มาลีกรุ๊ปแตกไลน์ธุรกิจครั้งใหญ่ในรอบ 40 ปี จากน้ำผลไม้รุกตลาด Personal Care เป็นครั้งแรก ร่วมทุนยักษ์ใหญ่จากอินโดฯ เปิดบริษัท มาลี คีโน่ ประเทศไทย จำกัด
เดินหน้าสยายปีกสู่ต่างประเทศ
ได้เห็นการปรับตัวของ “มาลีกรุ๊ป” มาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เพราะด้วยภาพรวมของตลาดน้ำผลไม้ในประเทศไทยไม่ค่อยสวยหรูมากนัก ไม่มีการเติบโตมา 1-2 ปีแล้ว โดยที่ในปี 2560 มีมูลค่า 12,000 ล้านบาท ติดลบถึง 8% ในเซ็กเมนต์พรีเมียมมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท ติดลบ 7%
ทำให้มาลีกรุ๊ปต้องทำการปรับแผนยกใหญ่เพื่อรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โดยกลยุทธ์หลักคือการบุกตลาดต่างประเทศ เป็นรูปแบบของการร่วมทุน และการซื้อกิจการ
โมเดลของการทำตลาดต่างประเทศของมาลีกรุ๊ปแบ่งเป็น 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่
1. ส่งออก แล้วให้ดิสทริบิวเตอร์ในแต่ละประเทศจัดจำหน่าย
2. ส่งออก พร้อมกับทำการตลาดด้วยในกลุ่มประเทศสำคัญ ได้แก่ กัมพูชา พม่า ลาว และจีน
3. การร่วมทุน เพิ่งเริ่มทำได้ 3 ปี ในประเทศฟิลิปปิส์ ร่วมทุนกับ บริษัท มอนเด นิชชิน คอน์ปอเรชั่น จำกัด ทำธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม มีการกระจายสินค้าครอบคลุม 99% ทั่วประเทศ และในประเทศอินโดนีเซียร่วมทุนกับ บริษัท พีที คีโน่ อินโดนีเซีย จำกัด ทำธุรกิจเครื่องดื่ม และสินค้า Consumer Care
รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ บริษัท ลอง ควน เซฟ ฟู้ด จำกัด บริษัทผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ในเวียดนามในสัดส่วน 65% หรือมูลค่า 330 ล้านบาท
รุกตลาด Personal Care ครั้งแรก เสริมพอร์ตน้ำผลไม้
ถือเป็นขยายฐานธุรกิจใหม่ครั้งแรกในรอบ 40 ปีสู่ตลาดเครื่องใช้ส่วนบุคคล หรือ Personal Care ด้วยการเปิด บริษัท มาลี คีโน่ ประเทศไทย จำกัด ร่วมทุนกับยักษ์ใหญ่สินค้าอุ
โอภาส โลพันธ์ศรี ประธานเจ้าหน้าที่ด้
“การขยายฐานธุรกิจใหม่สู่
สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่
1) กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุ
2) กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเส้
– เอลิปส์ แฮร์ วิตามิน โปร เคราติน คอมเพล็กซ์ (ellips Hair Vitamin Pro-Keratin Complex)
– เอลิปส์ แฮร์ มาส์ก โปร เคราติน คอมเพล็กซ์ (ellips Hair Mark Pro-Keratin Complex)
– เอลิปส์ ดราย แชมพู (ellips Dry Shampoo)
3) กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับช่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา