Meb Corporation ธุรกิจจำหน่าย E-Book ยื่นเสนอขายหุ้น 75 ล้านหุ้นต่อ ก.ล.ต.

Meb Corporation ธุรกิจจำหน่ายหนังสือ E-Book  ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้น 75 ล้านหุ้นต่อ ก.ล.ต.  หวังนำเงินมาขยายธุรกิจที่อยู่ในเเพลต์ฟอร์ม

บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ central  ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 75,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับหุ้นที่เสนอขาย IPO ในครั้งนี้คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน แบ่งเป็น

  1. หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 22,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
  2. หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Two Bees (HK) Limited จำนวนไม่เกิน 39,375,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
  3. หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Brain Ventures Limited จำนวนไม่เกิน 13,125,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้น ละ 0.50 บาท

ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนชำระแล้วเป็นจำนวนไม่เกิน 150,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

วัตถุประสงค์การระดมทุน เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb readAwrite และ Hytexts) ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมใหม่ๆ ไปขายในแพลตฟอร์มปัจจุบัน การซื้อลิขสิทธิ์ของ Webtoon หรือการ์ตูนออนไลน์มาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มปัจจุบัน การปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มปัจจุบันให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

รวมทั้งใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการจำหน่ายวรรณกรรมออนไลน์ในภาษาท้องถิ่นของต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ การจำหน่ายวรรณกรรมออนไลน์ในภาษาต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ อีกทั้งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

ทั้งนี้ Meb Corporation เป็นผู้นำในการประกอบธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ในประเทศไทยเมื่อพิจารณาจากรายได้รวม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ การจัดจำหน่ายอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Reader) และ ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มระบบห้องสมุดดิจิทัลสำหรับองค์กร (Hibrary) ซึ่งดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้แก่ บริษัท ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (“Hytexts”)

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับอ่านวรรณกรรมออนไลน์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย โดยมีช่องทางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.mebmarket.com และ www.readAwrite.com และแอปพลิเคชัน meb และ readAwrite บนระบบปฏิบัติการต่างๆ ซึ่งทั้ง 2 แพลตฟอร์มมีวรรณกรรมออนไลน์ที่จัดจำหน่ายที่แตกต่างกัน โดยแพลตฟอร์ม meb จำหน่ายวรรณกรรมออนไลน์ที่มีความหลากหลายจากสำนักพิมพ์และเจ้าของผลงานอิสระ เช่น นิยาย หนังสือทั่วไป (non-fiction) การ์ตูน นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ เป็นต้น 

สำหรับแพลตฟอร์ม readAwrite เป็นแพลตฟอร์มสำหรับชุมชนนักเขียน-นักอ่าน โดยให้สมาชิกสามารถโพสต์คอนเทนต์หรือเนื้อหาได้ด้วยตัวเอง (User Generated Content หรือ “UGC”) โดยเจ้าของผลงานสามารถเลือกที่จะจำหน่ายผลงานของตัวเอง และ/หรือ ให้นักอ่าน Donate ให้เพื่อเป็นการสนับสนุน

ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ก่นอเเละหลังการเสนอ IPO ได้แก่ 

  • บริษัท บีทูเอส จำกัด ถือหุ้น 153,780,000 หุ้น คิดเป็น 55.42% หลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 51.26%  
  • Two Bees (HK) Limited ถือหุ้น 54,345,000 หุ้น คิดเป็น 19.58% จะลดเหลือ 4.99%
  • นายกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม ถือหุ้น 28,125,000 หุ้น คิดเป็น 10.14% จะลดเหลือ 9.38%
  • นายรวิวร มะหะสิทธิ์ 28,125,000 หุ้น คิดเป็น 10.14% จะลดเหลือ 9.38% ส่วน 
  • Brain Ventures Limited ถือหุ้น 13,125,000 หุ้น คิดเป็น 4.72% หลัง IPO จะไม่มีหุ้นคงเหลืออยู่

ท้ังนี้ บีทูเอส (B2S) เป็นบริษัทในกลุ่ม บมจ.ซีโอแอล (COL) ส่วน Two Bees (HK) Limited เป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในฮ่องกง มีผู้ถือหุ้นคือ B2S สัดส่วน 100% ขณะที่ Brain Ventures Limited เป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในฮ่องกง ผู้ถือหุ้นคือ นายกิตติพงษ์ และนายรวิวร ในสัดส่วน 50:50

ด้านผลประกอบการช่วงปี 62-64 บริษัทมีรายได้รวม 618.72 ล้านบาท 1,004.68 ล้านบาท และ 1,456.38 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 82.09 ล้านบาท 164.74 ล้านบาท และ 275.34 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.27% , 16.40% และ 18.91% ตามลำดับ

งวด 6 เดือนแรกของปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 843.51 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 666.59 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 163.66 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 123.11 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 มิ.ย.65 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 840 ล้านบาท หนี้สินรวม 834.39 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้นรวม 6.21 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตรารวมกันไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา