นอกจาก Mazda เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก และการเตรียมพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่ Mazda ยังเปิดแคมเปญพิเศษที่ให้ผู้ขับ MX-5 โฉมแรกในประเทศญี่ปุ่นนำรถมาซ่อมบำรุงทั้งคัน ทั้งผลิตอะไหล่ขึ้นมาใหม่ด้วย
สร้างแบรนด์ด้วยการปั้นรถเก่า
MX-5 หรือ Miata คือรถสปอร์ตแบบ Roadster เปิดประทุนที่จำหน่ายได้มากที่สุดในโลก เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวโฉมแรกเมื่อปี 2532 ถึงตอนนี้ก็จำหน่ายไปมากกว่า 1 ล้านคันแล้ว เหตุที่ทำได้มากขนาดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องราคาที่ไม่ได้สูงจนเกินเอื้อม แต่มันมาพร้อมกับการพัฒนารถสปอร์ตคันนี้ให้ขับสนุก และแตกต่างจากรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ
Nobihuro Yamamoto หัวหน้าวิศวกรของ Mazda ที่ร่วมออกแบบ MX-5 มาตั้งแต่แรก ระบุว่า โฉมแรกของ MX-5 ที่ใช้รหัสตัวถัง NA นั้นออกแบบโดยนำความสนุกของรถสปอร์ต 2 ประตูเปิดประทุนรุ่นเก่าๆ เช่น MG รุ่น MGB และ Datsun 240Z มาเป็นต้นแบบ
“แนวคิดยังถูกใช้ใน MX-5 โฉมที่ 4 หรือโฉมล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อปี 2558 ซึ่งนี่ก็เป็นเวลา 30 ปีแล้วสำหรับ MX-5 ดังนั้นการจะทำอะไรเพื่อตอบแทนผู้ใช้งานรถสปอร์ตรุ่นนี้ก็เริ่มจำเป็นมากขึ้น และเราจะเริ่มด้วยการทำแคมเปญให้ผู้ขับ MX-5 โฉมแรกนำรถมาซ่อมบำรุงใหม่ได้ทั้งคัน”
สำหรับแคมเปญดังกล่าวจัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และมีผู้สมัครนำรถ MX-5 รุ่นแรกมาซ่อมบำรุงใหม่ทั้งคัน 54 ราย และมีรายชื่อสำรองอีก 15 ราย โดยผู้สมัครทั้งหมดนี้จะถูก Mazda คัดเลือกจากความผูกพันกับ MX-5 และความเป็นไปได้ในการเป็น Brand Ambrassdor ให้กับ Mazda ด้วย
ขณะเดียวกัน Mazda ยังเตรียมผลิตอะไหล่รถยนต์ MX-5 โฉมแรกกว่า 1,000 ชิ้นส่วน เพื่อให้ผู้สนใจสามารถนำไปซ่อมบำรุงด้วยตัวเองได้ โดยถึงตอนนี้เริ่มมีตัวแทนจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่นติดต่อซื้อชิ้นส่วนเหล่านี้เพื่อนำไปให้ผู้ขับขี่ MX-5 ในประเทศที่ตัวเองทำตลาดอยู่ได้ซื้อไปใช้งาน
ในทางกลับกัน Mazda ก็อยู่ระหว่างศึกษาการทำซ่อมบำรุงรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ เช่น RX-7 ที่ใช้รหัสตัวถัง FC และ FD รวมถึงรุ่น Eunos Cosmo รถสปอร์ตเครื่อง 3 โรเตอร์เช่นเดียวกัน เรียกว่าเป็นการกลับมาปัดฝุ่นรถสปอร์ตอย่างจริงจังหลังไม่ได้มีแผนเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่มาระยะหนึ่งแล้ว
สรุป
แม้การออกแคมเปญปัดฝุ่นรถสปอร์ตรุ่นเก่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Mercedes-Benz และ Porsche ก็เคยทำแล้ว แต่การทำแบบนี้แสดงให้เห็นว่า Mazda ให้ความสำคัญกับรถสปอร์ตในตำนาน แม้ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์จะเป็นอย่างไร ดังนั้นใครที่ครอบครอง MX-5 โฉมแรกในไทยอยู่ก็คงต้องลุ้นกันว่าจะมีแคมเปญนี้ในไทยหรือไม่
ข้อมูลเพิ่มเติม // ค่าใช้จ่ายในการร่วมแคมเปญนี้อยู่ราว 1.3 ล้านบาท
อ้างอิง // The Drive
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา