แบรนด์เนมหรูในฮ่องกงปรับกลยุทธ์การเช่าพื้นที่ เลิกเช่าพื้นที่ระยะยาว หันไปเช่าพื้นที่ระยะสั้น เปิดร้านแบบ Pop-up store แทน เพราะดึงดูดลูกค้า และคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้มากกว่า
ฮ่องกงเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน และแฟชันแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่เคยเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าแฟชัน แบรนด์เนมหรูทั้งหลายจึงต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่ทำให้ลูกค้าน้อยลงกว่าเดิม
แบรนด์เนมหรูฮ่องกงปรับตัว หันไปเช่าพื้นที่ระยะสั้น ดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า
หนึ่งในกลุยุทธ์ที่แบรนด์เนมหรูในฮ่องกงใช้ คือ การปรับกลยุทธ์การเช่าพื้นที่จากเดิมที่เคยเช่าพื้นที่ในระยะยาว เปลี่ยนเป็นการเช่าพื้นที่ระยะสั้น ตั้งแต่ 10 วัน ไปจนถึง 3 เดือน เพื่อจัดร้านแบบ Pop-up Store แทน
ด้าน JLL Hong Kong บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งในฮ่องกง ยืนยันว่า มีแบรนด์หรูจำนวนมากที่หันมาเช่าพื้นที่ขนาดตั้งแต่ 1,000-10,000 ตารางฟุต ในพื้นที่ใจกลางฮ่องกงเพื่อจัดหน้าร้าน
ลูกค้าจีนแผ่นดินใหญ่หาย พื้นที่ว่างให้เช่าในห้างสรรพสินค้าเพิ่ม
สำหรับการเช่าพื้นที่ระยะสั้นนี้ เป็นกลยุทธ์สำคัญของบรรดาร้านค้า และแบรนด์เนมหรูในฮ่องกง ที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ลูกค้าหาย ห้างไม่มีคนเดิน เพราะขาดนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่เคยเป็นลูกค้าหลัก เช่นเดียวกันกับห้างสรรพสินค้าที่ในขณะนี้มีพื้นที่ว่างให้เช่ามากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่ราว 15.3% ในพื้นที่ Central และ 14.4% ในพื้นที่ Causeway Bay
ห้างสรรพสินค้าจัดนิทรรศการ แสดงงานศิลป์ ดึงดูดคนได้จริง
นอกจากแบรนด์เนมหรูจะปรับกลยุทธ์หันไปเช่าพื้นที่ระยะสั้น เพื่อจัดร้านแบบ Pop-up Store แทนแล้ว ห้างสรรพสินค้าก็ปรับตัวเช่นเดียวกัน โดยใช้วิธีเปลี่ยนพื้นที่ภายในห้างให้กลายเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการด้านศิลปะ และวัฒนธรรม เพื่อดึงดูดคนให้เข้ามาเดินในห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้เช่าพื้นที่อื่นๆ ด้วย
ตัวอย่างการปรับตัวของห้างสรรพสินค้าที่ชัดเจน คือกรณีของ Jardine Matheson บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในฮ่องกง ที่เปลี่ยนพื้นที่ห้างสรรพสินค้าให้กลายเป้นนิทรรศการศิลปะ ผสมกับพื้นที่ร้านค้าแบรนด์เนมหรู ทั้ง Dior Men, Kenzo, Gucci Men, และ Celine Men
ผลลัพธ์ที่ได้จากการเปลี่ยนพื้นที่ภายในห้างสรรพสินค้าให้กลายเป็นพื้นที่นิทรรศการศิลปะ และวัฒนธรรม คือช่วยดึงดูดให้คนเดินเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้า ถ่ายรูป และเช็คอินลงบน Social Network ต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดกระแสการพูดถึงห้างสรรพสินค้าในที่สุด
ห้างสรรพสินค้าบางแห่งให้ข้อมูลว่า หลังจากที่จัดนิทรรศการศิลปะ และวัฒนธรรม ช่วยดึงดูดให้คนเดินเข้าห้างสรรพสินค้ามากขึ้น 50% และช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านค้าได้ 49%
ที่มา – SCMP
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา