“ซอสพริก” กลายเป็นที่จับตามองของทั่วโลก เพราะสินค้าดังกล่าวเติบโต 10 เท่าตัวในสหรัฐอเมริกา และมียอดขายเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก แต่ในประเทศไทยกลับผูกขาดอยู่ไม่กี่แบรนด์ ทำให้ทายากเบียร์สิงห์เลือกบุกตลาดนี้เต็มตัว
Made by Todd กับอีกก้าวธุรกิจส่วนตัว
หลังจากเข้ามารับตำแหน่งด้านบริหาร Supply Chain ให้กับกลุ่มบุญรอดฯ ทำให้ “ต๊อด-ปิติ ภิรมย์ภักดี” มีเวลามากขึ้น และเริ่มสร้างธุรกิจส่วนตัวออกมาโดยอาศัยประการณ์ที่ได้จากองค์กรขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Heaven Service ธุรกิจบริการระดับ Hi-End กับร้านอาหารแสนแซ่บ และล่าสุดยังทำตลาดซอสพริกภายใต้แบรนด์ Made by Todd เพิ่ม
สำหรับซอสพริกของแบรนด์ Made by Todd นั้นใช้ชื่อว่า ซอสพริกพริก ผ่านการร่วมคิดสูตรโดยเชฟ “ชุมพล แจ้งไพร” ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารไทย เป็นเวลากว่า 2 ปี และใช้วัตถุดิบเป็นพริกกระเหรี่ยง, พริกชี้ฟ้า, พริกขี้หนู และพริกยอดสนที่เป็นพริกที่ช่วยให้รสเผ็ดมีความกลมกล่อมมากขึ้น ทำให้ตัวสินค้านั้นแตกต่างจากซอสพริกในตลาดมาก
“จุดเริ่มต้นมันมาจากซอสพริกในประเทศไทยที่มีแต่สีส้ม และวัตถุดิบหลักๆ ที่ใช้คือแป้ง แล้วแต่งรสเปรี้ยวหวานเข้าไป ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเรียกซอสพริก เพราะมันแทบไม่มีรสเผ็ด ประกอบกับในต่างประเทศก็มีซอสพริกเพียงไม่กี่แบรนด์ และแต่ละแบรนด์ก็โดดเด่นคนละอย่าง เช่นเอาไปจิ้ม หรือไม่ก็เอาไว้หมักอาหารถึงจะได้รสชาติที่ดีที่สุด”
ปรับพริกคั่วให้ใช้งานได้เอนกประสงค์
ขณะเดียวกันพริกที่ใช้ใน Made by Todd ยังเป็นพริกคั่วทั้งหมด ทำให้ตัวซอสมีสีน้ำตาล และไม่มีแป้งเป็นส่วนผสม ที่สำคัญคือตัวสูตรที่ไม่ได้มีไว้แค่ใช้จิ้ม แต่สามารถนำไปผัด, ต้ม, แกง และหมักได้ ซึ่งจุดนี้เองก็ทำให้ราคาของซอสขวดนี้โดดไปถึง 85 บาทในขนาด 235 มล. กับ 125 บาทในขนาด 350 มล. ขณะที่ศรีราชาของไทยราคาเพียง 45 บาทก็ได้ขวดใหญ่แล้ว
“ผมขอเรียกซอสพริกตัวนี้ว่า ซอสพริกเอนกประสงค์ เพราะมันทำได้หลายอย่าง และจากการทำได้เยอะ ทำให้กลุ่มเป้าหมายของการขายก็กว้างมาก โดยเราจะบุกทั้งผู้บริโภคทั่วไปที่ชอบทำอาหาร และร้านต่างๆ แต่ตัวร้านนั้นเราไม่ได้ขายให้เขาไปเทเป็นน้ำจิ้ม แต่ให้พวกเขาใช้แทนซอสปรุงรส เพื่อสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ออกมามากกว่า”
ส่วนการจะสื่อสารว่าซอสพริกตัวนี้เป็นอย่างไรบ้าง “ต๊อด” เล่าให้ฟังว่า จะไม่มีการลงโฆษณาในสื่อหลักเหมือนกับผู้ผลิตซอสรายอื่น แต่จะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียกระจายข้อมูลออกไป ประกอบกับการจัดกิจรรม Food Festival และการร่วมกับร้านอาหารในการสร้างเมนูใหม่ขึ้นมา และหลังจากวางขาย พร้อมทำอย่างข้างต้นมาเดือนเศษ ผลตอบรับก็ค่อนข้างดี เพราะของขาดตลาด
ไม่ขายใน Modern Trade สนับสนุนเลิกผูกขาด
ตอนนี้ซอสพริกพริก ภายใต้แบรนด์ Made by Todd นั้นตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 10 ล้านบาท/เดือน เพราะด้วยปัจจัยเรื่องราคาสูง ที่มาจากสเกลการผลิตที่ยังไม่ใหญี่ทำให้ต้นทุนเพิ่ม แต่ถึงราคาจะสูง ทางบริษัทเองก็ไม่ได้นำสินค้าตัวนี้เข้าไปขายภายใน Modern Trade แต่จะใช้วิธีกระจายสินค้าเข้า Traditional Trade กับระบบขายตรงแทน
“ขายตรงของผมไม่สบาย ถึงสำเร็จก็ไม่มี Lamborghini ขับ แต่ถ้าทำได้จะกินข้าวเย็นได้ฟรี ซึ่งผมเลือกวิธีนี้ในการขยายตลาด ก็เพราะผมยังเชื่อใน Traditional Trade และกลุ่มบุญรอดก็มียอดขายจากช่องทางนี้ถึง 80% ดังนั้นถ้าบริษัทใหญ่ทำได้ ผมก็น่าจะทำได้ และมันไม่เป็นการสนับสนุให้ตัวธุรกิจผูกอยู่กับ Modern Trade จนเกินไปด้วย”
ทั้งนี้การขายตรงของซอสพริกพริก คือการที่ผู้สนใจวิ่งไปหาเอเยนต์ตามอำเภอต่างๆ เพื่อซื้อเหมากล่องมา และเอามาขายต่อ จะได้กำไรราว 20-25 บาท ในทางกลับกัน ตัวซอสพริกพริก ยังมีการส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว เช่นสวีเดน, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และอังกฤษ นอกจากนี้ยังเตรียม Co-Branding กับสินค้า Snack ของเครือ เช่นขนมยูกิ และสาหร่ายมาชิตะ
สรุป
การเดินเกมธุรกิจของ “ต๊อด” นั้นเชื่อว่ายังมีโอกาสสำเร็จอยู่ แต่การไปอยู่กับ Traditional Trade เพียงอย่างเดียวอาจปิดโอกาสของตัวเองเล็กๆ จึงเชื่อว่าหลังจากนี้ หากซอสพริกพริก ของ Made by Todd เกิดได้รับความนิยมขึ้นมา น่าจะได้เห็นใน Modern Trade ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา