ตามไปดูแผนรับมือโควิดของเมกาบางนา ที่ลูกค้ามั่นใจกลับมาใช้บริการกว่า 80%

ตั้งแต่ 17 พ.ค. 63 ที่ภาครัฐเริ่มผ่อนคลายการล็อกดาวน์ และให้ศูนย์การค้าต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการ เมกาบางนาเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยพบว่าในช่วงสัปดาห์แรกของการเปิดให้บริการหลังจากปิดไปเป็นเวลา 2 เดือน มีลูกค้ากลับมาใช้บริการกว่า 80% เทียบกับช่วงเวลาปกติ ขณะที่ยอดขายเทียบเท่ากับก่อนโควิด-19 ระบาด

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้บริโภคอาจจะคิดถึงบรรยากาศการเดินช้อปปิ้ง และมีการอั้นกำลังซื้อจากช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการวางมาตรการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการว่า เมื่อมาถึงเมกาบางนาแล้ว จะได้รับบริการที่ดีและมีความปลอดภัย

เตรียมพร้อมล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

คุณปพิตชญา สุวรรณดี กรรมการผู้จัดการศูนย์การค้าเมกาบางนา กล่าวว่า ร้านค้าของเราที่สามารถเปิดได้ตามมาตรการคลายล็อกดาวน์ เฟส 2 นี้ มีร้านค้าที่เปิดได้ถึง 97% แต่เดือน มิ.ย. น่าจะครบ 100% เต็ม ซึ่งเมกาบางนามีการเตรียมความพร้อมกับร้านค้าล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ในการวางมาตรการต่างๆ สร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้กับทั้งพนักงาน ร้านค้าผู้เช่าพื้นที่และลูกค้าที่มาใช้บริการ

ผลลัพธ์ที่ออกมาของการเปิดสัปดาห์แรก ที่ลูกค้ากลับมาช้อปถึงกว่า 80% เทียบกับช่วงเวลาปกติ  ถือว่าน่าพอใจและเป็นกำลังใจให้ทีมงานทำงานต่อไป

แน่นอนว่ายังเหลือพื้นที่อีกหลายส่วนที่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้เต็มที่ เช่น โรงภาพยนตร์, ลานไอซ์สเก็ต, โบว์ลิ่ง, ฟิตเนส,​ สถานเสริมความงาม และโรงเรียนเสริมความรู้ต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าจะทยอยเปิดให้บริการต่อไปในอนาคต รวมถึงการขยายเวลาเปิดศูนย์การค้าให้เป็นปกติ

ห่างกันอย่างโปร มาเมกาบางนา ได้อย่างสบายใจ

ดังนั้น เพื่อเป็นการรับมือกับสถานการณ์ เมกาบางนา จึงวางแผนมาตรการในแคมเปญ “ห่างกันอย่างโปร” หรือ Social Distancing Expert เพื่อป้องกันความสะอาดและสุขอนามัยที่ดีของทุกคน โดยมีรายละเอียด คือ

  1. Social Distancing มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม จำกัดจำนวนลูกค้า 20 คนต่อพื้นที่ 100 ตารางเมตร กำหนดพื้นที่เว้นระยะห่างในห้องน้ำ ในลิฟต์ ในพื้นที่ส่วนกลาง
  2. Social Caring for Customers มาตรการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและลูกค้า ต้องใส่หน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ และมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้บริการ มีการทำ Big Cleaning ก่อนเปิดให้บริการ และมีการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางทุก 30 นาที
  3. Social Self-Care for Staff มาตรการสำหรับพนักงานและเจ้าหน้าที่ กำหนดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัยและ Face Shield ตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่
  4. Social Care for Community มาตรการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมโดยรอบ มีมาตรการคัดแยกขยะ แยกหน้ากากอนามัยจากขยะทั่วไป สร้างความเข้าใจเพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อ

Marketing for New Normal ร่วมมือกัน เพื่อบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า 

คุณปพิตชญา กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติซึ่งนำไปสู่สิ่งใหม่ หรือ New Normal การทำการตลาดเพื่อให้บริการลูกค้า และให้ร้านค้าต่างๆ สามารถอยู่รอดได้ เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น ทาง Megabangna พยายามการตลาดหลากหลายรูปแบบเพื่อให้สามารถตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ อาทิ การร่วมมือกับ LINE MAN ให้บริการ Delivery Service ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากหลากหลายร้านอาหารในเมกาบางนา ได้ในการสั่งครั้งเดียว ช่วยลดค่าส่งอาหารให้กับลูกค้า

รวมถึงการทำแคมเปญร่วมกับ Grab Food ด้วยการใช้คะแนนเมกา สไมล์ รีวอร์ดส แลกรับโค้ดส่วนลดจาก Grab Food ผ่านทางแอปพลิเคชั่นเมกาบางนา และการจัดบริการ จุดสั่งอาหารกลับบ้าน หรือ Pik Up Point อำนวยความสะดวกให้สามารถเข้ามารับอาหารได้โดยไม่ต้องลงจากรถ

แถมท้ายด้วยบริการ Click & Collect ให้ลูกค้าเลือกและสั่งสินค้าทางออนไลน์ และมารับสินค้าได้ที่จุด Drive Thru ของ เมกาบางนา เพื่อลดการแออัดของการใช้บริการภายในร้านค้า และยังมีโครงการอื่นๆ ที่เตรียมไว้สำหรับสนับสนุนกิจการของร้านค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์

Megacity เดินหน้าต่อ เสร็จเร็วกว่าที่วางไว้

แผนระยะยาวในการพัฒนาเมกาบางนา เป็น Megacity คือ ไม่ได้มีแค่ศูนย์การค้าเท่านั้น แต่เป็นเมืองแห่งใหม่ ทำให้ลูกค้าทุกคนสามารถมาใช้ชีวิตในแต่ละวันที่นี่ได้ในรูปแบบ Mixed-Use มีทั้งคอนโด ออฟฟิศ โรงแรม และสวนสาธารณะ

ทางเมกาบางนา ได้ใช้เวลาช่วงที่ศูนย์การค้าปิดให้บริการ 2 เดือนอย่างเต็มที่ปรับปรุงสถาปัตยกรรมภายในอาคารศูนย์การค้าปรับปรุงภูมิทัศน์ของโซน Food Walk ภายใต้คอนเซ็ปต์ Scandinavian Playground โดยนำเสนอสนามเด็กเล่นธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มิได้เป็นเพียงแค่เครื่องเล่นทั่วไป แต่เป็นพื้นที่ธรรมชาติ พร้อมสายน้ำ (Stream Valley) และบ่อทราย (Sand Dune) ภายใต้บรรยากาศสวนต้นไม้อันรื่นรมย์ที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ เพื่อให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน 

ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จไปมากกว่า 50% และกำหนดเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยรวมทั้ง 2 โครงการใช้เงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท

ส่วนอาคารจอดรถ 8 ชั้นแห่งใหม่ เพิ่มที่จอดรถมากกว่า 2,000 คัน ภายใต้งบประมาณกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จสิ้นปี 2563 และทำให้เมกาบางนา มีที่จอดรถรวมกว่า 12,000 คัน

สรุป

เมกาบางนามีฐานลูกค้าหลักเป็นคนไทยเกือบ 100% มีลูกค้าประจำมาใช้บริการ 3-4 วันต่อสัปดาห์ จึงไม่มีความกังวลเรื่องลูกค้าต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวที่หายไป ดังนั้น เมกาบางนา จึงมุ่งเน้นวางมาตรการเพื่อความมั่นใจและปลอดภัยให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ช่วงที่ปิดให้บริการ เมกาบางนา ก็ไม่เก็บค่าเช่ากับร้านค้าภายในศูนย์การค้า เป็นการช่วยเหลือและประคับประคองกันไปในช่วงเวลาวิกฤต แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา