MI GROUP ชี้ปี 2568 เต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือน แต่มี 4 สัญญาณบวกเป็นโอกาสรอด

แม้เศรษฐกิจไทยต้นปี 2568 ยังเผชิญความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย ทั้งนโยบายเศรษฐกิจโลกและความผันผวนภายในประเทศ แต่ MI GROUP มองเห็นสัญญาณบวกที่เริ่มผุดขึ้นในหลายภาคส่วน พร้อมเปิดมุมมองเชิงกลยุทธ์ให้แบรนด์และนักการตลาดใช้เป็นเข็มทิศวางแผนลุยตลาดปีนี้

4 ปรากฏการณ์เศรษฐกิจที่สะท้อนพลังฟื้นตัว Q1/2568

Motor Show 2025 ทะลุยอดจองรถรอบหลายปี

  • ยอดจองรถยนต์ในงาน (ไม่รวมมอเตอร์ไซค์) รวมทั้งสิ้น 77,379 คัน เพิ่มขึ้น 41.6% จากปี 2567
  • ความร้อนแรงของตลาด EV จากจีน มีสัดส่วนยอดจอง EV สูงถึง 65% ของทั้งหมด
  • สะท้อนความเชื่อมั่นผู้บริโภค กำลังซื้อและศักยภาพในการจับจ่าย

สงกรานต์ระดับโลก Maha Songkran Festival 2025

  • จัดงาน 5 วัน (11 – 15 เมษายน) ณ ท้องสนามหลวง
  • มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.1 ล้านคน
  • สร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 4,097.17 ล้านบาท
  • ตอกย้ำศักยภาพ Soft Power ไทย ดันสงกรานต์สู่เทศกาลระดับโลกท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวแรงต่อเนื่อง

รัฐประกาศปี 2025 เป็น Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year

  • รัฐบาลประกาศปีนี้เป็น Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025
  • จัดอีเวนต์ต่อเนื่องมีนาคมกันยายน เจาะช่วงโลว์ซีซัน
  • Bangkok Pride Festival 2025 คาดผู้ร่วมงานกว่า 300,000 คน
  • เป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าใกล้เป้าหมายที่ 39 ล้านคน แรงกดดันจากภาษีสหรัฐฯ ผ่อนคลายชั่วคราว

Trump ชะลอขึ้นภาษีนำเข้า 90 วันทั่วโลก ท่าทีที่ผ่อนปรนต่อภาษีสินค้าจีนบางประเภท

  • Trump ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากจีน 145% ช่วงต้นเดือนเมษายน
  • ล่าสุดมีการเลื่อนเก็บภาษีออกไปอีก 90 วัน
  • ส่งสัญญาณว่าความเข้มข้นด้านนโยบายอาจมีการทบทวน

mi group

แนวโน้มอุตสาหกรรมโฆษณาการตลาด 2568: โตไม่แรง แต่ยังเดินหน้า

ตลาดโฆษณาไทยคาดโต +2.2% มูลค่ารวมประมาณ 87,666 ล้านบาท (ปรับลดจากคาดการณ์เดิม +4.5%) สื่อดิจิทัลยังเติบโตที่ +10% (คาดการณ์โดย DAAT) แต่เริ่มแสดงสัญญาณแข่งขันรุนแรง เกิดภาวะสงครามแย่งความสนใจ (Attention War)”

mi group

Media Mix ปีนี้: จากการประเมินจากตลาดและคาดการณ์โดย MI LEARN LAB ซึ่งรวมถึงตัวเลขตกสำรวจ

  • ดิจิทัล 50% (โดยมี KOLs/Influencers กว่า 3 ล้านราย ครองเม็ดเงินกว่า 60%
    ของดิจิทัล)
  • ออฟไลน์ 50% (รวมโทรทัศน์, สื่อนอกบ้าน ฯลฯ)

บทเรียนสำคัญ: ดิจิทัลเพียงอย่างเดียวไม่พอ นักการตลาดต้องวางแผนสื่อผสมอย่างชาญฉลาด เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์แบรนด์ที่ต่อเนื่องและทรงพลัง

mi group

8 กลุ่มเป้าหมายต้องโฟกัสปี 2568

แม้ผู้บริโภคในปัจจุบันจะซับซ้อน หลากหลายและมีความเฉพาะตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม MI GROUP ระบุว่า ปีนี้ไม่ใช่เวลายิงโฆษณากว้างๆ หรือจำกัดวงแคบจนเกินไป แต่ต้องเล็งแหลมและกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ไปยังกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและการจับจ่ายสินค้าและบริการในหมวดที่แตกต่างกัน ได้แก่:

  • แรงงานเกษตรผู้ปั้นอนาคตจากผืนดิน” – 12 ล้านคน

กลุ่มแรงงานฐานรากที่ยังคงขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมั่นคง แม้จะไม่อยู่ในเมือง แต่เข้าถึงเทคโนโลยีและโซเชียลมากขึ้นผ่านมือถือ พวกเขาเป็นกำลังซื้อสำคัญในตลาด FMCG และสินค้าจำเป็นที่ตอบสนองต่อความต้องการและวิถีชีวิตของพวกเขา รวมถึงเปิดรับนวัตกรรมเกษตรมากขึ้นเรื่อยๆ
ช่องทางแนะนำ: Facebook, TikTok, สื่อท้องถิ่น (ป้าย/วิทยุ), อีเวนต์ชุมชน/งานประเพณี

  • แรงงานบริการคนจริงหลังฉากเศรษฐกิจ” – 5 ล้านคน

กลุ่มสำคัญที่สร้างประสบการณ์บริการในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม ไปจนถึงภาคบริการสุขภาพและท่องเที่ยว พวกเขาคือฟันเฟืองที่มักถูกมองข้าม แต่มีพลังการจับจ่าย และเป็นกลุ่มที่เข้าถึงสื่อผ่านมือถือสูงมาก
ช่องทางแนะนำ: Facebook, YouTube, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/ตลาดเช้า/ห้างฯ), บูธกิจกรรมในบริเวณแหล่งชุมชนและที่ทำงาน

  • Gen Z (13–29 ปี) “เสียงใหม่แห่งอนาคต” – 13 ล้านคน

กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยามโลกในแบบของตัวเอง ทั้งพฤติกรรม การซื้อสินค้า และการเสพสื่อ พวกเขาคือ Trend Setter ตัวจริง แรงขับเคลื่อนของทุกแพลตฟอร์ม พฤติกรรมไวต่อกระแส ต้องการการสื่อสารที่สร้างการมีส่วนร่วมและให้คุณค่าความเป็นตัวเอง
ช่องทางแนะนำ: TikTok, IG, YouTube, X, Gaming-Discord, สื่อนอกบ้าน (Transit, ใกล้สถานศึกษา/ห้างฯ)

  • พนักงานบริษัทมนุษย์เงินเดือนหัวใจนักสู้”– 18 ล้านคน

กลุ่มชนชั้นกลางที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมือง มีกำลังซื้อ มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องการใช้จ่าย สุขภาพ และความมั่นคง เป็นกลุ่มที่เปิดรับข้อมูลเยอะ แต่เลือกเชื่อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และให้คุณค่ากับแบรนด์ที่เข้าใจชีวิตจริง
ช่องทางแนะนำ: Facebook, TikTok, YouTube, LinkedIn, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/Transit/ออฟฟิศ), Roadshow ทดลองใช้/สมัครบริการ

  • กลุ่มใกล้เกษียณ/ผู้สูงวัยพลังเงียบที่ยังเปล่งเสียง”– 18.6 ล้านคน

กลุ่มใหญ่มากที่มีทั้งเวลาและกำลังซื้อ พร้อมดูแลตัวเองและคนรอบข้าง ต้องการความมั่นใจในแบรนด์และความคุ้มค่าเป็นกลุ่มที่อาจไม่ได้ไวกับเทคโนโลยี แต่ซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ที่เชื่อถือได้
ช่องทางแนะนำ: Line, TV, YouTube, Facebook, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/Transit/ห้างฯ/โรงพยาบาล), บูธกิจกรรม (ตรวจสุขภาพ/แจกสินค้าตัวอย่าง)

  • Micro Sellers (พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์/ออฟไลน์) “เสาหลักเศรษฐกิจฐานราก” – 4 ล้านคนขึ้นไป

เจ้าของร้านเล็กๆ ที่ไม่เล็กในพลัง พวกเขาใช้ทุกเครื่องมือเพื่อสร้างรายได้ ทั้งไลฟ์สด ขายหน้าร้าน และโซเชียลแบรนด์ที่เข้าถึงและสนับสนุนพวกเขาได้ จะได้พลังจากปากต่อปากที่มหาศาล
ช่องทางแนะนำ: Facebook Group, TikTok, ป้ายตลาด/หน้าร้านขายส่ง, อีเวนต์ฝึกอาชีพ/แจกแพ็กเกจเริ่มต้น

  • แรงงานต่างด้าวนักสู้แดนไกล” – มากกว่า 10 ล้านคน

ผู้ที่เดินทางมาทำงานและกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจไทย พวกเขาไม่ได้แค่ทำงาน แต่ใช้จ่าย กิน เที่ยว และสร้างชุมชน ต้องการสื่อสารผ่านภาษาของเขา และช่องทางที่พวกเขาใช้จริง
ช่องทางแนะนำ: Facebook ภาษาถิ่น, YouTube, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/Transit/โชวห่วย/CVS) ป้ายที่พัก/นิคมฯ/โรงงาน, บูธแจกซิม/สินค้าตัวอย่าง

  • นักท่องเที่ยวต่างชาติสายเที่ยวสายเปย์”– เป้าหมาย 36–39 ล้านคน

กลุ่มที่เดินทางเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ พร้อมใช้จ่ายกับสิ่งที่แตกต่าง คุ้มค่า และสร้างความประทับใจ ให้ความสำคัญกับความสะดวก ความต่างเฉพาะถิ่น และประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์
ช่องทางแนะนำ: ป้ายสนามบิน/แลนด์มาร์ก/ แหล่งท่องเที่ยว, Travel Platform, รีวิว

mi group

Mindset นักการตลาดปีนี้:

อย่ามองกลุ่มเป้าหมายเป็นเพียงตัวเลขแต่ต้องเข้าใจ ชีวิต ความหวัง ความท้าทาย และแรงผลักดัน ของพวกเขาอย่างแท้จริง เพราะเบื้องหลังทุกสถิติ คือมนุษย์ที่กำลังมองหาแบรนด์ที่เข้าใจเขา

ปีนี้อาจไม่ใช่ปีทอง แต่ก็ไม่ใช่ปีถอยการตลาดที่จริงใจ และเข้าใจคนอย่างแท้จริง จะไม่เพียงสร้างยอดขายได้อย่างมหัศจรรย์ แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ผู้เล่นที่เข้าใจคนไม่ใช่แค่ข้อมูลมองลึกกว่าตัวเลข ใช้สื่ออย่างแม่นยำ และกล้าวางเกมที่ต่าง  คือผู้ที่คว้าโอกาสท่ามกลางความไม่แน่นอน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา