โพสต์บทกวีที่ถูกตีความว่า “ท้าทายอำนาจ”
Wang Xing ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Meituan แอพพลิเคชั่นส่งอาหารและไลฟ์สไตล์รายใหญ่ที่สุดของจีน ทำการลบโพสต์บทกวีใน Fanfou แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจีน โดยเขาได้โพสต์บทกวีที่พูดถึงยุคสมัยแห่งการเผาตำราความรู้ทั่วแผ่นดินจีน
แม้สุดท้ายซีอีโอจะออกมาบอกว่าหมายถึงคู่แข่งในทางธุรกิจ ไม่ได้หมายถึงผู้นำประเทศอย่างสี จิ้นผิง ตามที่หลายคนตีความ
แต่ทว่าไม่ค่อยมีใครเชื่อคำแก้ตัวนี้นัก มีการตีความว่าการโพสต์บทกวีนี้ ถ้าอ่านระหว่างบรรทัด จะพบว่าเทียบได้กับการที่แจ๊ค หม่าเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ระบบการเงินและธนาคารจีนด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดานักลงทุนที่ไม่เชื่อแน่ว่า บทกวีนี้สื่อถึงคู่แข่งในทางธุรกิจ เพราะหลังจากที่มีกระแสดราม่า หุ้นของ Meituan ในตลาดฮ่องกงปรับตัวลดลงกว่า 14% ช่วงเปิดตลาด และปิดตลาดไปด้วยตัวเลขติดลบ 7.1% คิดเป็นมูลค่าความสูญเสียทางธุรกิจกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5 แสนล้านบาท)
การตีความเนื้อหาในบทกวี
บทกวีที่ผู้ก่อตั้ง Meituan นำมาโพสต์จนเป็นกระแสดราม่าและลบไปในท้ายที่สุด เขียนโดย Zhang Jie กวีในสมัยปลายราชวงศ์ถังในชื่อ The Book Burning Pit ซึ่งมีใจความสำคัญว่าด้วยการทำลายตำราความรู้ และเหล่าประชาชนก็ลุกขึ้นต่อสู้กับผู้นำและระบบที่ไม่เป็นธรรม
พูดให้ชัดคือ บทกวีนี้อธิบายถึงความโหดร้ายของผู้ปกครองในยุคนั้น ซึ่งก็คือจิ๋นซีฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ฉิน จักรพรรดิพระองค์แรกของจีนที่ได้ทำการเผาตำราหนังสือทั่วแผ่นดินจีน
ไม่แปลกที่เมื่อเห็นโพสต์ของซีอีโอ Meituan หลายคนจะตีความว่า เป็นการประชดประชันสี จิ้นผิง ผู้นำจีนในยุคปัจจุบัน เพราะในยุคของสี มีการเติบโตของระบอบอำนาจนิยมและการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดอย่างมาก
BBC แปลบทกวี The Book Burning Pit ในภาษาจีนเป็นภาคภาษาอังกฤษไว้ว่า
“The Qin Dynasty is ruined with the burning of bamboos and fabrics.
The Hangu Pass and the Yellow River guarded the residence of the ancestor of the Chinese dragon in vain.
Before the ashes in the burning pit turned cold, a riot had already started in Shandong Province.
It turned out that Liu Bang and Xiang Yu were both uneducated people.”
ก่อนโดนรัฐบาลเล่น ชิงเล่นรัฐบาลก่อน: แต่ดูเหมือนว่า จะไม่ได้เปรียบ
ปลายเดือนเมษายน 2021 มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลจีนกำลังสอบสวน Meituan ในกรณีการผูกขาดตลาด (คล้ายๆ กับกรณีของ Alibaba) รวมถึงมีวี่แววว่า Meituan จะถูกทางการจีนปรับกว่า 700 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท) หากเข้าข่ายผูกขาดตลาดจริง
การออกมามีท่าทีต่อต้านรัฐบาลของ Meituan จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความจงใจมากกว่าความบังเอิญ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากบริบทรอบข้างอย่างถี่ถ้วน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนเข้ามากำกับบริษัทเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ธุรกิจฟินเทคอย่าง Ant Group ที่โดนสั่งเบรก IPO มาจนถึงการสั่งปรับ Alibaba โทษฐานผูกขาดตลาด รวมถึงธุรกิจสื่อที่ Brand Inside เขียนบทวิเคราะห์ไว้ว่า ธุรกิจของแจ๊ค หม่า ที่รัฐบาลจีนจะเล่นงานต่อคือ “ธุรกิจสื่อ” และล่าสุดธุรกิจเทคโนโลยีการศึกษาในจีน
อย่างไรก็ตาม Xu Guoqi ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ให้ข้อมูลไว้น่าสนใจว่า อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติวัฒนธรรมหรือการเผาตำราในจีนถือเป็นเรื่องที่ “อ่อนไหว” อย่างมากในปีนี้ (2021) เนื่องจากจะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบร้อยปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ดังนั้นอะไรที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อการสรรเสริญเยินยอพรรคฯ ก็จะถูกจัดให้เป็นการกระทำที่ลบหลู่เกียรติของพรรคฯ ได้อย่างง่ายดาย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา