บุพเพสันนิวาส ส่ง “ออเจ้ามาร์เก็ตติ้ง” จากแค่กระแส Real Time สู่สร้าง Engagement ให้แบรนด์

กระแสความนิยมของละครบุพเพสันนิวาส กลายเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างการตื่นตัวแก่นักการตลาดต้องลงมาจับเป็นเครื่องมือต่อยอดในการสร้างแบรนด์ จาก Real Time Marketing สู่การสร้าง Engagement กับผู้บริโภคไปแล้ว

Realtime ในจอ สร้างกระแสห้างแตกนอกจอ

ต้องบอกว่าเป็นปรากฏการณ์ออเจ้าทั้งแผ่นดินจริงๆ เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนมีแต่การพูดถึงของละครบุพเพสันนิวาส ทั้งบนโลกออนไลน์ และออฟไลน์ มีการใช้คำพูดออเจ้าในชีวิตจริง มีแฮชแท็ก #บุพเพสันนิวาส ติดอันดับท็อปๆ ในทวิตเตอร์ รวมถึงการที่คนไทยหันมาสนใจประวัติศาสตร์มากขึ้นด้วย

เมื่อละครเป็นกระแสความนิยมอย่างท่วมท้นขนาดนี้ ในช่วงตอนหลังๆ ที่ผ่านมา สามารถสร้างเรตติ้งแตะหลัก 20 ได้ตลอด คนที่ยิ้มหน้าบานก็เห็นจะเป็นทางช่อง 3 ที่ออเจ้าเข้ามากู้สถานการณ์ไว้ได้ และแน่นอนว่ากระแสความนิยมต้องถูกดัดแปลงเป็นเครื่องมือการตลาดของแบรนด์ที่ต้องลงมาจับเพื่อที่จะ Engage กับผู้บริโภค

ในช่วงสัปดาห์ก่อนๆ ได้เห็นคอนเทนต์ในรูปแบบของ Real Time Marketing ที่แบรนด์ได้เลือกมาทำบนโซเชียลมีเดีย โดยล้อไปกับเรื่องราวในละครตอนที่แม่หญิงการะเกดคิดเมนูต่างๆ ทั้งมะม่วงน้ำปลาหวาน กุ้งเผา รวมถึงไอเท็มอื่นๆ อย่างเตาหมูกระทะ เครื่องกรองน้ำ ผ้าอนามัย และคันฉ่อง (กระจก) ของคุณพี่หมื่น

จาก Real Time Marketing ได้ต่อยอดมาสู่งานอีเวนต์ต่างๆ ที่เรียกว่านักแสดงนำออกงานแน่นทุกวัน ที่สำคัญพี่หมื่น “โป๊ป ธนวรรธน์” สามารถสร้างปรากฏการณ์ “พี่หมื่นห้างแตก” ได้ ไม่ว่าจะออกอีเวนต์ที่งานไหน มีแฟนคลับตามไปทุกที่อย่างเนืองแน่น

ภาพจาก IG : ฺbellacampen

ต่อยอดสู่พรีเซ็นเตอร์ให้แบรนด์

เมื่อละครได้เป็นที่พูดถึงทั่วบ้านทั่วเมือง จนกลายเป็นคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าบุพเพสันนิวาสเข้าไปอยู่ในใจคนดูได้จริงๆ ซึ่งอีกหนึ่งบทพิสูจน์ก็คือการที่แบรนด์เลือกนักแสดงนำมาต่อยอดเป็นพรีเซ็นเตอร์ หวังในกระแสช่วยในการสร้างแบรนด์ควบคู่กันไป

AIS เป็นแบรนด์แรกที่ชิงตัวแม่หญิงการะเกด หรือ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” มาเสริมทัพพรีเซ็นเตอร์ที่ปัจจุบันมีถึง 9 คน ได้แก่ ทอม Room39, เป๊ก ผลิตโชค, เจมส์ จิรายุ, เต้ย จรินทร์พร, แต้ว ณฐพร, มิว นิษฐา, วี วิโอเลต, แพรวา ณิชาภัทร และดีเจพุฒิ

ในช่วงหลัง AIS ขยันเติมพรีเซ็นเตอร์หน้าใหม่ๆ เข้ามาตลอด ล้วนเป็นดาราดาวรุ่งยอดนิยมของคนไทย และมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน เพื่อสื่อสารกับลูกค้าหลากหลายกลุ่มให้ครอบคลุม 42 ล้านคน

จุดที่น่าสนใจคือ AIS ยังเดินเกม Real Time Presenter เรียกว่าใครเป็นกระแสขึ้นมาในตอนนั้น AIS ขอเหมาหมด เห็นได้ตั้งแต่ปรากฏการณ์หน้ากากทุเรียน และหน้ากากจิงโจ้จากรายการ The Mask Singer ในซีซั่นที่ 1 ก็รีบช่วงชิง ทอม Room 39 และเป๊ก ผลิตโชค ให้เข้ามาอยู่ครอบครัว AIS ก่อนใครเพื่อน

การเปิดตัวเบลล่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ยังคงสร้างคอนเทนต์ล้อไปกับละครที่กำลังออนแอร์อยู่ อย่างฉาก “หมูกะทะ” ที่หลายคนถามหา ตอนแรกมีการคาดเดาว่าเป็นการถ่ายเพิ่มเข้าไปเพราะแฟนๆ เรียกร้อง แต่สุดท้ายก็เฉลยว่าเป็นการถ่ายโฆษณาของ AIS โดยนำฉากหมูกระทะมาสานต่อความฝันของผู้ชม โดยใช้โปรดักชั่นจัดเต็มเหมือนในละคร ใช้คีย์เวิร์ดว่า “แรงข้ามภพข้ามชาติ”

รอห่มสะไบสีม่วงเป็นแม่มณีเจ้าค่ะ

นอกจาก AIS จะเป็นเสือปืนไวคว้าแม่หญิงการะเกดมาเป็นพรีเซ็นเตอร์อย่างรวดเร็วแล้ว SCB เป็นรายล่าสุดที่ประกาศเปิดตัวแม่หญิงให้เป็น “แม่มณี” คนต่อไปเช่นกัน คาแรคเตอร์ของแม่หญิงการะเกดก็เข้ากับแม่มณีได้พอดีด้วย จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มีนาคม 2561ที่จะถึงนี้ โดยที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแอพพลิเคชั่น SCB EASY ที่ทาง SCB กระหน่ำโปรโมทอย่างหนักเพื่อไล่บี้เบอร์หนึ่งอย่าง K Plus จากค่ายกสิกรไทย จากเดิมที่ใช้ “ใหม่ ดาวิกา” เป็นพรีเซ็นเตอร์

ส่วน “โป๊ป ธนวรรธน์” มีงานพรีเซ็นเตอร์ของแอร์ “มิตซูบิชิ” อยู่แล้ว ยิ่งมีกระแสของละคร ยิ่งได้รับอานิสงส์ มีการออกโฆษณาชุดใหม่ และมีคอนเทนต์บนโลกออนไลน์เกี่ยวกับการเลือกแอร์เข้ามาเสริม ซึ่งก็รอลุ้นว่าจะมีแบรนด์ไหนที่จะคว้าตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์รายต่อไป

เห็นได้ว่าการตลาดในยุคนี้ต้องอาศัยกระแสและความไว นักการตลาดต้องเรียนรู้ความสนใจของผู้บริโภค และนำมาปรับใช้กับแบรนด์ให้เหมาะสม แต่ไม่ใช่โหนกระแสไปหมดทุกอย่าง ต้องดูว่าเมื่อทำคอนเทนต์ออกมาแล้วมีความเหมาะสมเพียงใด

การทำ Real Time Marketing ในช่วงแรกทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ดูทันสมัย เป็นสีสันในการสื่อสารกับผู้บริโภค ทำให้แบรนด์อยู่ในกระแสที่พูดคุยในช่วงนั้น แต่สเต็ปที่ต่อจากนั้นคือการสร้าง Engagement กับผู้บริโภค เป็นโจทย์สำคัญที่แบรนด์จะต้องทำการบ้านให้หนักขึ้นมากกว่า

สรุป

ความสำเร็จของปรากฏการณ์นี้เป็นส่วนผสมของหลายๆ อย่างรวมกัน เริ่มต้นจากคอนเทนต์ที่ถูกจริตคนไทย ส่งผลให้คนแชร์กันมากมายจนเป็นกระแส เป็นที่นิยม จนแบรนด์หยิบนำไปทำการตลาด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการทำคอนเทนต์ของสถานีโทรทัศน์ที่จะต้องมีละครแบบนี้เรื่อยๆ ในด้านของนักการตลาดเองก็ต้องหยับจับกระแสความนิยมมาใช้กับแบรนด์เพื่อให้คุยกับผู้บริโภครู้เรื่อง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา