หลายสิบปีก่อน smart แบรนด์รถยนต์ขนาดเล็กของกลุ่ม Daimler โด่งดังสุดๆ แต่ตอนนี้แทบไม่มีที่ยืน จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นคือการพัฒนา smart เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนร่วมกับ Geely ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จากจีน
smart จะต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
แบรนด์ smart นั้นทำตลาดมาเป็น 20 กว่าปี และมียอดขายสูงสุดในช่วงปี 2551 ตรงกับช่วงเวลาที่น้ำมันแพงสุดๆ เพราะ smart ถูกออกแบบมาเป็นรถยนต์ขนาดเล็กถึงเล็กมาก กินน้ำมันน้อย และเหมาะกับการใช้งานในเมือง แต่พอราคาน้ำมันเริ่มกลับมาปกติ และ SUV กลายเป็นที่นิยมในตลาดโลก smart ก็ค่อยๆ หายไปจากตลาด
อย่างไรก็ตาม Geely ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จากจีน และเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ทั่วโลกรู้จักทั้ง Volvo และ Lotus เห็นว่ารถยนต์แบบ smart ยังมีโอกาสในตลาดอยู่ จึงตัดสินใจซื้อหุ้น 50% จากกลุ่ม Daimler เจ้าของ Mercedes-Benz ทั้งหมด 50% เพื่อมีสิทธิ์ในการเข้าถึงรถยนต์แบรนด์นี้
ล่าสุดเกิดการเปลี่ยนแปลงกับ smart อีกครั้ง เพราะกลุ่ม Daimler และ Geely ตัดสินใจตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ในชื่อ smart Automobile ที่ประเทศจีน ทุนจดทะเบียน 5,400 ล้านหยวน (ราว 23,000 ล้านบาท) เพื่อผลิต และจำหน่าย smart ในจีน และตลาดโลก ที่สำคัญการพัฒนา smart จากนี้จะเน้นที่รถยนต์ไฟฟ้าล้วน
เปิดตัว 2565 เป็นกลุ่ม Subcompact ก่อน
สำหรับความร่วมมือนี้ smart จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ที่คาดว่าจะมากับขนาด Subcompact หรือ B-Segment จากเดิมที่อยู่ในกลุ่ม A-Segment ที่มีขนาดเล็กมากๆ แต่ก็ยังมาพร้อมกับความหรูหราเหมือนกับตัว Smart ในรุ่นเดิมๆ ส่วนราคานั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมา
Ola Källenius ประธานคณะกรรมของกลุ่ม Daimler เล่าให้ฟังว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้การทำตลาดรถยนต์ยุคใหม่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะในอนาคตบริษัทก็มีแผนร่วมมือกับ Geely อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น smart จึงเป็นอีกหมุดหมายที่ดีสำหรับทั้งสององค์กร
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ smart ขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน
ทั้งนี้ smart ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วนมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากการประหยัดน้ำมันด้วยรถยนต์ขนาดเล็กเริ่มไม่เป็นที่นิยมในตลาด โดยตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนนั้น smart ใช้แบตเตอรี่ที่ Tesla ผลิตให้ และจำหน่ายไปกว่า 18 ประเทศทั่วโลก
สรุป
เมื่อพูดถึง smart หลายคนจะนึกถึงรถยนต์ขนาดเล็ก นั่งได้ไม่กี่คน แต่หลังจากนี้ความเป็น Subcompact ก็อาจทำให้ smart มีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนจะลดความเป็นตัวตนของ smart ไปแค่ไหนนั้น อันนี้ต้องคอยติดตามกันอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
อ้างอิง // Futurecar
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา