มุมมองและเทคนิคการลงทุนจาก “Mark Mobius” กูรูนักลงทุนตลาด Emerging Markets

หลังจากการประกาศเกษียณอายุการทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนระดับโลกอย่าง เทมเพิลตัน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์กรุ๊ป ล่าสุด Mark Mobius ได้รับเชิญจากธนาคารกสิกรไทย มาให้มุมมองและเทคนิคในการลงทุนในตลาดเกิดใหม่หรือเรียกว่า Emerging Markets ซึ่งถือว่าน่าสนใจมาก ทาง Brand Inside ได้สรุปประเด็นที่น่าสนใจมาให้ได้อ่านกัน

ในงาน KBank Private Banking หัวข้อสัมมนา Insight on The Emerging Frontier และทาง Mark Mobius ได้ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศไทยและต่างประเทศ ถึงมุมมองในการลงทุนในปีนี้ โดยงานสัมมนาของธนาคารกสิกรไทยถือว่าเป็นงานสุดท้ายของ Mark Mobius ที่มาในนามของเทมเพิลตัน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์กรุ๊ป ในประเทศไทย

Mark Mobius คือใคร

ถ้าจะถามว่าใครที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดเกิดใหม่หรือ Emerging Markets ย่อมหนีไม่พ้น Mark Mobius ที่ทำงานกับทางเทมเพิลตัน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์กรุ๊ป มายาวนานกว่า 40 ปี โดยเฉพาะกองทุน Franklin Templeton Investment Funds สำหรับ Mark Mobius จบการศึกษาปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยบอสตัน และได้รับปริญญาเอกทางด้านเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์จากทาง MIT ในปี 2554 เขาได้ติดอยู่ในรายชื่อ 50 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุด จาก Bloomberg หนังสือของเขาที่น่าสนใจได้แก่ ค้ากับจีน คู่มือนักลงทุนในตลาดเกิดใหม่ เป็นต้น

มุมมองทั่วไปเกียวกับตลาด Emerging Markets

Mark Mobius มองว่าหลังจากในปี 2017 นั้น MSCI Emerging Markets ในรูปแบบเงินดอลลาร์สหรัฐได้ให้ผลตอบแทนสูงถึง 37% ในปี 2018 นี้ Mark Mobius ก็ยังมองว่าตลาด Emerging Markets ยังมี Upside อีกพอสมควร และค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอ่อนตัว รวมไปถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังเป็นขาขึ้น ทำให้ตลาด Emerging Markets ได้ประโยชน์มาก โดยปีนี้ Mark Mobius ชอบกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาอย่างบราซิล ชิลี รวมไปถึงจีนด้วย ซึ่งประเทศเหล่านี้ได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น อย่างเหล็ก หรือแม้แต่น้ำมัน

แล้วตลาดในกลุ่ม Emerging Markets มีโอกาสลงไปได้ไหม

Mark Mobius บอกว่า ถ้าสมมติว่าตลาดในกลุ่ม Emerging Markets ลงมาในปีนี้น่าจะลงมาอยู่ประมาณ 20-30% แต่ต้องอยู่ในสภาวะที่เรียกว่า Market Euphoria ที่ทุกคนแห่กันลงทุนในหุ้น ซึ่งถ้าทุกคนมองว่าตลาดหุ้นดีมากๆ ส่วนใหญ่แล้วตลาดมักจะลง ถ้ากรณีคนส่วนใหญ่หดหู่ ตลาดหุ้นจะตรงกันข้าม คือ มักขึ้นมาเสมอ ส่วนกรณีที่แย่ที่สุดของตลาดในกลุ่ม Emerging Markets ที่จะลงได้สูงสุด Mark Mobius มองว่าคือ 80% โดยยกตัวอย่างระบบ Banking ของธนาคารพังขึ้นมาทั่วโลก

สมมติว่าตลาด Emerging Markets กลายเป็นตลาดพัฒนาไปแล้ว?

สมมติว่าตลาด Emerging Markets หลายๆ ประเทศกลายเป็นตลาดประเทศพัฒนาไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่นมาเลเซีย Mark Mobius มองว่า เขาก็จะไปลงทุนในประเทศอื่นๆ ที่ยังเป็น Emerging Markets ต่อไป และเริ่มดูประเทศที่เป็น Frontier Markets กำลังจะขึ้นมาเป็น Emerging Markets ยกตัวอย่างเช่น เวียดนาม หรือแม้แต่ประเทศในแถบแอฟริกาที่เขาเองก็สนใจ ยังมีประเทศที่ให้เขาได้ลงทุนอีกเกือบๆ 70 ประเทศ

เรื่องอื่นๆ ใน Emerging Markets

  • เศรษฐกิจใน Emerging Markets จะโตช้าลง ถ้าเศรษฐกิจจีนเติบโตช้า และญี่ปุ่นไม่ลงทุนต่อ
  • ประเทศจีนพยายามทำให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสากลมากขึ้น
  • เงินสกุลดอลลาร์จะอ่อนค่าลง จีนจะลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐลง
  • Shadow Banking ในจีน เขาบอกว่าทางการจีนมาจัดการนั้นถูกต้องแล้ว เพราะตอนเขาไปเที่ยวจีน ตามท้องถนนมีคนมาถามเขาเลยว่าสนใจซื้อกองทุนไหม ให้ผลตอบแทนดีมาก

กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีกับความคาดหวังที่สูง

เขามองว่าการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐจะทำให้บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐเกิดปัญหา โดยเฉพาะบริษัทที่กำลังเติบโต โดยเขายกตัวอย่าง Tesla ว่าถ้าดอกเบี้ยขึ้น จะทำให้ต้นทุนทางการเงินของ Tesla ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ต่างกับบริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีนที่สามารถมีกระแสเงินสดได้ด้วยตัวเองอย่าง Alibaba หรือแม้แต่ Tencent

อีกเรื่องที่เขามองว่าสำคัญมากๆ คือบริษัทเทคโนโลยีมีน้ำหนักในการถ่วงดัชนีเยอะมากๆ เช่น Tencent มีน้ำหนักใน Hang Seng Index ถึง 15-17% ยิ่งกองทุนบางกองถ่วงน้ำหนักกลุ่มเทคโนโลยีถึง 25-27% จะทำให้มีปัญหาเวลายิ่งคนสั่งขายกองทุน ETF ออกมา ยิ่งเป็นตัวทำให้ตลาดลงไปได้อีก เขาได้เน้นย้ำว่าบริษัทเทคโนโลยีนักลงทุนมีความคาดหวังสูงกับกลุ่มนี้มาก

เล็กๆ น้อยกับ Bitcoin

Mark Mobius ให้ความเห็นเรื่องของ Bitcoin ว่า ชอบบริษัทที่มีส่วนกับสกุลเงินดิจิทัล อย่างเช่นบริษัทขุดเหรียญ แต่ไม่ได้มองสกุลเงินดิจิทัล เพราะไม่มีใครรู้ว่าสกุลเงินดิจิทัลมีราคาที่แท้จริงเท่าไหร่ และท้ายที่สุด รัฐบาลต้องการทำสกุลเงินดิจิทัลเองเพื่อควบคุมในเรื่องนี้

ภาพจาก Shutterstock

มุมมองของ Mark Mobius ต่อตลาดหุ้นไทย

กองทุนของ Templeton Emerging Markets ทุกวันนี้ลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ในสัดส่วนประมาณ 2-3% และลงทุนเกิน Benchmark มาโดยตลอด แต่จะไม่ลงทุนเกินกว่านี้ (ส่วนใหญ่กองทุนมักจะ Benchmark กับ MSCI Emerging Markets – ผู้เขียน) เขามองตลาดหุ้นไทยก็เหมือนตลาดหุ้นอื่นในกลุ่ม Emerging Markets ที่สภาวะจิตใจนักลงทุนขึ้นๆ ลงๆ

ส่วนการโกงเหมือนแชร์แม่ชม้อยก็มีทุกตลาด แต่ที่ Mark Mobius ชอบตลาดหุ้นไทยส่วนหนึ่งเพราะประเทศมีเสถียรภาพ มีทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะวัตถุดิบจากเกษตรกรรม เช่น มันสำปะหลัง และรวมไปถึงคนไทยนิสัยดี มักจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ดี เขามองว่าตลาดหุ้นไทยอาจโตได้ถึง 20% บริษัทเอกชนในไทยค่อนข้างดี ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ชอบได้แก่กลุ่มธนาคารที่ปรับตัวได้ดี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และแน่นอนว่ากลุ่มท่องเที่ยวก็เป็นหนึ่งในนั้น

เรื่องอื่นๆ ของประเทศไทย

  • ปัญหาของระบบราชการไทย ถ้าปฏิรูประบบราชการได้จะดีมาก
  •  เอกชนต้องเร่งการลงทุนเหมือนกัน ต้องสอดคล้องกับที่รัฐบาลลงทุน
  • การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของไทยจะเร่ง GDP ไทยให้โตมากกว่านี้ ไทยอาจโตได้ถึง 5-6%
  • การเลือกตั้ง ไม่ได้ทำให้ความเชื่อมั่นกลับมาหรือเปลี่ยนมุมมองได้ แต่รัฐบาลไทยจัดการกับความวุ่นวายได้ดี
  • ประเทศไทยต้องกระจายนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นด้วย เช่น อินเดีย มาบาลานซ์นักท่องเที่ยวชาวจีน
  • การสร้างรถไฟความเร็วสูงจากยูนานไปสิงคโปร์ และจากโฮจิมินไปพม่าจะเปลี่ยนโฉมกลุ่มประเทศในแถบนี้

เทคนิคการลงทุนจาก Mark Mobius และความผิดพลาด

  1. มองโลกในแง่ดี เขามองว่าถ้าลงทุนในตลาด Emerging Markets ต้องมองโลกในแง่ดี เพราะว่าตลาดขาลงใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 2 ปี แต่ตลาดขาขึ้นมีเวลายาวนานกว่าเยอะ และต้องก้าวข้ามความกลัวให้ได้
  2. กระจายความเสี่ยงในการลงทุน
  3. ทำการบ้านเยอะๆ โดยเฉพาะการหาข้อมูล เขาบอกว่าถ้าจะลงทุนในตลาด Emerging Markets ต้องทำการบ้านอย่างหนัก ต้องดูเรื่องของบริษัทและผู้บริหารว่าเป็นยังไง

เขาได้เคยเล่าความผิดพลาดในการลงทุนในประเทศบราซิลว่าลงทุนบริษัทหนึ่งว่างบดีมาก ทำการบ้านมาดี แต่สุดท้ายพบว่าบริษัทโกงบัญชี ปิดบริษัทหนี เขาเคยไปเข้าพบกับกลต. ประเทศบราซิลเพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้ แต่สุดท้ายทุกวันนี้ก็ยังเงียบ เขาเลยเน้นย้ำเหมือนในข้อ 3 ที่ว่าดูผู้บริหารด้วย ซึ่งสำคัญมาก

เล็กๆ น้อยๆ จาก Mark Mobius

  • เขาได้เข้าไปที่จีนและตั้งบริษัทร่วมทุนกับ China Life เพื่อดึงดูดลูกค้าในจีน
  • ออกกำลังกายวันละ 30 นาที โดยปั่นจักรยานออกกำลังกายและอ่านหนังสือผ่าน Kindle ไปด้วย ทำให้เขาดูสุขภาพแข็งแรง ทั้งๆ ที่อายุ 82 ปีแล้ว
  • ตอนนี้เขาอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส ซาอุดิอาราเบีย และหนังสือแนวพัฒนาตัวเองด้วย
  • เขามองว่างานบางอย่างคนยังทำได้ดีกว่า AI
  • ถึงแม้เขาจะเกษียณอายุจากเทมเพิลตัน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์กรุ๊ปแล้ว แต่เขาก็จะยังลงทุนในตลาด Emerging Markets ต่อไป

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ