สายการบินราคาประหยัดที่เน้นการบินระยะไกลอย่าง “แอร์เอเชียเอ็กซ์” ของมาเลเซีย ล่าสุดมูลค่าบริษัทเหลือเพียงประมาณ 1,100 ล้านบาทเท่านั้น จากประเด็นสำคัญคือหนี้ก้อนโตของสายการบินเกือบๆ 480,000 ล้านบาท
AirAsia X ของมาเลเซีย ได้เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ที่มากถึง 15,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 480,000 ล้านบาท กับเจ้าหนี้ของสายการบิน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทให้เช่าเครื่องบิน บริษัทผลิตเครื่องบินอย่าง Airbus เพื่อที่จะขอแฮร์คัทหนี้จำนวนนี้มากถึง 90% ซึ่งจะทำให้สายการบินกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ หลังจากสายการบินไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ เนื่องจากหลายๆ ประเทศในเอเชียยังไม่เปิดให้มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ
ล่าสุดสำหรับหนี้ก้อนใหญ่นี้ สายการบินอาจพบกับปัญหาระหว่างทางในการปรับโครงสร้างหนี้ เนื่องจากเจ้าหนี้ 2 รายได้ฟ้อง ได้แก่ Bank of China Aviation บริษัทให้เช่าเครื่องบินรายใหญ่ที่ฟ้อง AirAsia X มูลหนี้ราวๆ 23 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมไปถึง Malaysia Airports Holdings เจ้าของท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ที่ฟ้องร้องเรียกหนี้อีกก้อนมูลค่า 48 ล้านเหรียญสหรัฐ
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้การเจรจากับเจ้าหนี้ของ AirAsia X อาจใช้เวลานานมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันเจ้าหนี้รายอื่นๆ ก็จับตามองถึงคดีความของ 2 เจ้าหนี้สำคัญของ AirAsia X นี้ด้วย ขณะเดียวกันสถานการณ์ด้านการเงินของ AirAsia X เองก็ไม่สู้ดีนัก เนื่องจากปัจจุบันสายการบินเหลือเงินสดที่จะใช้ได้อีกราวๆ 6 เดือน ทำให้สายการบินต้องรีบเจรจากับเจ้าหนี้เป็นการด่วน
ในช่วงที่ผ่านมาสายการบินเองเริ่มปรับโครงสร้างธุรกิจไปบ้างแล้ว เช่น การปิดเส้นทางที่ไม่ทำกำไร การยกเลิกการร่วมทุนกับผู้ร่วมทุนของประเทศต่างๆ ที่ไม่ทำกำไร และจะเน้นเส้นทางที่ทำกำไรในอนาคต หลังจากที่ประเทศต่างๆ กลับมาอนุญาตให้มีเที่ยวบินต่างประเทศได้
สายการบินราคาประหยัด ที่เน้นเส้นทางการบินระยะไกลอย่าง AirAsia X นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา สายการบินนั้นมีกำไรเพียงแค่ปี 2016 และ 2017 เท่านั้น ขณะที่ในปี 2019 สายการบินได้มีผลการดำเนินงานขาดทุนถึง 489 ล้านริงกิต หรือราวๆ 3,667 ล้านบาท
ปัจจุบันผู้ถือหุ้นของ AirAsia X มี Tune Group ของ Tony Fernandes เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด ถือหุ้นด้วยสัดส่วน 17.8% อันดับ 2 คือ AirAsia ถือหุ้นสัดส่วน 13.8% มูลค่าบริษัทล่าสุดเหลือเพียงแค่ประมาณ 1,100 ล้านบาท
ที่มา – The Edge Market, Business World
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา