ร้านกาแฟจีนชื่อดัง Luckin Coffee หลังจากมีกรณีอื้อฉาวในการโกงยอดขายนั้น ล่าสุดได้จ่ายเงินค่าปรับให้กับ ก.ล.ต. สหรัฐ เพื่อยอมความในคดีดังกล่าวด้วย
Luckin Coffee เชนร้านกาแฟจีนที่มีกรณีอื้อฉาวโกงยอดขาย ล่าสุดนั้นได้มีการจ่ายเงินค่าปรับยอมความ 180 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 5,400 ล้านบาทให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือก.ล.ต. ของสหรัฐ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- Luckin Coffee ออกมาขอโทษหลังโกงตัวเลขยอดขาย ก.ล.ต. จีน เตรียมไล่บี้ต่อ
- หน่วยงานรัฐบาลจีนผนึกกำลังเข้าตรวจสอบ Luckin Coffee หลังมีเรื่องโกงยอดขาย
- Luckin Coffee ล่าสุดไล่ CEO และ COO ออก ส่งจดหมายขอโทษพนักงานเรื่องโกงยอดขาย
สำหรับเชนร้านกาแฟรายใหญ่ของจีนก่อตั้งในปี 2017 และได้ IPO ในตลาดหุ้น NASDAQ ช่วงปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเชนร้านกาแฟรายนี้ถือว่าเป็นบริษัทจีนที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในวิธีการขยายสาขา เทคโนโลยีการสั่งกาแฟผ่านแอปพลิเคชั่น รวมถึงความพยายามที่จะเอาชนะคู่แข่งในศึกร้านกาแฟจีนอย่าง Starbucks ให้ได้ด้วย
โดย ก.ล.ต. ของสหรัฐ ได้เข้ามาสืบสวนในเรื่องนี้ หลังจากที่มีรายงานว่าเชนร้านกาแฟชื่อดังได้โกงยอดขายในไตรมาส 2 ของปี 2019 โกงตัวเลขยอดขาย 28% มากกว่ายอดขายจริงๆ ขณะที่ไตรมาส 3 โกงตัวเลขมากถึง 45% โดยบริษัทได้ลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น COO ของบริษัท นอกจากนี้ยังมีการไล่ CEO และประธานบริษัทออกด้วย
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ของสหรัฐ ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานในจีนเพื่อที่จะช่วยสอบสวนในเรื่องนี้ด้วย แม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้ง 2 มหาอำนาจนี้จะไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในจีนอย่างดี รวมถึงหน่วยงานจีนยังรับลูกต่อในการสืบสวนคดีนี้ในจีน ทำให้ท้ายที่สุดเชนร้านกาแฟนี้ก็ต้องโดนถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐจากเรื่องอื้อฉาวในการโกงยอดขาย
กรณีของ Luckin Coffee ยังเป็น 1 ประเด็นที่ทำให้สหรัฐต้องออกข้อกฎหมายที่สามารถถอดบริษัทจากต่างประเทศที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ออกได้ เนื่องจากมองว่านักลงทุนโดนเอาเปรียบจากกรณีดังกล่าว
Stephanie Avakian ผู้อำนวยการฝ่ายบังคับข้อกำหนดของ ก.ล.ต. สหรัฐ ได้กล่าวว่า บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ไม่ว่าบริษัทจะอยู่ในประเทศใดๆ จะต้องไม่ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดแก่นักลงทุน ขณะเดียวกันก็เป็นความท้าทายของ ก.ล.ต. สหรัฐ ในการดูแลเรื่องดังกล่าว แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะอยู่นอกสหรัฐ เพื่อที่จะปกป้องนักลงทุน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา