อสมท ไตรมาส 1/2563 ขาดทุน 877 ล้านบาท วิทยุกลายเป็นธุรกิจหลัก

บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เผยงบการเงินประจำไตรมาส 1/2563 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2563) มีรายได้รวม 467 ล้านบาท ลดลง 21% จากไตรมาส 1/2562 ที่ทำไว้ได้ 594 ล้านบาท

ในไตรมาสนี้ อสมท ยังขาดทุนมากถึง 877 ล้านบาท (ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 32 ล้านบาท) โดยเป็นการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ 765 ล้านบาท

หากดูโครงสร้างรายได้ของ อสมท จะเห็นว่ารายได้ลดลงในทุกหน่วยธุรกิจ โดย รายได้จากโทรทัศน์ ลดจาก 171 ล้านบาทต่อไตรมาสในปี 2562 เหลือ 111 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ในขณะที่ รายได้จากวิทยุ ลดลงจาก 164 ล้านบาทมาเหลือ 135 บาท (ลดลง 18%) ทำให้วิทยุกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มากที่สุดของ อสมท ไปแทน (คิดเป็น 29% ของสัดส่วนรายได้ทั้งหมด ในขณะที่ทีวีมีสัดส่วน 24%)

คลื่นวิทยุที่ยังโดดเด่นที่สุดของ อสมท คือ ลูกทุ่งมหานคร FM 95 MHz และเป็นเพียงคลื่นเดียวที่มีรายได้เติบโต ในขณะที่คลื่นอื่นในสังกัดคือ คลื่นความคิด FM 96.5 MHz, คลื่นMET 107FM 107MHz, คลื่น FM 100.5 MHz News Network, คลื่น Active Radio FM 99 MHz และคลื่น Mellow 97.5 MHz มีรายได้ลดลงจากปี 2562

สัดส่วนรายได้ อสมท ไตรมาส 1/2563

อสมท ระบุว่ารายได้หมวดทีวีจากค่าโฆษณาภาคเอกชน (ที่เป็นรายได้ก้อนใหญ่ที่สุด) ลดลง 15% ส่วนรายได้จากโครงการภาครัฐลดลงถึง 53%

หน่วยธุรกิจอื่นของ อสมท ก็อยู่ในช่วงถดถอย ธุรกิจออนไลน์ ที่มีเว็บไซต์ MCOT.net เป็นหลัก มีรายได้ลดลงจาก 9 ล้านบาทเหลือ 4 ล้านบาท แม้งบโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้นก็ตาม ซึ่งฝ่ายบริหารของ อสมท ยอมรับว่า MCOT.net ไม่สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ และกำลังพัฒนาธุรกิจใหม่ที่จะสร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2563

ธุรกิจให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิทัลของ อสมท ก็มีรายได้ลดลง จากปัจจัยผู้เช่าโครงข่าย 3 ราย ขอคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ได้แก่ Spring News 19, Voice TV, MCOT Family จึงทำให้รายได้เริ่มลดลงมาตั้งแต่ไตรมาส 3/2562 และธุรกิจให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียมก็มีรายได้ลดลง เพราะผู้เช่าลดลง

ไตรมาส 1/2563 ยังเป็นไตรมาสสุดท้ายที่ อสมท. มีรายได้จากธุรกิจร่วมดำเนินงานกับบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ หรือสัมปทานช่อง 3 แบบแอนะล็อก ที่มีระยะเวลานานถึง 50 ปี (นับตั้งแต่ปี 2513) โดยไตรมาสนี้มีรายได้ 101 ล้านบาท และรายได้ก้อนนี้จะไม่มีอีกแล้วในไตรมาสหน้า

ที่มา – อสมท

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา