เมื่อคนรับใช้ในบ้านไม่ฟรี บริการนี้จึงสร้างมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาทให้กับ GDP ประเทศไทย

แม้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยจะเริ่มแยกมาอยู่คนเดียว หรือครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น แต่เมื่อดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ด้านลูกจ้างในครัวเรือนส่วนบุคคล หรือ “แม่บ้าน” กลับมีมูลค่าถึง 28,000 ล้านบาท

คนรับใช้ภายในบ้าน

ตลาดที่ทยอยหดตัวแต่ยังมีความต้องการ

ถึงภาพรวม GDP ด้านลูกจ้างในครัวเรือนส่วนบุคคล หรือ “แม่บ้าน” จะทยอยลดลง 1-4% มาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ความต้องการของผู้บริโภคที่จะใช้บริการนี้ก็ยังมีอยู่ สังเกตจากการหลั่งไหลเข้ามาของแม่บ้านชาวต่างด้าวที่ยังมีอยู่ในตอนนี้ รวมถึงแม่บ้านชาวไทยที่ยังคงมีคนทำงานด้านนี้อยู่จำนวนหนึ่ง

โดยจากข้อมูลสำรวจของ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 2555 มีจำนวนลูกจ้างในครัวเรือนส่วนบุคคลทั่วประเทศกว่า 2.3 แสนคน ประกอบด้วยหญิงรับใช้, ผู้ประกอบการอาหาร, คนรับใช้ส่วนตัว, คนซักรีดเสื้อผ้า, คนทำสวน, คนขับรถ, คนเลี้ยงเด็ก และผู้ดูแลรักษาบ้านเรือน

ภาพรวม GDP ของประเทศไทยในไตรมาส 1 ปี 2561

ซึ่งตัวเลขนี้น่าจะไม่ลดลงง่ายๆ แน่ เพราะปัจจุบันสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีโอกาสจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุเข้ามามากขึ้น และจำนวนดังกล่าวก็จะเข้ามาทดแทนส่วนคนเลี้ยงเด็ก ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มบริษัทแม่บ้านก็เริ่มทำตลาดอย่างเข้มข้น โดยไม่ได้เน้นแค่ค้าขายระดับองค์กร แต่เจาะไปถึงผู้บริโภคโดยตรง

Startup แม่บ้านโตรับความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไป

ในทางกลับกันเมื่อผู้บริโภคหันไปอยู่คนเดียว หรือครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น การมาทำความสะอาดบ้านก็น่าจะลดลงแน่ๆ ผ่านความวุ่นวายในชีวิตจนไม่มีเวลามาทำความสะอาดบ้านเอง ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้เหล่า Startup และผู้ประกอบการธุรกิจบริการแม่บ้านหันมาทำตลาดกับผู้บริโภคโดยตรงมากขึ้น

บริการของ Seekster

ตัวอย่างเช่น Seekster ที่ตอนนี้มีแม่บ้าน และช่างในระบบกว่า 3,500 คน และมียอดเรียกใช้งาน 5,000-6,000 ครั้ง/เดือน ที่สำคัญตัวเลขดังกล่าวส่วนใหญ่ยังมาจากการทำตลาดกับผู้บริโภคโดยตรง ส่วนเรื่องการทำตลาดแบบ B2B นั้นยังอยู่ระหว่างเจรจาอีกด้วย

สำหรับราคาค่าบริการของ Seekster ที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดนั้นเริ่มต้นที่ 499 บาท กับการทำความสะอาด 2 ชม. จนไปถึง 1,199 บาท กับการทำความสะอาด 8 ชม. เรียกได้ว่าไล่ตั้งแต่คอนโดมิเนียม 1 ห้องนอน ไปจนถึงบ้านหลังใหญ่ที่ไม่ได้ทำความสะอาดมา 1 สัปดาห์เต็ม

กลุ่มรับทำความสะอาดบ้านแบบ SME

ภาค SME ก็รุกตลาดนี้ไม่แพ้กัน

ส่วนเรื่องผู้ให้บริการฝั่ง Startup ที่ให้บริการเรื่องนี้ปัจจุบันมีไม่ถึง 5 รายในประเทศไทย แต่ด้วยโอกาสในตลาดที่กว้างขึ้นจึงเชื่อว่าในอนาคตจะมีบริการในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน แต่ต้องอย่างลืมว่าผู้กุมตลาดนี้อยู่คือกลุ่มบริษัท SME ที่เน้นให้บริการในรูปแบบเหมาจ่ายกับฝั่งธุรกิจ เช่นโรงแรม, สำนักงาน หรือแม้กระทั่งที่พักอาศัย

ซึ่งผู้ให้บริการกลุ่มดังกล่าวก็กำลังขยายมาที่บริการแบบรายครั้งด้วย เรียกว่าถึงเทคโนโลยีจะไม่ตอบโจทย์ แต่การมีฐานลูกค้าจำนวนมาก รวมถึงประสบการณ์ในการทำความสะอาด ก็น่าจะจูงใจผู้ที่ค้นหาเจอบนอินเทอร์เน็ต แล้วก็โทรไปนัดเข้ามาใช้บริการ

ผู้ทำความสะอาดบ้าน

แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีการจ้างทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเองอยู่ ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำแล้วก็จะใช้เงินประมาณ 10,000 บาทในการจ้างทำงานทั้งเดือน หรือถ้ามีหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็อาจน้อยกว่านั้น ดังนั้นคงพูดได้เต็มปากว่าคนรับใช้ไม่ใช่ของฟรี และพวกเขาก็ต้องการค่าตอบแทนเหมือนกัน

สรุป

ตั้งแต่รายวันละ 500 บาท จนไปถึงรายเดือนแบบจ้างเองที่ราว 10,000 บาท ก็แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานนี้มีความต้องการหลายรูปแบบ อยู่ที่ว่าคนจ้างจะสะดวกแบบไหน แต่เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วมันก็ชัดเจนว่า คนรับใช้ภายในบ้านยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่

อ้างอิง // Forbes Thailandสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติศูนย์ข้อมูล & ข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง,

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา