อนาคตของค้าปลีกในสหรัฐอเมริกายังมืดมน เพราะ E-Commerce มาทำลาย และ COVID-19 หยุดลูกค้าทุกคนต้องอยู่บ้าน แต่ทีมผู้บริหาร Macy’s ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ยังเห็นโอกาส และปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่
สาขาขนาดเล็กคือคำตอบ
Jeff Gennette ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Macy’s ได้แจ้งกับนักวิเคราะห์ว่า บริษัทเตรียมเดินหน้าพัฒนาสาขาขนาดเล็กที่ทำตลาดภายใต้แบรนด์ Macy’s และ Bloomingdale’s มากขึ้นภายในอีก 2 ปีข้างหน้า เพราะสาขารูปแบบนี้ค่อนข้างเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก
“เราเห็นโอกาสในสาขาขนาดเล็ก และการลดความเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ลง หรือ Off-mall เพราะการทำแบบนี้ สาขาต่างๆ สามารถใกล้ชิดกับผู้บริโภคได้ดีขึ้น ทั้งลูกค้าสามารถหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายกว่าเดิม แต่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ยังคงมีอยู่ แต่จะตอบโจทย์ในพื้นที่ที่เหมาะสม”
ปัจจุบันกลุ่ม Macy’s มีสาขาให้บริการรวมกว่า 800 แห่งในสหรัฐเมริกา ผ่านสองแบรนด์ข้างต้น และแบรนด์ Bluemercury ที่จำหน่ายเครื่องสำอาง โดยแบรนด์เหล่านี้จะปรับตัวเป็นสาขาขนาดเล็กเช่นเดียวกัน เพราะต้องการตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค และภาพรวมอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไปให้ได้ดีที่สุด
ก่อนหน้านี้ Mecy’s ทยอยปิดสาขาที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรไปหลายแห่ง เพราะต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายในเวลานี้ แต่กลยุทธ์ดังกล่าวเดินหน้าได้ลำบากในบางแห่ง ผ่านการที่ Mecy’s ต้องไปหาผู้เช่าพื้นที่ต่อ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ออกกำลังกาย หรือติดต่อกับ Amazon และ E-Commerce อื่นๆ ให้พัฒนาพื้นที่ว่างเป็นศูนย์บริหารจัดการสินค้า
สรุป
การทำตลาดของค้าปลีกทุกรายต้องปรับตัวขนานใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีต้นทุนค่าสถานที่ และค่าสาธารณูปโภคจำนวนมาก ดังนั้นการปรับมาทำตลาดสาขาขนาดเล็กก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดี ส่วนเทรนด์นี้จะไหลมาถึงประเทศไทยเมื่อไรนั้น อันนี้ต้องติดตามกัน
อ้างอิง // Quartz
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา