ถ้าใครตามข่าววงการร้านกาแฟจีนช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในแบรนด์ที่มาแรงที่สุดคือ Luckin Coffee สตาร์ทอัพกาแฟสัญชาติจีน ที่เป็นมวยรองน้องใหม่ แต่สู้กับพี่ใหญ่อย่าง Starbucks ได้ดุเดือดมากๆ
จนกระทั่งปี 2020 Luckin Coffee ก็สะดุดขาตัวเองล้ม เพราะโกหกตัวเลขยอดขาย ตกแต่งบัญชี แหกตานักลงทุน หุ้นร่วงไปถึง 70%
จนนักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า ไม่รอดแน่ๆ ยังไงก็เจ๊ง
แต่มาวันนี้ปี 2024 Luckin Coffee ยังไม่ล่มสลาย ยอดขายยังคงพุ่งขึ้น ส่วนจำนวนสาขาก็แซงหน้า Starbucks คู่แข่งคนสำคัญในจีนไปแล้ว
คำถามคือ อะไรที่ทำให้ Luckin Coffee กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหลังข่าวฉาว
Brand Inside สรุปให้ในบทความนี้
รอดมาได้ เพราะคอนเนคชั่นดี มีนายแบก
Zang Zhongtang อดีตรองประธานอาวุโสของ Luckin Coffee ที่ลาออกจากบริษัทหลังมีข่าวการทุจริตของบริษัทในตอนนั้น บอกว่า “ใครๆ ก็คิดว่าไม่น่ารอด เพราะหลักฐานมันชัดว่าทำผิดกฎหมายจริง ตกแต่งบัญชีจริง”
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร Luckin Coffee ก็รอดมาได้
ปัจจัยหลักๆ มาจากการเปลี่ยนตัวผู้บริหารและทีมบริหาร แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่หนุนหลัง Luckin Coffee ในช่วงเวลาที่ยากลำบากก็คือ Centurium Capital บริษัทลงทุนที่ศัพท์ในวงการเรียกกันว่า Private Equity
Centurium Capital ช่วยเหลือ Luckin Coffee เคลียร์ปัญหาด้านกฎหมายที่โยงใยมาจากการทุจริต ด้วยการออกเงินให้ไปสู้คดีและเสียค่าปรับจากคดีโกงตัวเลขยอดขาย รวมๆ แล้วคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 240 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 9 พันล้านบาท
นี่คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Luckin Coffee ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
เกือบหลับ แต่กลับมาได้ แถมแซงหน้าคู่แข่งด้วย
ข่าวฉาวคดีทุจริตตกแต่งบัญชีทำอะไร Luckin Coffee สตาร์ทอัพกาแฟสัญชาติจีนไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้กิจการของ Luckin Coffee ดีวันดีคืน สวนทางกับเศรษฐกิจจีนที่ย่ำแย่ (ผลจากการผสมโรงระหว่างวิกฤตเงินฝืดและวิกฤตอสังหาฯ ที่ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจของจีน)
ปัจจุบันยอดขายของ Luckin Coffee แซงหน้า Starbucks ในจีนเป็นที่เรียบร้อย
- ปี 2023 Luckin Coffee ทำยอดขายไปได้มากถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 1.3 แสนล้านบาท พุ่งขึ้นมาจากปีก่อนถึง 87%
- สวนทางกับ Starbucks ที่ยอดขายปี 2023 ลดลง 8% จากปีก่อนหน้า มูลค่ายอดขายรวมอยู่ที่ 3.05 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 1.1 แสนล้านบาท
และถ้าไปดูจำนวนสาขาของ Luckin Coffee ก็แซงหน้า Starbucks เป็นที่เรียบร้อย
- Luckin Coffee มีสาขาในประเทศจีนทั้งหมด 16,218 แห่ง
- Starbucks มีสาขาในประเทศจีนทั้งหมด 6,975 แห่ง
คิดง่ายๆ คือ Luckin Coffee มีสาขามากกว่า Starbucks ในจีนเกือบ 3 เท่าตัว (แต่ถ้านับสาขาของ Starbucks ทั่วโลกจะอยู่ที่ 38,586 แห่ง)
Luckin Coffee คัมแบ็ค! นี่คือคู่แข่งที่น่ากลัวของ Starbucks ในจีน
ถ้ามองในมุมตัวเลข ตอนนี้ Luckin Coffee ชนะ Starbucks ในจีน ทั้งตัวเลขยอดขาย และจำนวนสาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนด้านของ Starbucks ในจีนก็ดิ้นสู้ทุกทาง เช่น ใช้ระบบสั่งกาแฟผ่านมือถือ แต่ก็ตามหลัง Luckin Coffee อยู่ เพราะด้วยโมเดลธุรกิจที่ Luckin Coffee ใช้เทคโนโลยีในแผนธุรกิจตั้งแต่ Day One เป็นต้นว่า ลูกค้าจะสั่งกาแฟของ Luckin Coffee ผ่านมือถือบนระบบออนไลน์ได้เท่านั้น ไม่มีการจ่ายเงินสดหน้าร้าน
ในแง่นี้ Luckin Coffee นำหน้าไปไกลกว่ามาก เพราะถ้าพูดถึงคำว่า ‘เทคโนโลยี’ กับ Luckin Coffee ตอนนี้ไปไกลถึงขั้นนำเอาระบบอัตโนมัติมาดูเลยว่า สาขาไหนวัตถุดิบเหลือน้อย คอมพิวเตอร์จะสั่งให้เติมของทันที ไม่ต้องใช้มนุษย์เข้ามาจัดการระบบหลังบ้าน หรือถ้าใช้ก็น้อยมากๆ
และที่สำคัญ Luckin Coffee ไม่ทำเอาเท่ๆ แต่ทำเพื่อลดต้นทุน และลดการใช้แรงงานคน
มากไปกว่านั้น ถ้ามองในมุมสงครามราคา หากเราเทียบกาแฟจีนกันแบบหมัดต่อหมัด ค่ากาแฟเฉลี่ย 1 แก้ว
- Luckin Coffee 11-12 หยวน คิดเป็นเงินไทย 55-60 บาท
- Starbucks 33 หยวน คิดเป็นเงินไทย 170 บาท
นี่คือความได้เปรียบ เพราะ Luckin Coffee ถูกกว่า Starbucks ถึง 3 เท่า!
สิ่งที่น่าติดตามหลังจากนี้คือ Starbucks จะแก้เกมในจีนยังไง เพราะแม้จีนจะเศรษฐกิจไม่ดี แต่ตลาดกาแฟจีนโตขึ้น 15% ในมุมของการบริโภค (coffee consumption)
คำถามที่สำคัญจึงเป็น ทำไม Starbucks ถึงไม่ได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ แต่กลับกลายเป็น Luckin Coffee ที่ตีกินไปเต็มๆ
Source – Bloomberg, CNN, Benzinga, YouTube Brand Inside
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา