LVMH เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับ Formula 1 เป็นเวลา 10 ปี ย้ำภาพลักษณ์มอเตอร์สปอร์ตคู่สินค้าหรู

LVMH กลุ่มแบรนด์หรูระดับโลก เจ้าของ Louis Vitton และนาฬิกา TAG Heuer ประกาศร่วมมือกับ Formula 1 ศึกมอเตอร์สปอร์ตชั้นนำของโลก เพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2025 ถือเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของกีฬามอเตอร์สปอร์ตมักอยู่คู่กับสินค้าหรู

LVMH Formula 1

LVMH ร่วมมือกับ Formula 1

ทาง LVMH และ Formula 1 ระบุว่า ความร่วมมือระหว่างผู้นำระดับโลกด้านสินค้าหรู และกีฬามอเตอร์สปอร์ตชั้นนำของโลกยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในวงการสินค้าหรู และกีฬา รวมถึงยังสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ฝั่งผู้บริโภคที่อาจได้ประโยชน์จากดีลนี้เช่นกัน

หากเจาะไปที่ LVMH ที่มีสินค้าหรูทั้งฝั่งแฟชั่น, นาฬิกา และเครื่องดื่ม จะช่วยให้แบรนด์ขยายตลาด และสร้างการรับรู้ผ่านผู้ชมกีฬา Formula 1 ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้มีกำลังซื้อสูง และกระจายอยู่ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ส่วนฝั่ง Formula 1 เอง ยังสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าสินค้าหรูของ LVMH ได้เช่นกัน

Greg Maffei ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Liberty Media บริษัทแม่ของ Formula 1 แจ้งว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยยกระดับการสร้างสรรค์ และนวัตกรรมให้กับทั้งสองแบรนด์ ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสทางการค้า และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของทั้งคู่

ส่วน Bernard Arnault ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LVMH กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จในธุรกิจของพวกเขาไม่ว่าจะในวงการแฟชั่น นาฬิกา หรือเครื่องดื่ม มาจากความใส่ใจในทุกรายละเอียด เช่นเดียวกับความสำเร็จในสนามแข่ง Formula 1 ซึ่งทั้งสองอุตสาหกรรมต่างมีการแสวงหาความเป็นเลิศ และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

Brand Inside มองว่า การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Formula 1 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชมรุ่นใหม่ ถือเป็นโอกาสทองสำหรับแบรนด์หรู เช่น LVMH ที่จะใช้แพลตฟอร์มนี้สร้างการเชื่อมโยงกับผู้บริโภคที่มีความต้องการเฉพาะกลุ่ม แต่มีพลังซื้อสูง

LVMH เริ่มมีบทบาทในวงการกีฬามากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปสนับสนุน NBA ผ่านการเป็นผู้ทำกล่องเก็บถ้วยรางวัล รวมถึงในกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปารีสยังตัดเย็บชุดให้ผู้เชิญเหรียญรางวัล ส่วน Formula 1 นั้นหลังจากทำซีรีส์ร่วมกับ Netflix ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และเป็นที่สนใจกับคนที่ไม่สนใจมอเตอร์สปอร์ตด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา