แมคโดนัลด์ เปิดตัว Green Concept Store ร้านรูปแบบใหม่ ทันสมัยและรักษ์โลก ครั้งแรกในไทย

แมคโดนัลด์ เปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ “Green Concept Store” แห่งแรกในประเทศไทย พื้นที่กว่า 1 ไร่ ภายในแนวคิด Happy Green สร้างประสบการณ์ความสุขทุกรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

กิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า แมคโดนัลด์ Green Concept Store แห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่สาขาเลียบคลองสอง เขตคลองสามวา ถือเป็นสาขาที่ออกแบบและสร้างขึ้น เพื่อให้บริการและตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ตามการทำธุรกิจที่ขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) โดยนำความคิด “Happy Green” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การตกแต่งสาขา จนถึงเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ในร้านต่างๆ  ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการลดการใช้พลังงาน แต่ยังคงมีดีไซน์ที่ทันสมัยและสวยงาม

“การออกแบบสาขา เราได้ใช้ดีไซน์การตกแต่งร้านแบบEssential Ingredients 2.0’ ที่หยิบเอกลักษณ์ของวัตถุดิบหลักของแมคโดนัลด์มาใช้ในรูปแบบของศิลปะป๊อปอาร์ตที่สนุกสนาน และเป็นตัวแทนของสีในเมนูอาหารของแมคโดนัลด์ ทั้งเรื่องของฉากตกแต่งที่ทำลวดลายที่สื่อเป็นเมนูต่างๆ และใช้สีโทนอุ่น (Warm Color Tone) สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลาย และสบายตา”

สำหรับการออกแบบสาขาภายใต้แนวความคิด “Happy Green” แบ่งเป็นสองส่วน ได้แก่

การออกแบบภายนอก

  • สวนแนวตั้งสีเขียว (Vertical Garden) ความสูงขนาด 7 เมตร และร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ (Tree Shades) ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณรอบร้าน  และช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคาร สามารถลดอุณหภูมิได้โดยเฉลี่ยประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส
  • แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Rooftop) เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า รวมถึงลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟเฉลี่ย 10-15%
  • ไฟถนนจากโซลาร์เซลล์ (Solar Cell Street Lights) กักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ในการส่องสว่างภายในพื้นที่ด้านนอกสาขาแทนการใช้ไฟฟ้า สามารถลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางคืนได้ถึง 100%
  • จุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) อำนวยความสะดวกให้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยพลังงานทางเลือกกับเครื่องชาร์จในรูปแบบ DC Quick Charge กำลังไฟกว่า 120 กิโลวัตต์
  • จุดจอดรถจักรยาน (Bicycle Friendly) อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ใช้จักรยาน ซึ่งมีส่วนในการช่วยประหยัดพลังงานและลดปัญหามลพิษ  พร้อมเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย
  • แทงค์กักเก็บน้ำฝน (Rainwater Collecting Tank for Irrigation) กักเก็บน้ำฝนสำหรับใช้รดน้ำต้นไม้ในพื้นที่ จึงสามารถช่วยประหยัดน้ำได้เป็นอย่างดี

การออกแบบภายใน

  • หลอดไฟ LED (LED Lighting) ใช้หลอดไฟ LED ทั้งโครงการ ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่สำหรับให้แสงสว่างได้มากกว่าหลอดไส้ถึง 80-90%
  • สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ พร้อมเซ็นเซอร์อัตโนมัติ (Low Water Consumption Sanitary Ware with Auto Censor) ช่วยลดการใช้น้ำได้ถึง 20-30%
  • ใช้วัสดุกันความร้อน (Heat Insulation) เพื่อลดการตกกระทบของแสงแดด และไม่ให้รังสีความร้อนผ่านเข้าสู่ภายในมากนัก
  • ดีไซน์รูปแบบร้านให้ลดพื้นที่ของกระจก เพื่อลดการรับแสงอาทิตย์โดยตรง รวมถึงการลดความสูงของเพดาน เพื่อช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนักมาก และสามารถประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น
  • ถาดรีไซเคิลพลาสติกจากส่วนผสมของเปลือกไข่ (Egg Shell Tray) ที่ได้รับความร่วมมือในการพัฒนาจากศูนย์นวัตกรรมคาร์กิลล์ ประเทศไทย ทำจากส่วนผสมของพลาสติกหลังการบริโภค (Post-Consumer Recycle – PCR) และเปลือกไข่ซึ่งนับเป็นวัสดุชีวภาพ (Bio-material) ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 50%

กิตติวรรณ กล่าวเสริมว่า การออกแบบ และระบบต่างๆ ที่ลดการใช้พลังงานนั้น จะสามารถลดค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานหากนับเป็นเม็ดเงินก็จะประหยัดได้มากกว่าเดือนละ 15,000 บาท และในปัจจุบัน แมคโดนัลด์ เปิดให้บริการกว่า 230 สาขา โดยในปีนี้เราตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่กว่า 20 สาขา และรีโนเวทร้านสาขาเดิมจำนวน 25 สาขา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: McDonald’s ไทย จุดพลุครองตลาดเบอร์เกอร์ โกยรายได้ 7.2 พันล้าน สูงสุดในรอบ 38 ปี, McDonald’s

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา