“คาสิโน” เป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระบทบจาก COVID-19 เพราะถูกปิดให้บริการชั่วคราว และนักท่องเที่ยวยังกลับมาใช้บริการไม่ได้ จึงเป็นที่มาของการประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ของ MGM Resorts International
ควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อประคองธุรกิจ
MGM Resorts International ได้ออกประกาศปลดพนักงาน 18,000 รายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ส.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) เพราะต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย และประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาใช้บริการ แม้จะเปิดคาสิโนได้บางแห่งแล้วก็ตาม
สำหรับการปลดพนักงานครั้งนี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 31 ส.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะได้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย และหากพนักงานกลุ่มนี้ถูกเรียกกลับมาทำงานภายในสิ้นปี 2564 พวกเขาจะได้ตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เหมือนกับช่วงก่อนถูกปลด
ทั้งนี้ MGM เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกผลประทบจาก COVID-19 อย่างหนัก เพราะต้องปิดคาสิโนในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดเมื่อเดือนมี.ค. พร้อมกับพักงานพนักงานชั่วคราว 62,000 คน (90% เป็นพนักงานประจำ) และถึงบริษัทจะกลับมาเปิดคาสิโนภายใต้การผ่อนปรนของรัฐ แต่บริษัทกลับนำพนักงานกลับมาทำงานราว 10,000 คนเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ MGM ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี 2563 ว่ามีรายได้ 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 91% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผ่าน 3 ธุรกิจหลักคือ คาสิโนในลาส เวกัส, ธุรกิจคาสิโนที่อื่นในสหรัฐอเมริกา และคาสิโนในเขตปกครองของจีน โดยช่วง COVID-19 บริษัทรุกบริการการพนันออนไลน์มากขึ้น
สรุป
ถือเป็นช่วงท้าทายของธุรกิจคาสิโน เพราะไม่ใช่แค่เปิดให้บริการได้ไม่เต็มที่ และนักท่องเที่ยวไม่มา ยังมีเรื่องการแข่งขันกีฬาต่างๆ ที่ยังจัดขึ้นได้ลำบาก จึงไม่แปลกที่ผู้เล่นในธุรกิจนี้ต้องปรับตัว และรักษากระแสเงินสดไว้ในองค์กรให้ได้มากที่สุด เพื่อประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา