ไม่ใช่แค่สร้างเรตติ้งที่พุ่งกระฉูดให้แก่ช่อง 3 แต่ละครบุพเพสันนิวาสยังสามารถทำให้หลายแบรนด์ลงมาเกาะกระแสในการทำ Real Time Content ได้อีกด้วย สร้างปรากฎการณ์ออเจ้าทั้งแผ่นดิน
จับกระแสไว มีชัยไปกว่าครึ่ง
หลังจากที่ได้ออกอากาศมาเป็นเวลา 6 ตอน ละคร “บุพเพสันนิวาส” ทางช่อง 3 ก็ยังคงสร้างกระแสอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ทั้งบนโลกออนไลน์ และออฟไลน์ สร้างวลี “ออเจ้า” เป็นคำพูดติดปาก
ที่สำคัญยังสามารถโกยเรตติ้งให้ช่อง 3 แบบถล่มทลาย ในตอนที่ 5 ออกอากาศเมื่อวันพุธที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา บุเพสันนิวาสโกยเรตติ้งในกรุงเทพฯ ไปได้ 16 ส่วนทั่วประเทศ 11.4 และยังสร้างสถิติแฮชแท็ก #บุพเพสันนิวาส ติดเทรนด์ทวิตเตอร์เป็นอันดับหนึ่งของโลก ล่าสุดมียอดทวีตกว่า 2.22 ล้านครั้ง
ปรากฎการณ์นี้ไม่ได้เป็นที่สนใจแค่ผู้ชมทั่วไปที่ตั้งตารอดูละครเท่านั้น แต่ในมุมนักการตลาดเองก็จับตามองอยู่ตลอดเช่นกัน ส่งผลให้มีผลงาน Real Time Content ของหลากหลายแบรนด์แชร์เต็มหน้านิวส์ฟีดเฟซบุ๊ก กลายเป็นคอนเทนต์ที่แบรนด์ต้องอาศัยโหนกระแสเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค
ยิ่งในช่วง 2 ตอนที่ผ่านมาแม่หญิงการะเกดได้คิดค้นเมนูใหม่ๆ ให้ชาวอโยธยาทั้งมะม่วงน้ำปลาหวาน กุ้งแม่น้ำเผา อีกทั้งยังสั่งทำกะทะสำหรับหมูกะทะอีก รวมถึงตอนล่าสุดถึงคราวที่แม่หญิงมีประจำเดือน และจะสั่งทำเครื่องกรองน้ำเพิ่มอีกหนึ่งไอเท็ม
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ส่งผลให้แบรนด์หยิบจับเอามาผูกกับสินค้า และบริการของตนเอง ปั้นเป็น Real Time Content ที่จับกระแสได้ทันควัน แถมได้ใจผู้บริโภคทั่วไปอีกด้วย
แบรนด์แรกๆ ที่เริ่มเห็นตั้งแต่วันก่อนเห็นจะเป็นเจ้าแม่แห่งการทำคอนเทนต์บนโลกออนไลน์อยู่แล้ว อย่าง Bar B Q Plaza, Tops Thailand และ Major Cineplex มีการหยิบจับมาทำคอนเทนต์เป็นของตัวเอง ได้รับการแชร์ล้นหลามบนโลกออนไลน์
จากนั้นก็เริ่มเห็นแบรนด์อื่นๆ ส่งคอนเทนต์ออกมาเรื่อยๆ แบรนด์ที่ไม่ค่อยเห็นทำ Real Time Content ก็เริ่มทำกับเขาบ้าง เช่น ไทวัสดุ, เครื่องเขียนตราช้าง, แฟมิลี่มาร์ท แมคโดนัลด์ก็ลงมาทำเช่นกัน
หรือ KFC ที่หลังๆ อาจจะไม่ค่อยเห็น Real Time Content เท่าไหร่ ก็มีการปั้นคอนเทนต์อิงกับกระแสไปได้ ยังมีเพจอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับออเจ้า
ช่อง 3 จะต่อยอดอย่างไร?
จากกระแสที่พูดถึงทั่วบ้านทั่วเมือง กลายเป็นคอนเทนต์ที่กู้หน้าให้ช่อง 3 อยู่ไม่น้อย คำถามที่ตามมาก็คือ ช่อง 3 จะทำอย่างไรต่อเพื่อที่จะสร้างคอนเทนต์แบบบุเพสันนิวาสออกมาอีก เพื่อรักษาสถานการณ์ของตนเอง
แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น ช่อง 3 จะรักษากระแสตรงนี้ได้อย่างไรเป็นสิง่ที่สำคัญกว่า จะทำให้คนยังพูดถึงออเจ้าจนละครถึงตอนอวสาน และต่อยอดไปยังคอนเทนต์อื่นๆ ซึ่งตอนนี้แอพพลิเคชั่น Mello ก็ได้รับอานิสงส์ไปค่อนข้างมาก สามารถดึงผู้ชมไปดูผ่านแอพได้พอสมควร
แต่ทางช่อง 3 ไม่ได้เปิดให้ชมผ่าน Facebook LIVE ของเพจตัวเอง หรือ YouTube LIVE ซึ่งเป็น 2 แพลตฟอร์มที่คนนิยมใช้สำหรับดูคอนเทนต์เวลาที่ไม่ได้ดูหน้าจอทีวี เหมือนอย่างตอนกรณีของ Workpoint ในช่วงที่รายการ The Mask Singer เป็นกระแสอย่างหนัก ได้ฉายรายการทั้งทาง Facebook LIVE และ YouTube LIVE อีกทั้งยังขายโฆษณาบนออนไลน์ได้ในตอนที่ทีวีตัดเข้าโฆษณาได้อีก
ซึ่งในเว็บไซต์ Pantip ก็มีการถกถึงประเด็นนี้กัน พร้อมกับแชร์กันว่าขนาดเพจที่ไม่ใช่เพจหลักของช่อง 3 ฉายละครผ่าน Facebook LIVE ยังมียอดวิวเป็นหลักหมื่นเลย แต่ช่อง 3 ก็ยังพอใจในการดึงคนไปยังแอพพลิเคชั่นของตัวเอง
ก็คงต้องเป็นการบ้านต่อไปให้กับช่อง 3 ในการรักษา และต่อยอดคอนเทนต์ให้อยู่ระยะยาวต่อไป
สรุป
- ถือว่าละครบุพเพสันนิวาสประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถทำให้คนกลับมาดูทีวี และพูดถึงกันทั่วเมือง ที่สำคัญยังเป็นประเด็นให้แบรนด์หยิบจับมาทำคอนเทนต์ได้อีกด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา