ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าคือสิ่งที่แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายต้องเดินหน้า และการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนผ่านด้วยรถ Plug-in Hybrid ก็น่าจะเป็นอีกคำตอบ ทำให้ Mercedes-Benz เดินหน้าเรื่องนี้เต็มที่
ลงรุ่นเล็กสุด ก่อนขยายเพิ่มหลายโมเดล
ในที่สุด Mercedes-Benz ก็นำเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid มาติดตั้งใน A-Class หรือโมเดลขนาดเล็กที่สุดของทางค่ายสักที หลังตัวเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid จะถูกติดตั้งในรถยนต์ SUV ขนาดกลาง-ใหญ่ รวมถึง Sedan ขนาดกลาง-ใหญ่ เช่นเดียวกัน
สำหรับตัว A-Class ที่จะมาพร้อมกับเครื่อง Plug-in Hybrid ก็คือรุ่น A250e แบบ Hatchback ผ่านการใช้เครื่อง Turbo ขนาด 1.3 ลิตรที่อยู่ในรุ่น A200 ให้กำลังสูงสุด 158 แรงม้า แต่คราวนี้จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังเพิ่มอีก 101 แรงม้า ซึ่งการติดตั้งเครื่องรูปแบบนี้จะให้ประสิทธิภาพใกล้เคียง A250 รุ่นปกติด้วย
ส่วนขนาดแบตเตอรี่ของ A250e ที่คาดว่าจะเปิดตัวช่วงเดือนก.ย. ในงาน Frankfurt Motor Show นั้นอยู่ที่ 15 kWh สามารถวิ่งโดยใช้แบตเตอรี่อย่างเดียวได้ราว 60 กม. ส่วนความเร็วสูงสุดในโหมดทำงานไฟฟ้าล้วนอยู่ที่ 140 กม./ชม. แต่ตัวแบตเตอรี่ใน A250e จะทำให้ถังน้ำมันในรถต้องลดขนาดลง 10 ลิตร
อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่ A-Class ที่ถูก Mercedes-Benz จับมาใส่เครื่องยนต์ Plug-in Hybrid เพราะจะมีรถเล็กทั้ง B-Class, CLA และ GLB ที่เตรียมติดตั้ง Plug-in Hybrid มาด้วย ทำให้จากนี้ไป Plug-in Hybrid ก็จะเข้ามาอยู่ในทุกรุ่นของ Mercedes-Benz ไม่ได้อยู่ในรุ่นกลาง-ใหญ่อย่างเดียว
สรุป
การติดตั้งเครื่อง Plug-in Hybrid ใน A-Class ของ Mercedes-Benz แสดงให้เห็นถึงการต้องการเปลี่ยนแปลงจากเครื่องยนต์สันดาปภายในดั้งเดิม ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น จึงเชื่อว่าหลังจากนี้ค่ายรถยนต์หรูอื่นๆ จะเดินเกมแบบนี้มากขึ้น เช่น BMW ที่ติดตั้งเครื่อง Plug-in Hybrid ใน 2 Series Active Tourer แล้ว
อ้างอิง // Autocar, Mercedes-Benz
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา