ไม่ต้องเช่าหุ่น ไม่ต้องเสี่ยงกับคนจริง เพราะ L’Oréal จับ VR ปั้นช่างผมยุคใหม่แล้ว

กว่าจะมีอาชีพช่างทำผม หรือ Salon Stylist ได้ ต้องผ่านการเรียน ทั้งตัดผมกับหุ่นจำลอง เมื่อเชี่ยวชาญก็ต้องมาฝึกตัดกับคนจริงๆ ก่อนที่จะออกไปเผชิญกับโลกภายนอก แต่จะดีกว่าไหม ถ้านำเทคโนโลยีใหม่ เข้ามาช่วยสร้างช่างตัดผมมืออาชีพได้เร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

screen-shot-2559-11-02-at-1-33-46-pm
มุมมองของผู้ใช้งานกับการเรียนผ่าน VR

VR คือเรื่องที่เป็นไปแล้วในโลก Salon

เว็บไซต์ Venturebeat รายงานว่า L’Oréal ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจความสวยความงาม ได้จับมือกับ 8i บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับ Virtual Reality (VR) และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบรนด์ Matrix เพื่อสร้างระบบการเรียนการสอนให้ช่างผมผ่านเทคโนโลยี VR ถือเป็นอีกครั้งที่ L’Oréal นำเทคโนโลยีมาช่วยต่อยอดธุรกิจ หลังปี 2556 พัฒนา Makeup Genius หรือ Augmented Reality (AR) ที่ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น

โดยการเรียนการสอนผ่านระบบ VR นั้น L’Oréal จะนำระบบ VR ที่พัฒนาโดย 8i มาใช้ใน Matrix Academy ที่เป็นโรงเรียนพัฒนาช่างผมในเครือ มีทั้งหมด 30 สาขาในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งภายตัว VR จะประกอบด้วยเทคนิคการทำผมในรูปแบบต่างๆ ผ่านการรวบรวมจากช่างผมมืออาชีพทั่วโลก ทำให้ Salon Stylist ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเรียนในที่ห่างไกล ทั้งยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

screen-shot-2559-11-02-at-1-36-52-pm
ลักษณะการใช้งานของ VR กับการสอนช่างผม

Feedback ดี จนพร้อมใช้งานปีหน้า

สำหรับการเรียนการสอนผ่านระบบ VR นั้นจะเริ่มในปี 2560 เพราะตอนนี้ได้ทดลองให้ช่างผมจำนวนหนึ่งใช้งาน และค่อนข้างมีผลตอบรับดี ผ่านการจำลองห้องอัจฉริยะที่สามารถตอบสนองการมองผ่านเทคโนโลยี VR ของผู้ใช้งาน และผู้ใช้สามารถมองได้ 360 องศา เพื่อความเสมือนจริง ถือเป็นการยกระดับตลาด VR ครั้งสำคัญ เพราะเป็นฝั่งธุรกิจ และการศึกษาที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดนี้ไปสู่ 30,000 ล้านดอลลาส์สหรัฐในปี 2563

ทั้งนี้ในปี 2558 สถาบัน Matrix Academy ได้ปั้นช่างทำผมกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก ส่วนตัวเทคโนโลยี VR ที่ใช้ในการเรียนการสอน จะติดตั้งใน 25 สาขาเบื้องต้น หากผลลัพท์เป็นไปด้วยดีก็จะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ให้ครบ เพราะประโยชน์หลักของเทคโนโลยีนี้คือ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเรียนวิชาทำผม ที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่นค่าความรู้จากช่างผมชั้นนำ รวมถึงค่าใช้จ่ายเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย

แก้เกี้ยว Beauty Blogger ชี้นำสินค้า

ขณะเดียวกัน L’Oréal มองว่า เทคโนโลยี VR จะมาช่วยแก้ปัญหาธุรกิจความสวยความงามในยุคนี้ได้ เพราะปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้มองแค่ภาพโฆษณา แต่ต้องการความเป็นจริง เพื่อรู้ว่าเมื่อเขาใช้ผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม แล้วจะเกิดผลลัพธ์อะไรขึ้นมาบ้าง จนต้องนี้ Beauty Blogger หรือกูรูด้านความสวยความงามบนโลกออนไลน์ กลายเป็นคนชี้นำตลาด และช่วยผู้บริโภคตัดสินใจในตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ

ดังนั้นหากแบรนด์สินค้าความสวยความงาม สามารถนำสินค้ามาแสดงให้ผู้บริโภครับรู้ว่า เมื่อใช้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า ไม่ใช่แค่ติดตาม Beauty Blogger เพื่อช่วยให้แนะนำสินค้าเท่านั้น

สรุป

VR คือการจำลองภาพที่เราเห็น เพื่อใช้ประโยชน์ในแง่มุมต่างๆ และการนำมาให้ในระดับอุตสาหกรรม ก็ถือเป็นการยกระดับ หลังจากเรื่อง VR ถูกมองเป็นสินค้า หรือบริการสำหรับผู้บริโภค แต่จะดีกว่านี้หรือไม่ ถ้าเรื่องนี้ถูกนำมาใช้งานในประเทศไทย ที่ปัจจุบันยังใช้หุ่นจำลองในการตัดผมอยู่มาก ก็คงต้องลุ้นกันว่า L’Oréal จะนำโซลูชั่นนี้มาให้บริการในประเทศไทยหรือไม่

อ้างอิง // L’Oréal launches virtual reality hair education for salon stylists

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา