ธุรกิจกรรมโรงแรม, การบิน และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างประสบปัญหาเมื่อ COVID-19 ระบาด และกลุ่มโรงแรม Marriott ที่ก่อนหน้านี้ปลดพนักงานกว่า 1,000 คน ล่าสุดประกาศขาดทุนครั้งแรกในรอบ 9 ปี
ขาดทุน แต่คาดว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น
Marriott International ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2563 ว่า มีรายได้ 1,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 72.4% นอกจากนี้ยังขาดทุนสุทธิ 234 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นครั้งแรกของบริษัทที่มีไตรมาสที่ขาดทุนในรอบ 9 ปี
หากเจาะไปที่รายละเอียดจะพบว่า รายได้ที่ลดลง รวมถึงการขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี มาจากอัตราเข้าพักในห้องพักทั่วโลกของกลุ่ม Marriott ลดลงเหลือ 11% จากทั้งหมด แต่ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 1 ส.ค. ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 34% แสดงให้เห็นถึงการกลับมาใช้บริการของผู้บริโภคทั่วไป
Arne Sorenson ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม Marriott แจ้งว่า สัญญาณการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาดีขึ้น แต่กว่าทุกอย่างจะกลับมาเหมือนกับช่วงก่อนวิกฤต COVID-19 อาจต้องรอถึงต้นปี 2564 หรือนานกว่านั้น ซึ่งตัวเลขรายได้ของบริษัทจะมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นเดียวกัน
จากสัญญาณนี้กลุ่ม Marriott จึงปรับตัวเลขคาดการณ์ Cash Burn เหลือ 85 ล้านดอลลาร์/เดือน ในปี 2563 จากก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ที่ 145 ล้านดอลลาร์/เดือน โดย Marriott เป็นเครือโรงแรมอันดับหนึ่งของโลก มีโรงแรมให้บริการกว่า 6,900 แห่ง คิดเป็นหลายล้านห้อง
สรุป
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ธุรกิจโรงแรมจะกลับมามีแนวโน้มดีขึ้น เพราะภาพรวมการท่องเที่ยวในหลายประเทศยังไม่สามารถทำได้ และคงต้องรออีกเป็นปีกว่าทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นกลุ่ม Marriott คงต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อประคองให้บริษัทผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา