LVMH ได้ก่อตั้ง Silicon Valley สำหรับบ่มเพาะสตาร์ทอัพ เพื่อค้นหานวัตกรรมที่จะต่อยอดให้กับอุตสาหกรรมสินค้า Luxury ในเครือ กลายเป็นวาระระดับโลกที่แบรนด์ใหญ่ต้องอาศัยไอเดียจากสตาร์ทอัพ
ทุกวันนี้สตาร์ทอัพไม่ได้พูดถึงแค่ในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างเดียวเท่านั้นแล้ว แต่ไปไกลในทุกวงการจริงๆ กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ต้องพึ่งพาไอเดียจากสตาร์ทอัพเพื่อในการพัฒนาสินค้า และบริการ ซึ่งสตาร์ทอัพมีไอเดีย และรูปแบบการทำงานที่คล่องตัว บริษัทใหญ่ก็ไม่ต้องเสียเวลาลงทุนใหม่ให้มากมาย
LVMH ขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มบริษัทสินค้า Luxury ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีแบรนด์หรูในเครืออย่างเช่น Louis Vuitton, Céline, Dior, Fendi, Kenzo, Marc Jacobs และอื่นๆ อีกมากมาย ได้หันมาจับวงการสมตาร์ทอัพกับเขาบ้างเช่นกัน ได้จัดตั้ง Silicon Valley อยู่ในกรุงปารีส โฟกัสในเรื่องของเทคโนโลยีที่จะใช้กับโลกของสินค้า Luxury เท่านั้น
โครงการนี้ได้ทำการสนับสนุนบริษัทต่างชาติจำนวน 50 บริษัท/ปี ถือเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับวงการสินค้า Luxury ซึ่ง LVMH มีธุรกิจที่หลากหลาย จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีหลายรูปแบบเข้ามาตอบโจทย์โซลูชั่นแต่ละธุรกิจ
ไอเดียที่ทาง LVMH สนใจที่จะมาต่อยอดนวัตกรรมให้กับบริษัทมีหลายอย่าง รวมทั้ง AI, AR, IoT, Blockchain, Personalization, e-Commerce และความยั่งยืนในธุรกิจ
ยกตัวอย่างเช่น Heuritech ได้พัฒนาเทคโนโลยีจดจำภาพ และสามารถวิเคราะห์ภาพบนสื่อออนไลน์ได้ทุกวัน ทำให้สามารถมองเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
หรือบริษัท Orbis เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี Hologram นำมาใช้ในการสื่อสารในการจัดงานอีเวนต์ หรือในพื้นที่ค้าปลีกได้
LVMH ได้เทคโนโลยีต่างๆ ไปกับแบรนด์ในเครือตั้งแต่ Dior และ Louis Vuitton รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ในกลุ่มแฟชั่นอย่าง Acqua di Parma และ Fenty Beauty by Rihanna ในกลุ่มน้ำหอม มีทิสทางการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ LVMH ต้องใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เพราะว่ารูปแบบการช้อปปิ้งของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก สินค้า Luxury เองก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย มีการไปเลือกซื้อออนไลน์กันมากขึ้น กลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ Millennials ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจประวัตศาสตร์ของแบรนด์เท่าไหร่
เพราะฉะนั้นชื่อชั้นของแบรนด์ที่สะสมมาในอดีตอาจจะไม่มีผลต่อการซื้อเท่าไหร่แล้ว ไม่เหมือนคนรุ่นก่อนๆ ที่ให้ความสำคัญกับแบรนด์อย่างมาก ทำให้ LVMH ต้องปรับตัวอย่างหนัก ทำทุกวิถีทางในการดึงความสนใจจากผู้บริโภคให้ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา