เรียนจบ MBA เริ่มหางานยาก จบมหาวิทยาลัยตัวท็อปโลกยังไม่รอด

“ลูกเห้อ ชุดครุยมันส๊วยไหมลูก แม่ไม่เคยเห็นนา” 

แต่ ณ จุด นี้ ต่อให้ชุดครุยจะสวยแค่ไหน ก็ไม่สามารถช่วยให้เด็ก ‘MBA’ จากมหาวิทยาลัยระดับโลกหางานได้ง่ายๆ 

university

MBA หรือ ‘บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต’ (Master of Business Administration) คือหลักสูตรปริญญาโทยอดฮิต สำหรับนักศึกษาที่เคยมีประสบการณ์การทำงาน และสนใจต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ

ความน่าสนใจของหลักสูตรนี้คือ

  • 52% ของหลักสูตร MBA ทั่วโลกผ่านการรับรองจากสถาบันมาตรฐานอย่างน้อย 1 แห่ง
  • ผู้ประกอบการที่เรียนจบ MBA มีแนวโน้มประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น
  • 57% ของเด็ก MBA สามารถเปลี่ยนสายงานได้สำเร็จหลังเรียนจบ
  • ในปี 2021 มีเพียง 18.4% ของผู้สมัครหลักสูตร MBA เท่านั้นที่มหาวิทยาลัยตอบรับให้เข้ามาเรียนจริงๆ
  • ในปี 2024  มีนักศึกษาที่กำลังเรียนหลักสูตร MBA มากกว่า 250,000 คนทั่วโลก
  • องค์กรใหญ่ๆ อย่าง ‘Big 3’ แห่งวงการคอนซัลท์ (Mckinsey, BCG และ Bain) เคยถึงขั้นส่งพนักงานไปเรียน MBA

พูดง่ายๆ คือ ถ้าใครอยากประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจ ก็ต้องมาเรียน MBA กันทั้งนั้น และถ้ายิ่งจบจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของโลก โอกาสก็จะมากตาม 

แต่สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว เพราะในปี 2024 มีเพียง 84% ของบัณฑิต MBA จาก 15 มหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลก ที่สามารถหางานได้ใน 3 เดือนแรกหลังเรียนจบ 

แม้ตัวเลขจะยังดูมากอยู่ แต่ก็น้อยกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 5 ปีที่ผ่านมาราวๆ 8% เพราะอะไรกัน?

คอนซัลท์ก็ลด วงการเทคก็ไม่เอา

เมื่อดูข้อมูลการหางานของเด็ก MBA จาก 4 มหาวิทยาลัยดังอย่าง The University of Chicago, Columbia University, MIT และ New York University จะพบว่า ในปี 2024 จำนวนบัณฑิตจบใหม่ที่ทำงานกับ Big 3 นั้นลดลงถึง 25% เมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อนหน้า

หนึ่งเหตุผลที่เป็นไปได้คือ บริษัทให้คำปรึกษาหลายๆ เจ้าเริ่มมองว่า เด็กที่จบวิศวะหรือวิทยาศาสตร์มา อาจดูน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้ากว่า

นอกจากนี้ บริษัทเทคเช่น Amazon, Apple, Meta และ Microsoft ก็จ้างเด็ก MBA น้อยลงเช่นกัน 

โดยในปี 2024 ตัวเลขของบัณฑิตจาก 4 มหาวิทยาลัยนั้นลดลงเกินครึ่งเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยช่วง 2018 ถึง 2022

อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้วตัวเลขมันก็เพิ่มลดตามวัฏจักรของบริษัทเทคนั่นแหละ เพราะอุตสาหกรรมนี้มีขาขึ้นขาลงอยู่เสมอๆ 

ในยุค 90 สหรัฐฯ เคยเผชิญกับ ‘วิกฤตฟองสบู่ดอทคอม’ (Dotcom Bubble) เนื่องจากบริษัทพากันลงทุนกับอินเทอร์เน็ตและหุ้นสายเทคโนโลยี จนมูลค่าตลาดเพิ่มทวีคูณ ก่อนฟองสบู่จะแตก แล้วหลายๆ เจ้าก็ล้มละลาย

ณ ตอนนั้นเอง จำนวนบัณฑิตคณะบริหารของ University of Pennsylvania (หนึ่งในมหาวิทยาลัย Ivy League) ที่ได้เข้าทำงานในบริษัทเทค ก็น้อยลงประมาณ 9%

สำหรับยุคนี้ วิกฤตที่เป็นชนวนให้บริษัทเทคจ้าง MBA ลดลงคือ ‘โควิด’ และบางองค์กรเองก็เบื่อสไตล์การทำงานแบบ ‘มืออาชีพ’ ของพวกเขาแล้ว

จบจาก MIT ยังไม่รอด

MIT
ภาพจากเพจ MIT Sloan School of Management

ถ้าพูดถึงสถาบันตัวท็อปของโลก หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่คนนิยมไปเรียนต่อ MBA กันคือ ‘MIT’ หรือ ‘The Massachusetts Institute of Technology’ 

ในช่วง 2012-2022 โดยเฉลี่ยแล้ว 82% ของบัณฑิต MBA จาก MIT สามารถหางานได้เลยตั้งแต่เรียนจบ และ 93% จะหางานได้ในช่วง 3 เดือนหลังรับปริญญา

อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 ตัวเลขลดลงอย่างน่าใจหาย เพราะมีเพียง 62% ของเด็ก MBA จาก MIT เท่านั้นที่สามารถหางานได้ทันทีหลังเรียนจบ และแค่ 77% ที่หางานได้ใน 3 เดือนแรก

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์บางคนยังกังวลอีกว่า ในบรรดาบัณฑิตที่เคลมว่าตนเองมีงานทำ อาจเป็นแค่คนที่จบไปแล้วเป็นผู้ประกอบการ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนแทบเข้าข่าย ‘ว่างงาน’ ด้วยซ้ำ

MBA หลักสูตรลูกคุณหนูบ้านรวย

ความจริงคือ หลักสูตรบริหารธุรกิจของสหรัฐฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานแล้ว เนื่องจากหลายๆ คนมองว่า การจะเรียนรู้วิธีทำธุรกิจได้ ต้องอาศัยประสบการณ์จริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎีในห้องเรียน

ในปี 1994 หลักสูตร MBA เคยถูกล้อว่าเป็น “บัตรแรงงานของเด็กบ้านรวย” และในปี 2005 ก็เคยมีบทความตีพิมพ์ว่า ศาสตราจารย์คณะบริหารทุกวันนี้ อาจไม่เคยทำธุรกิจจริงๆ แม้แต่นิดเดียว

บางคนก็หาว่าคณะบริหารธุรกิจนี่ล่ะ คือตัวการของทุนนิยม และบางคนก็กล่าวว่า บัณฑิต MBA คือพวกนายทุนที่ไม่เอาไหน

แล้วถ้าพูดถึงแนวคิด ‘การทำกำไรสูงสุด’ (Profit Maximization) คนก็อาจโจมตีมากกว่าเดิม เพราะมีงานวิจัยชี้ว่า ผู้จัดการที่เรียนจบด้านบริหารธุรกิจ มีแนวโน้มที่จะแบ่งผลประโยชน์ให้ลูกน้องน้อยกว่าหัวหน้าที่ไม่ได้เรียนด้านนี้มา

นอกจากนั้น ยังมีการสเตอริโอไทป์แปลกๆ เกี่ยวกับเด็ก MBA อีก เช่น ในปี 2007 วิจัยชิ้นหนึ่งเผยว่า เด็กคณะนี้มีแนวโน้มที่จะรู้สึกแย่เมื่อเห็นเพื่อนซื้อรถรุ่นเดียวกัน ทั้งๆ ที่เพื่อนรู้อยู่แล้วว่าตนเองขับรถอะไร

ไม่มีใครจ้าง ก็ทำธุรกิจเองเลย

เมื่อบริษัทเทคไม่เห็นค่า คอนซัลท์เบนไปหาคณะอื่น แล้วสังคมยังมาบูลลี่อีก ทางออกของเด็ก MBA คือการเป็นผู้ประกอบการ

โชคยังดีที่โลกไม่ใจร้ายกับ MBA มากขนาดนั้น เพราะนักลงทุนจำนวนไม่น้อยสนใจจะมอบทุนให้เด็กบริหารจบใหม่ไปซื้อกิจการแล้วมาพัฒนาต่อยอดเอง 

โดยในปี 2023 มหาวิทยาลัย Stanford รายงานว่า มีคนมอบกองทุนเพื่อการนี้ถึง 94 ทุน

หนึ่งในนักลงทุนเผยว่า วิธีนี้เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ลองเป็นเจ้าของธุรกิจแบบไม่เสี่ยงมาก เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องลงมือสร้างบริษัทเองทั้งหมดตั้งแต่แรก

แต่อย่าเพิ่งเหมารวมว่า เด็ก MBA ที่จบมาทำธุรกิจ คือคนที่หางานจากบริษัทใหญ่ๆ ไม่ได้เลย เพราะบางส่วนก็ตั้งใจเรียนหลักสูตรนี้ เพื่อสร้างกิจการของตนเองโดยเฉพาะ

ท้ายสุด เราเชื่อว่า ต่อให้วันนี้จะเรียนจบอะไรมา หากมีความพยายามมากพอ แม้ความฝันจะอีกไกลแค่ไหน สักวันหนึ่งเราคงทำได้ และบางที ความเห็นของคนอื่นก็อาจไม่ช่วยอะไรมากนัก

ที่มา: The Economist, National University, Investopedia

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา