ชวนศึกษาการปรับตัวของ Mercedes-Benz ที่สามารถลบภาพจำเดิมๆ จนยอดขายที่ไทยโตเท่าตัวใน 5 ปี

ก่อนหน้านี้ Mercedes-Benz ในสายตาคนทั่วไปคงเป็นแค่รถยนต์หรู และเหมาะกับผู้มีอายุที่มีเงินเท่านั้น แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่อีกต่อไป เพราะค่าย “ดาวสามแฉก” ได้ปรับตัวเองมาเรื่อยๆ จน Mass ในสายตาคนทั่วไปแล้ว

เริ่มจากดีไซน์ที่เข้าถึงผู้ซื้อทุกระดับ

Mercedes-Benz เป็นแบรนด์รถยนต์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน เพราะมีประวัติมาตั้งแต่ช่วงรัชกาลที่ 5 ทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ดาวสามแฉกติดตรึงอยู่ในใจคนไทยว่าเป็นแบรนด์หรู และน่าจะดีหากมีมาประดับบ้านสักคัน ซึ่งตอนนั้นคนที่จะครอบครองได้ก็คงไม่พ้นเจ้าขุนมูลนาย

แต่มันอาจไม่ดีนักเมื่อความนึกคิดเหล่านั้นติดตรึงใจคนไทยมาเรื่อยๆ จนทำให้ Mercedes-Benz ทำตลาดได้ยากขึ้น แม้จะครองใจในฝั่งผู้ชื่นชอบรถยนต์หรู แต่ก็ใช่ว่าคนอายุเยอะๆ จะซื้อแค่ Mercedes-Benz เพราะก็มีตัวเลือกอื่นๆ มากมาย ประกอบกับคนรุ่นใหม่ที่มีสตางค์ก็ไม่ได้ถูกใจดีไซน์ที่อาจจะไม่ตอบโจทย์พวกเขาเท่าไรนัก

ทำให้งานหนักตกไปที่ฝ่ายออกแบบของแบรนด์ดาวสามแฉก ซึ่งก็ถือว่าทำงานได้ออกมาดีมาก เพราะรุ่นหลังๆ ต้องยอมรับว่าดีไซน์ออกมาได้โฉบเฉี่ยวราวกับไม่เคยเห็นใน Mercedes-Benz รุ่นก่อนๆ แต่ก็ยังคงความเรียบหรูเอาไว้ไม่เปลี่ยน หรือพูดง่ายๆ คือถ้ามาเดินบูธของแบรนด์นี้ใน Motor Show ก็ต้องถูกใจทั้งรุ่นลูก และรุ่นพ่อแน่ๆ

ยกระดับแผนการตลาดเข้าสู่โลกดิจิทัล

และจากการปรับตัวนี้เองทำให้ Mercedes-Benz สามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยมา 17 ปีซ้อน หรือนับตั้งแต่รุ่น E Class ไฟตากลม จนถึงโฉมปัจจุบัน แต่ใช่ว่าการออกแบบจะเป็นแค่เพียงปัจจัยเดียวที่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น เพราะยังมีเรื่องแผนการตลาดที่ถูกปรับปรุงใหม่เช่นกัน

ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า เรื่องแผนการตลาดของบริษัทก็มีการปรับปรุงโดยตลอด ยิ่งตอนนี้เริ่มให้ความสำคัญกับช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ผ่านการใช้งบประมาณในสื่อช่องทางนี้มากกกว่าครึ่งหนึ่งของงบประมาณทั้งหมด

“อย่างที่เห็นกันว่า Mercedes-Benz ไม่เน้นทำสื่อเพื่อขายของตรงๆ แต่จะเน้นใช้วิธีส่งมอบประสบการณ์ในด้านต่างๆ ให้กับผู้ซื้อมากกว่า ซึ่งการทำวิธีนี้ก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จ ยิ่งสื่อดิจิทัลช่วยเพิ่มความหลากหลายในการสื่อสารข้อมูลต่างๆ ไปยังผู้ซือได้มากกว่าเดิม ก็ทำให้เรามีประสิทธิภาพในการทำตลาดมากขึ้นด้วย”

เจาะแต่ละกลุ่มผู้ใช้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง

ในปี 2560 ทาง Mercedes-Benz มีการทำตลาดในแต่ละกลุ่มผู้ซื้อโดยเฉพาะ เช่นกลุ่มผู้หญิง และกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในฐานกลุ่มผู้ใช้ จากเดิมที่เป็นผู้ชาย และค่อนข้างมีฐานะมาโดยตลอด ซึ่งการทำตลาดก็ใช้การจัดงานที่สร้างประสบการณ์ใช้งาน และใช้ช่องทางดิจิทัล

ดังนั้นในปี 2561 ทาง Mercedes-Benz ก็ยังใช้กลยุทธ์เช่นเดิม เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าให้มากกว่าเดิม พร้อมกับครองตำแหน่งเบอร์หนึ่งของตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยได้อีกสมัย รวมถึงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านวิธีการทำตลาดในรูปแบบดิจิทัลเช่นกัน

สำหรับปี 2560 แบรนด์ดาวสามแฉกมียอดขายรถยนต์ในประเทศไทย 14,484 คัน ครองอันดับ 1 ของตลาดรถยนต์หรู เพิ่มขึ้น 23% จากปี 2559 ซึ่งปีนี้ก็ยังตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเช่นเดิม ส่วนยอดขายในปี 2560 ยังมากกว่าปี 2555 เกินเท่าตัว แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน

สรุป

ต้องยอมรับว่า Mercedes-Benz ยุคใหม่ดูรูปลักษณ์ไฉไลกว่ารุ่นเก่าๆ เยอะมาก และมันโดนใจคนรุ่นใหม่ที่เริ่มมีสตางค์ หรืออยากจะครอบครองรถหรูสักคันอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งความแข็งแกร่งในเรื่องการทำตลาด และงานบริการ ก็คงเป็นการยากที่ค่ายอื่น โดยเฉพาะจากเยอรมันจะมาแย่งตำแหน่งผู้นำไปได้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา