Mass Group เจ้าของลิขสิทธิ์นิตยสารหัวนอก ประกาศเปลี่ยนชื่อ L’Optimum Thailand เป็น L’Officiel Hommes และยุตินิตยสาร Men’s Fitness รุกนโยบายนิตยสารทุกหัวต้องมีหลายแพลตฟอร์ม
ไม่ใช่อยู่ไม่รอด! แต่บริษัทแม่เขาขอเปลี่ยน
นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของนิตยสารในเครือ Mass Group 2 หัว ด้วยกัน ทั้งการเปลี่ยนชื่อ และยุติการพิมพ์ โดยที่ L’Optimum Thailand (ลอปติมัม ไทยแลนด์) ได้เปลี่ยนชื่อเป็น L’Officiel Hommes (ลอฟฟีเชียล ออมส์)
L’Optimum Thailand เป็นนิตยสารแฟชั่นสำหรับผู้ชาย ได้วางแผงในประเทศไทยตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 หรือมีอายุได้ 4 มีการตีพิมพ์ปีละ 2 ฉบับ ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 ฉบับ ชื่อใหม่จะมีการใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป
การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้มาจากที่ Editions Jalou (เอดิชั่นส์ ฌาลู) เจ้าของนิตยสาร L’Officiel และ L’Optimum ประเทศฝรั่งเศสได้ทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง มีการรีแบรนด์ใช้ชื่อ L’Officiel ให้เหมือนกับนิตยสารแฟชั่นผู้หญิง เพราะเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงกว่า มีอายุ 90 ปี แล้ว
พร้อมทั้งประกาศปิดตัว Men’s Fitness ในไทยด้วย
ชเป็นเพราะนโยบายของ “American media (อเมริกัน มีเดีย)” เจ้าของลิขสิทธิ์ได้ประกาศยุติการพิมพ์ Men’s Fitness ทั่วโลก ซึ่งในสหรัฐอเมริกาได้ทำการควบรวมกับนิตยสาร Men’s Journal
แต่ทีนี้การที่ Mass Group จะนำ Men’s Journal เข้ามาแทน ก็ทับไลน์กับ L’Officiel Hommes เพราะมีเนื้อหาเชิงไลฟ์สไตล์ผู้ชายเหมือนกัน จึงปิดตำนาน Men’s Fitness ที่เดือนธันวาคม 2560 จะเป็นฉบับสุดท้าย
พรวิภา เธียรธนวาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท แมส คอนเน็ค จำกัด กล่าวว่า
“นอกจากการเปลี่ยนชื่อยังมีการปรังปรุงเนื้อหา และรูปลักษณ์ให้น่าสนใจ ทันสมัยมากขึ้น เน้นที่เรื่องแฟชั่น ไลฟ์สไตล์สำหรับผู้ชาย มีการเพิ่มช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมคนในยุคนี้”
ปัจจุบัน Mass Group มีนิตยสารในเครือ 6 เล่ม ได้แก่ L’Officiel, L’Officiel Hommes, L’Officiel Wedding, L’Officiel Watches and Jewelry, L’Officiel Art, Design and Decora และ WOW
เมื่อมีการปิด Men’s Fitness ไป มีแผนท่ีจะนำนิตยสารหัวใหม่ในกลุ่มฟิตเนสเข้ามาเพิ่มเติม เพราะกลุ่มนี้มีโอกาสเติบโต แต่ยังขอใช้เวลาศึกษาก่อน
สรุป
– วงการนิตยสารที่ยังอยู่รอดยังเป็นนิตยสารเฉพาะกลุ่ม ซึ่งนิตยสารของ Mass Group เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อทั้งสิ้น ทำให้ยังมีหนทางอยู่รอดในแผง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา