Merriam-Webster เลือก ‘slop’ เป็นคำแห่งปี 2025 สะท้อนยุคเนื้อหา AI คุณภาพต่ำล้นโลกออนไลน์

Merriam-Webster พจนานุกรมชื่อดัง ประกาศเลือกคำว่า ‘slop’ เป็นคำแห่งปี 2025 สะท้อนภาพโลกดิจิทัลยุคที่ AI เข้ามาผลิตคอนเทนต์จำนวนมหาศาล แต่กลับเป็นคอนเทนต์คุณภาพต่ำ จนผู้ใช้งานเริ่มตั้งคำถาม และระแวดระวังมากขึ้น

คำว่า slop ในพจนานุกรม ถูกนิยามใหม่ว่าเป็น “คอนเทนต์ดิจิทัลคุณภาพต่ำ ที่มักถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมากด้วย AI” จากเดิมที่คำนี้ใช้เรียกของที่ ‘แทบไม่มีมูลค่า’ หรือ ‘เศษอาหารที่เอาไปเลี้ยงสัตว์’ 

แต่วันนี้ slop ถูกนำมาใช้อธิบายสิ่งที่หลายคนเจออยู่ทุกวันบนฟีดโซเชียล

บนแพลตฟอร์มอย่าง Meta, TikTok, และ YouTube เริ่มมีวิดีโอที่สร้างโดย AI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำยอดวิวได้มหาศาล โดย ‘404 Media’ ยกตัวอย่างคลิปหนึ่งที่เป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดแปลงร่างไปมา ก่อนจะกลายเป็นยีราฟในห้างสรรพสินค้าที่คนพลุกพล่าน ซึ่งมียอดเข้าชมมากกว่า 362 ล้านครั้งบน Meta

ตัวแพลตฟอร์มเอง ก็ยิ่งทำให้กระแสนี้ชัดขึ้น ในเดือนกันยายน Meta เปิดตัว ‘Vibes’ ฟีดแยกสำหรับวิดีโอที่สร้างด้วย AI โดยเฉพาะ ขณะที่ OpenAI เปิดตัวแอป ‘Sora’ ตามมาติดๆ

เมื่อรวมกับ TikTok และ YouTube ทำให้พื้นที่ออนไลน์เต็มไปด้วยคอนเทนต์จาก AI ที่เน้น ‘ปริมาณ’ มากกว่า ‘คุณภาพ’ และสามารถสร้างรายได้จากเอ็นเกจเมนต์ได้จริง

ด้านวงการเพลงเองก็เริ่มเจอปัญหาเดียวกัน ‘Spotify’ ออกมายอมรับว่าต้องลบเพลงที่สร้างด้วย AI แนวสแปมออกไปกว่า 75 ล้านแทร็ก พร้อมออกนโยบายใหม่ เพื่อปกป้องศิลปินจากการปลอมแปลง และการหลอกลวงด้วย AI

หลังถูกวิจารณ์หนักจากกรณี ‘The Velvet Sundown’ ที่มียอดผู้ฟังเดือนละกว่า 1 ล้านคน โดยช่วงแรกไม่ได้ระบุชัดว่า เพลงทั้งหมดถูกสร้างด้วย Generative AI ก่อนจะมาอธิบายในภายหลังว่าเป็น ‘โปรเจกต์ดนตรีสังเคราะห์’

ขณะที่คอนเทนต์จาก AI เพิ่มขึ้นไม่หยุด การใช้งาน AI ของผู้บริโภคกลับเริ่มชะลอลง ผลสำรวจจาก CNBC พบว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีคนใช้แชทบอท AI อย่าง ChatGPT, Copilot, และ Gemini น้อยลง เมื่อเทียบกับช่วงกลางปี โดย 48% ใช้งาน AI ในช่วงนี้ ลดลงจาก 53% ในเดือนสิงหาคม

การที่คำว่า slop ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 จึงไม่ใช่แค่เรื่องศัพท์ใหม่ในพจนานุกรม แต่เป็นภาพสะท้อนของอินเทอร์เน็ตยุคที่ AI สร้างคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้นมาก

คำถามที่ตามมาคือ ผู้ใช้งานจะคัดกรองและแยกแยะอย่างไร ระหว่างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าจริง กับสิ่งที่มีแค่ปริมาณ แต่แทบไม่เหลือคุณภาพอยู่เลยบนโลกออนไลน์วันนี้

ที่มา: CNBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา