงานที่มีลักษณะทำซ้ำๆ ทำให้พวกเขาที่ทำงานลักษณะนี้ต้องมีทักษะทางเทคโนโลยีที่มากขึ้น

ai

ที่สำคัญการพัฒนา AI ยังต้องทำอย่างมีจริยธรรมด้วย เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือของตัว AI ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเท่าเทียม, ความปลอดภัย และความโปร่งใส หากรวมทุกเรื่องเข้าด้วยกันก็จะเห็นว่า AI เข้ามามีบทบาทชีวิตมนุษย์มากขึ้น และหากจะเติบโตไปกับมันก็ต้องปรับมุมมองให้ประดิษฐ์ปัญญากับปัญญาประดิษฐ์ด้วย

เพื่อสื่อสารเรื่องข้อมูลของ AI รวมถึงการที่ AI จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค และองค์กรธุรกิจต่างๆ Microsoft จึงจัดงาน Microsoft Envision Summit 2019 เน้นหนักที่เรื่อง AI โดยมีทั้งวิทยากรของ Microsoft และหน่วยงานชั้นนำของประเทศไทยมาพูดเกี่ยวกับการใช้งาน AI ในแต่ละส่วนขององค์กร

สรุป

AI ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ดังนั้นการเร่งเพิ่มทักษะให้กับตัวเอง โดยเฉพาะด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อเติบโตไปพร้อมกับมันก็เป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ และหากใครที่ยังตามมันไม่ทัน มันก็ไม่ยากที่จะบอกเลยว่า ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณต้องเริ่มปรับตัวแล้ว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Branded Content เป็นบทความที่ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์