เชื่อว่าคนทั่วๆ ไปอาจจะไม่คุ้นหูหรือรู้จัก Livehouse ว่ามันคืออะไร แต่หากเป็นคนที่ชื่นชอบดนตรีเฉพาะทาง แน่นอน… มันคือแหล่งรวมตัวของผู้คนที่หลงใหลในวัฒนธรรมดนตรี เสน่ห์ของ Livehouse ที่แตกต่างจากสถานที่รูปแบบอื่นๆ คือพื้นที่ขนาดย่อมที่เปิดโอกาสให้เหล่าศิลปินหน้าใหม่ได้แสดงความสามารถ บ่มเพาะและหล่อหลอมแสดงผลงานอย่างอิสระและใกล้ชิดกับผู้ชมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นดนตรีสด เปิดแผ่น ดีเจ ทุกแนวเพลงต่างๆ บนโลกใบนี้ ล้อมรอบด้วยผู้คนที่ชอบในสิ่งเดียวกัน เกิดบรรยากาศระหว่างศิลปินและคนดูเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง ถือเป็นเอกลักษณ์พิเศษของพื้นที่รวมตัวคนหลงใหลในเสียงเพลงอย่างแท้จริง
Livehouse กลายเป็น 1 ในกลไกสำคัญของวงการดนตรีที่เปิดโอกาสให้ศิลปินได้ฝึกฝน พัฒนาฝีมือ และสร้างฐานแฟนคลับอย่างแท้จริง ก่อนที่จะก้าวไปสู่เวทีที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต พื้นที่เหล่านี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสรรค์ผลงานและขยายขอบเขตของแนวเพลงให้มีความหลากหลายมากขึ้น
แต่ด้วยข้อจำกัดของ Livehouse ในไทยที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้เป็นพื้นที่ของศิลปินหน้าใหม่อย่างแท้จริง ASH Asia พาร์เนอร์ด้านการจัดจำหน่าย Marshall กว่าทศวรรษ ผุดไอเดียที่จะให้กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของ ‘Marshall Livehouse’ แห่งแรกของโลก สถานที่ที่จะไม่ใช้แค่เพียง Livehouse เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นพื้นที่ศูนย์รวมของคอมมูนิตี้เเละคนที่รักในเสียงดนตรี ที่มาพร้อมกิจกรรมทางดนตรีที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน สตูดิโอซ้อมดนตรีที่เข้าถึงได้ง่าย และโปรแกรมทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานความเป็นท้องถิ่นเข้ากับวิสัยทัศน์ระดับโลก
3 ปีกว่าจะเป็น Marshall Livehouse
และแน่นอน กว่าจะมาเป็นโปรเจค ‘Marshall Livehouse’ ไม่ใช่เรื่องง่าย หทัยชนก “แพน” อรรถบุรานนท์, หัวหน้าฝ่ายดนตรีและวัฒนธรรม, Marshall Livehouse เผยถึงการสัมภาษณ์พิเศษกับ Brand Inside ว่า ในกลุ่มธุรกิจของ Marshall หลายคนอาจจะนึกถึงสินค้าที่เป็นกลุ่มลำโพงและหูฟัง ซึ่งเราแข็งแรงมากทั้งในแง่ของแบรนด์ดิ้งและยอดขาย แต่แท้ที่จริงแล้ว Marshall มีแพลตฟอร์มอื่นๆ ทั้งสินค้ากลุ่มแอมพลิฟายเออร์ต่างๆ หรือ record label ที่อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก เราจึงอยากนำเสนอให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มนักดนตรีมากขึ้น หากเรามี Livehouse เป็นโชว์เคสของตนเอง จะตอบโจทย์ทั้งเรื่องการสร้างประสบการณ์ การทดลองใช้งานจริง จึงเป็นที่มาของการพูดคุยกับทาง Marshall ถึงโปรเจคนี้ร่วมกัน ใช้เวลากว่า 3 ปี ในการตกผลึกถึงแนวคิด โดย ASH Asia รับหน้าที่ดูแลการดำเนินงานและการลงทุนในประเทศไทย ส่วน Marshall เป็นผู้มอบการกำหนดทิศทางครีเอทีฟ การผสมผสานความเป็นแบรนด์ การสนับสนุนเชิงกลยุทธ์ และการเชื่อมต่อสู่ทรัพยากรดนตรีระดับโลก

จากตึกแถวย่านเจริญกรุง เราลงทุนเช่าอาคารระยะยาวนาน 7 ปี ปรับปรุง ตกแต่งอาคาร อุปกรณ์เครื่องดนตรี งบประมาณรวมกว่า 30 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของโปรเจค ‘Marshall Livehouse’ แห่งแรกของโลกที่ปักหมุดประเทศไทย จะเป็นพื้นที่หลักของการสร้างสรรค์ผลงาน ศูนย์รวมของคอมมูนิตี้คนที่รักในเสียงดนตรี สตูดิโอซ้อมดนตรีที่เข้าถึงได้ง่าย ในงบประมาณที่เอื้อมถึง
Marshall Livehouse จะเป็นสถานที่ที่ให้ศิลปินรายเล็ก นักดนตรีหน้าใหม่ได้มีโอกาสได้สัมผัส ทดลองใช้งานแบรนด์ชั้นนำระดับโลกครบชุดเป็นที่แรกของไทย
“แพนเชื่อว่า อุปกรณ์ดนตรีโดยเฉพาะแอมพลิฟายเออร์กีตาร์ เมื่อได้ลองใช้งานจริง จะเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับเหล่านักดนตรี โดยเฉพาะกลุ่มศิลปินใหม่ๆ ที่จะได้มีโอกาสทดลองใช้งานได้ เสน่ห์ของแอมป์ Marshall อยู่ที่เป็นหลอดสุญญากาศ (valve/tube amplifier) ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะโทนเสียง overdrive รวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งชุดกลอง Natal และอื่นๆ ทุกไลน์อัปสินค้าตั้งแต่ตัวเล็กไปถึงตัวใหญ่ราคาหลายแสนบาท เราเชื่อว่าเป็นโอกาสให้กับศิลปินหน้าใหม่ที่ให้เค้าได้ทดลองได้อย่างเต็มที่”
10 ปีความเชื่อมั่นในพาร์เนอร์ Marshall x ASH Asia
ก่อนที่ แพน-หทัยชนก อรรถบุรานนท์ จะก้าวเข้ามารับผิดชอบ Marshall Livehouse เธอได้รับบทบาทเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ Marshall ที่ ASH Asia หลายปี จึงทำให้รู้จักสินค้า และอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) เป็นอย่างดี
“กว่า 10 ปีในประเทศไทยเราเป็นตัวแทนจำหน่าย Marshall อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว รวมไปถึงดูแลตลาดเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ซึ่งเราทำการตลาดในทวีปเอเชียได้ดีมากๆ หากเทียบเป็นสัดส่วนการขายและประชากร เราเป็นรองเพียงแค่จีน และอินเดีย หากย่อลงมาในระดับอาเซียน ไทยเราเป็นที่ 1 เรื่องของยอดขาย รวมไปถึงมาร์เก็ตแชร์บางกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เราเป็นอันดับหนึ่ง เป็นสิ่งที่ทำให้ Marshall ได้เห็นถึงศักยภาพของเรา และยิ่งด้วยสินค้าที่เกี่ยวข้องกับดนตรี มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับศิลปิน เราทราบความต้องการของคนเหล่านี้ และ Marshall ก็เป็นแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลก มีช่องทางสนับสนุน จึงกลายเป็นความร่วมมือระหว่าง Marshall x ASH Asia ที่เปิดตัว Marshall Livehouse เป็นที่แรกของโลก และหากได้รับผลตอบรับที่ดี ก็อาจจะมี Marshall Livehouse กระจายตัวอยู่ทั่วโลกต่อไป”
แพนเล่าให้ฟังถึงความยากของโปรเจคนี้คือ เป็นโปรเจคแรกของโลก ไม่มีข้อมูล ต้นแบบ หรือคู่มือให้ศึกษา ทุกอย่างเริ่มต้นจาก 0 ไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องไหม การติดต่องานทุกอย่างเราดีลกับทาง Marshall สำนักงานใหญ่ที่อังกฤษทุกขั้นตอน ด้วยกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เข้มงวด แต่เราก็มั่นใจในการทำงาน ทั้งเรื่องข้อมูล การสืบค้น การเข้าใจความเป็นนักดนตรีที่อยากรู้ว่าต้องการอะไร เลยเป็นผลงานอีกภูมิใจมากๆ
ปั้นศิลปินไทย ไปไกลระดับโลก
แพมเชื่อว่าศิลปินไทยก็มีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก เธอมองเห็นความสามารถของจึงได้นำเสนอโปรไฟล์ของ Réjizz ศิลปินฮิปฮอปชาวไทย และได้ถูกทาบทามและเซ็นต์สัญญาเป็นศิลปินไทยคนแรกภายใต้สังกัด Marshall Records เรียบร้อยแล้ว

“ทาง Marshall สำนักงานใหญ่ ได้เห็นฝีมือจากการที่เราได้พาเรย์ไปแสดงดนตรีที่อังกฤษเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยความสามารถและผลงานที่โดดเด่นจึงเป็นที่สะดุดตาของ Marshall Records จึงมีโอกาสได้ร่วมงานกัน และปีหน้าจะพาไปเปิดตลาดเพลงกลุ่มใหม่ๆ ในต่างประเทศ”
พื้นที่ทุกตารางเมตรใน Marshall Livehouse เพื่อคนรักดนตรี
Marshall Livehouse จะมอบประสบการณ์อันเหนือความคาดหมายให้แก่แฟนๆ Marshall และคนรักดนตรี ภายในอาคารเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ทุกไลน์ของ Marshall ไม่ว่าจะเป็นแอมป์กีตาร์ ลำโพง หูฟัง ไปจนถึงแอคเซสเซอรี่ต่างๆ เข้าไว้ในทุกชั้นของอาคารอย่างลงตัว
ชั้น 1: The Stage and Bar – พื้นที่แสดงดนตรีสดขนาดย่อมที่เปิดให้ศิลปินได้ขึ้นเวทีในบรรยากาศเป็นกันเอง พร้อมบริการกาแฟในช่วงกลางวัน และบาร์เครื่องดื่มในช่วงค่ำคืน โดย City Boy Coffee Stand
ชั้น 2: Vinyl Listening Bar and Gear Hub – ศูนย์บริการลูกค้าอย่างเป็นทางการและครบวงจรของ Marshall สำหรับสินค้าที่ซื้อในประเทศไทย พร้อมพื้นที่เวิร์กช็อปและบาร์แผ่นเสียง
ชั้น 3: Rehearsal Studios – ห้องซ้อมดนตรีสองห้อง ที่ติดตั้งอุปกรณ์ Marshall และอุปกรณ์เครื่องดนตรีอย่าง
ครบครันระดับมืออาชีพ พร้อมต้อนรับศิลปินท้องถิ่นรุ่นใหม่และทัวร์ศิลปินจากต่างประเทศ
ชั้น 4: Event Space – พื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่สำหรับจัดอีเวนต์พิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรี นิทรรศการ หรือกิจกรรมทางวัฒนธรรม รวมไปถึงกิจกรรมของคอมมูนิตี้ทุกชนิด
Marshall Livehouse ตั้งอยู่ที่ 186 ซอยเจริญกรุง 36 กรุงเทพมหานคร เปิดทำการทุกวันพฤหัสบดี – จันทร์ 11.00-21.00 น. สามารถติดตามข่าวสารและอัพเดตได้ทาง Instagram: @marshalllivehouse และ Facebook: Marshall Livehouse
#Marshall #MarshallLivehouse @MarshallLivehouse
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา