แบรนด์จะโต ต้องเร็วพอและมั่นคง MI GROUP เปิดตัว The Balance Kit เครื่องมือเพื่อนักการตลาด หาสมดุลให้แบรนด์ ไปต่อได้อย่างยั่งยืน

โลกการตลาดกำลังเดินเร็วขึ้น ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไว เทคโนโลยีขยับทุกวัน และแผนการตลาดที่เคยใช้ได้ดี อาจไม่ทันเกมอีกต่อไป นี่คือโจทย์ที่ทำให้ MI GROUP หยิบมาคิด และต่อยอดจนกลายมาเป็นเครื่องมือช่วยเหลือนักการตลาด 

ด้วยโครงการแบ่งปันความรู้ MI GROUP Wisdom 2026 ที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักการตลาด นักสื่อสารการตลาด รวมไปถึงผู้ประกอบการไทย ให้เตรียมพร้อมรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลง 

ในปีที่ 5 ของโครงการนี้ ทาง MI GROUP จึงได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่อย่าง The Balance Kit – Tree of Growth 

เพื่อช่วยผู้ประกอบการและนักการตลาด ประเมินสมดุลแผนการตลาดของแบรนด์ ขับเคลื่อนยอดขาย ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าของแบรนด์ในระยะยาว หรือเรียกง่ายๆ ว่า เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนตลอดปี 2026

ความสมดุลคือกุญแจ

MI GROUP มองว่า การเติบโตของแบรนด์ที่แท้จริง ต้องเกิดจากสมดุลระหว่าง Quick Impact ในการสร้างยอดขาย และ Lasting Strength ความแข็งแรง ทิศทาง และความมั่นคงของแบรนด์ในระยะยาว 

ซึ่งหลายแบรนด์ในวันนี้ ไม่ใช่ไม่เก่ง แต่อาจเอนไปทางใดทางหนึ่งมากเกินไป บางแบรนด์เร่งยอดขายระยะสั้น จนรากฐานอ่อนแรง หรือบางแบรนด์ทุ่มสร้างภาพลักษณ์ระยะยาว แต่ขาดแรงขับในการสร้างยอดขาย

The Balance Kit – Tree of Growth จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยนักการตลาดและผู้ประกอบการรายย่อย ทบทวนการทำงานของตัวเอง ว่าวันนี้แบรนด์กำลังให้ความสำคัญกับ Quick Impact มากเกินไปหรือไม่ และได้สร้าง Lasting Strength ไว้เพียงพอหรือยัง

“ในโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน การเติบโตของแบรนด์ไม่ใช่แค่เร็วพอ แต่ต้องมั่นคงพอไปพร้อมกัน” นายภวัต เรืองเดชวรชัย President & CEO ของ MI GROUP กล่าว

3 ขั้นตอน กับการทบทวนกลยุทธ์

สำหรับการใช้งาน The Balance Kit นักการตลาดและผู้ประกอบการสามารถเข้าไปทดลองใช้งานได้บนเว็บไซต์ เพียงกรอกข้อมูล 3 ขั้นตอนง่ายๆ ได้แก่ 

1. เลือกระยะการเติบโตของแบรนด์ ที่มีทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่ แบรนด์ใหม่ แบรนด์ที่กำลังเติบโต แบรนด์ผู้นำ และ แบรนด์เฉพาะกลุ่ม

2. ประเมินการทำงานในปีที่ผ่านมาของแบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาด ด้วยโมเดล APEC ได้แก่ Awareness, Perception, Engagement และ Conversion เพื่อให้เห็นทั้งจุดแข็ง และจุดที่ควรระวัง รวมถึงรับคำแนะนำแนวทางการเติบโตที่เหมาะสมกับแบรนด์
3. ผลประเมินพร้อมคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ เมื่อกรอกข้อมูลทั้งหมดแล้วระบบจะคำนวนและสรุปผลออกมา เพื่อประเมินสถานะของแบรนด์ในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงความสมดุลในการสร้างรากฐานที่มั่นคงของแบรนด์ และการสร้างยอดขายที่รวดเร็ว เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจปีถัดไป

นี่เป็นเครื่องมือใหม่จาก MI GROUP ที่ตั้งใจให้ The Balance Kit เป็นตัวช่วยทบทวนกลยุทธ์ช่วงปลายปี อีกทั้งยังช่วยให้นักการตลาดและผู้ประกอบการ มองเห็นภาพรวมของแบรนด์ตัวเอง เพราะการหาสมดุลให้กับแบรนด์ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจช่วยให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืน 

ทดลองใช้งาน The Balance Kit ได้ ที่นี่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา