MCOT หรือ อสมท ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2559/2016 มีรายได้ 828 ล้านบาท ลดลง 13% และขาดทุนสุทธิ 68 ล้านบาท
ภาพรวมของ อสมท คือรายได้จากทีวีตกหนักมาก หายไปถึง 32% จากรายได้ของปีที่แล้ว อันเป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว อุตสาหกรรมโฆษณาในภาพรวมมีมูลค่าลดลงทั้งอุตสาหกรรม และ อสมท เริ่มแสดงให้เห็นว่าไม่สามารถแข่งขันได้ในธุรกิจทีวีดิจิตอลที่มีการแข่งขันรุนแรงมาก
รายได้จากทีวีตกหนัก หายไป 32%
ธุรกิจของ อสมท ที่มีปัญหาหนักคือธุรกิจทีวีที่เป็นรายได้หลัก มีรายได้ 286 ล้านบาท ลดลง 32% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 418 ล้านบาท (เงินหายไป 132 ล้านบาท!) ซึ่ง อสมท ให้เหตุผลว่าเกิดจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการแข่งขันที่รุนแรง
อสมท ระบุว่าสัดส่วนรายได้มาจากการขายโฆษณา 55%, ค่าเช่าเวลา 12%, โครงการภาครัฐ 30%, อื่นๆ 3% ซึ่งแนวทางแก้ไขของ อสมท คือเพิ่มสัดส่วนรายการที่ผลิตเองให้มากขึ้น (ปัจจุบันมีสัดส่วน 70% ของเวลาทั้งหมด) ลดรายการที่แชร์รายได้ลง เพิ่มจำนวนนาทีโฆษณาของ อสมท เองให้มากขึ้น และหันไปเจรจาตรงกับเจ้าของสินค้า
วิทยุลดลงเล็กน้อย เหตุเพราะการแข่งขันจากวิทยุชุมชน
ธุรกิจวิทยุของ อสมท มีรายได้ 406 ล้านบาท ลดลง 9% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ทำได้ 445 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนนี้รวมทั้งรายได้จากค่าโฆษณาโดยตรง และการจัดอีเวนต์ของสถานีวิทยุแต่ละช่องด้วย
สัดส่วนรายได้มาจากวิทยุส่วนกลาง 71% และวิทยุส่วนภูมิภาค 29% เหตุผลที่รายได้ในไตรมาสนี้ลดลง เพราะรายได้จากส่วนภูมิภาคลดลง เพราะการแข่งขันจากวิทยุชุมชนที่ได้กลับมาได้รับใบอนุญาตให้ออกอากาศ ในขณะที่รายได้จากวิทยุส่วนกลางเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คลื่นหลักของ MCOT ยังเป็น ลูกทุ่งมหานคร FM 95MHz ที่ทำรายได้สูงสุด
โครงข่ายทีวีดิจิตอล รายได้เพิ่ม 54%, รายได้ส่วนอื่นทรงตัว
รายได้จากสื่อใหม่ ที่รวมโทรทัศน์ดาวเทียม MCOT Satellite และสื่อออนไลน์ มีสัดส่วน 5% ของรายได้ทั้งหมด มีรายได้ทรงตัวคือ 99 ล้านบาท
รายได้จากการร่วมดำเนินกิจการ มาจาก 2 บริษัท คือ บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และ TrueVision Cable มีรายได้ทรงตัว 213 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากการให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล เพิ่มขึ้นเป็น 174 ล้านบาท หรือเติบโต 54% ต่อปี
ข้อมูลจาก อสมท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา