ลอรีอัล บุกเบิกพรมแดนใหม่แห่งความงาม ด้วยนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในงาน VIVA TECHNOLOGY 2025

ลอรีอัล กรุ๊ป ได้จัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีความงามที่ยิ่งใหญ่และก้าวล้ำที่สุดในงานวีว่า เทคโนโลยี (Viva Technology) ณ กรุงปารีส ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดของยุโรป ที่ลอรีอัลได้เข้าร่วมเป็นปีที่ 9 ลอรีอัลได้เสนอนวัตกรรมล่าสุดสำหรับความงามที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล คำนึงถึงความหลากหลาย และใส่ใจต่อความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเผยโฉมครั้งแรกของนวัตกรรมที่ใกล้จะเปิดตัวออกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพเพื่อชีวิตที่ยืนยาวแบบบูรณาการเอกสิทธิ์เฉพาะของลอรีอัล (L’Oréal Longevity Integrative Science) เพื่อมุ่งค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพเทคโนโลยีการทำฟาร์มแนวตั้งสำหรับการพัฒนาส่วนผสมผลิตภัณฑ์จากพืชด้วยพลังของเอไอวายเอสแอล บิวตี้ ไฮเปอร์ ลุค สตูดิโอ (YSL Beauty Hyper Look Studio) สำหรับการรังสรรค์ลุคเมคอัพตามเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยม และลอรีอัล ปารีส บิวตี้ จีเนียส (L’Oréal Paris Beauty Genius) ที่ผสานเอเจนติกเอไอ (Agentic AI) และร่วมมือกับวอตส์แอป (WhatsApp) เพื่อสื่อสารและสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้

ลอรีอัล กรุ๊ป ยังได้รับการยกย่องจากนิตยสารฟอร์จูน (Fortune) ให้เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมโดดเด่นอันดับ ในยุโรป Europe’s Most Innovative Companies 2025  ซึ่งเป็นการจัดอันดับครั้งแรก ประกาศ ณ งาน วีว่าเทค โดยการจัดอันดับครอบคลุม 21 ประเทศและ 16 อุตสาหกรรม ประเมินนวัตกรรมโดยอิงจากสามหัวข้อ: นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมด้านกระบวนการ และวัฒนธรรมนวัตกรรม

ในฐานะผู้นำด้านบิวตี้เทค (BeautyTech) เรากำลังขยายขอบเขตสู่พรมแดนใหม่แห่งความงาม เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมความงามที่ตอบสนองความต้องการและความปรารถนาของผู้บริโภคที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็ม งานวีว่าเทค ประจำปี 2568 ถือเป็นงานที่ลอรีอัลจัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยนวัตกรรมที่พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงสำหรับอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสาขาการชะลอวัย ความยั่งยืน การดูแลผู้บริโภค และบริการสร้างสรรค์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นตัวแทนของความงามยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี” บาร์บารา ลาเวอร์นอส (Barbara Lavernos) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี ของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าว

เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคในเกือบทุกแง่มุมของชีวิตประจำวัน โดยเทคโนโลยีพลิกโลกอย่างเอไอเจนเอไอ และเอเจนติกเอไอ กำลังกำหนดนิยามใหม่ให้กับความคาดหวังของผู้บริโภค และเปลี่ยนแปลงเส้นทางการซื้อสินค้าและบริการด้านความงาม ดังนั้น เราจึงยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างความผูกพันกับผู้บริโภค ทั้งด้วยความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี” อัสมิตา ดูบีย์ (Asmita Dubey) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลและการตลาด ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าว

ในงานวีว่าเทค ลอรีอัลได้นำเสนอจุดแข็งของระบบนิเวศนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation) ซึ่งประสานพลังภายในของทีมวิจัย นวัตกรรม ดิจิทัล และเทคโนโลยีของลอรีอัล ร่วมกับพลังที่สร้างการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมของยักษ์ใหญ่และสตาร์ตอัปรุ่นใหม่ด้านไบโอเทค ดิจิทัล เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ ลอรีอัลยังได้ประกาศ ความร่วมมือกับ เอ็นวิเดีย (NVIDIA) ปลดล็อกศักยภาพของเอไอในหลายมิติของความงามผ่านการใช้งานแพลตฟอร์ม NVIDIA AI Enterprise เพื่อการพัฒนาและปรับใช้เอไออย่างรวดเร็ว เช่น การปรับขนาดการเรนเดอร์สามมิติของผลิตภัณฑ์ของลอรีอัล เพื่อการหลอมรวมเอไอทางกายภาพและเจนเอไอ และสร้างความเป็นไปใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์   โดยโปรเจ็กต์ที่ลอรีอัลและเอ็นวิเดียได้ทำร่วมกัน ได้แก่ ครีเอไอเทค (CreAltech) และ  Noli

พรมแดนใหม่แห่งการชะลอวัย

  • ใหม่ ศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพเพื่อชีวิตที่ยืนยาวแบบบูรณาการเอกสิทธิ์เฉพาะของลอรีอัล  (L’Oréal Longevity Integrative Science™) ผสานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านผิว เพื่อเปลี่ยนการดูแลผิวจากเชิงรับเป็นเชิงรุก โดยมุ่งค้นหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ พร้อมยืดอายุเซลล์ของผิว วงล้อแห่งการชะลอวัยของลอรีอัล (L’Oréal’s Wheel of Longevity) ถอดรหัสการเสื่อมสภาพตามอายุทางชีวภาพของผิว และไขความลับของกลไกหลัก 9 ประการที่ทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัย โดยใช้ลองเจวิตี้ เอไอ คลาวด์ (Longevity AI Cloud™) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของลอรีอัล
  • ใหม่ ลังโคม เซลล์ ไบโอพรินต์ (Lancôme Cell BioPrint) ที่สร้างสรรค์ร่วมกับนาโนเอนเทค (NanoEntekคือการปฏิวัติวงการวิเคราะห์ผิวสำหรับผู้บริโภคโดยมีรากฐานมาจากศาสตร์แห่งการชะลอวัย อุปกรณ์วินิจฉัยทางชีวภาพแบบพกพาในรูปแบบแล็บออนอะชิ (Lab-on-a-chip) ตัวนี้ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจวิถีแห่งการเสื่อมของผิวตนเอง และได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโซลูชันการดูแลผิวที่ช่วยย้อนวัยให้กับผิว
  • ลังโคม เรเนอร์จี นาโนรีเซอร์เฟซเซอร์ 400 บูสเตอร์ (Lancôme RÉNERGIE NANO-RESURFACER 400 BOOSTER) คืออุปกรณ์ดูแลผิวยุคใหม่สำหรับใช้งานที่บ้าน ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการซึมซาบของสกินแคร์เข้าสู่เซลล์ผิวชั้นนอกสุดหรือชั้นผิวหนังกำพร้า ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเรเนอร์จี้ เอช.ซี.เอฟทริปเปิล เซรั่ม (Rénergie H.C.F. Triple Serum) เพื่อมอบผลลัพธ์แบบเดียวกับการใช้บริการที่คลินิกแต่สามารถทำเองได้ที่บ้าน อุปกรณ์นี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีนาโนชิปล้ำสมัยที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว ประกอบด้วยปลายหัวนาโนที่มีความแม่นยำสูงจำนวน 400 หัว เพื่อสร้างทางเดินขนาดเล็กที่มองไม่เห็นบนผิวหนังโดยไม่ทำให้เจ็บปวดหรือต้องพักฟื้น

พรมแดนใหม่แห่งความยั่งยืน

  • ใหม่ ไบโอพอดส์’ ของอินเทอร์สเตลลาร์ แล็บ (Interstellar Lab’s ‘BioPods’) คือเทคโนโลยีการทำฟาร์มแนวตั้ง สำหรับการพัฒนาส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากพืช โดยนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการปลูกพืชเป็นชั้น ๆ แบบแนวตั้ง ทำให้ควบคุมการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างสมบูรณ์ เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำและพลังงาน พร้อมรับประกันว่าจะได้พืชที่มีคุณภาพสูงและสม่ำเสมอสำหรับนำมาผลิตเป็นส่วนผสมเครื่องสำอางประสิทธิภาพสูง
  • ใหม่ ออสโมบลูม (Osmobloom™) เป็นเทคโนโลยีการดักจับอากาศที่ล้ำสมัยสำหรับการรังสรรค์น้ำหอมที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ออสโมบลูมเป็นผลผลิตจากความร่วมมือสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ คอสโม อินเตอร์เนชันแนล ฟราแกรนเซส (Cosmo International Fragrances) ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการส่วนผสมชั้นนำ โดยออสโมบลูมจะดักจับโมเลกุลกลิ่นหอมของดอกไม้โดยที่ดอกไม้ยังคงสภาพเดิม รวมไปถึงดอกไม้ที่ไม่สามารถสกัดความหอมตามธรรมชาติได้มาก่อน ออสโมบลูมคือนวัตกรรมที่อยู่เบื้องหลังกลิ่นทิวบ์โรส (Tuberose) หรือดอกซ่อนกลิ่น ในน้ำหอม ‘ไพรเวต ทอล์ก‘ (Private talk) จากคอลเลกชันน้ำหอม อนาโตมี ออฟ ดรีมส์ (Anatomy of Dreams) ของวาเลนติโน บิวตี้ (Valentino Beauty)
  • ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล แอร์ไลท์ โปร (L’Oréal Professionnel AirLight Pro) ที่สร้างสรรค์ร่วมกับซูวี (Zuvi) คือเครื่องเป่าผมที่ปฏิวัติวงการ ทั้งสำหรับมืออาชีพด้านความงามและผู้บริโภค แอร์ไลท์ โปร ถือเป็นเครื่องเป่าผมเครื่องแรกที่นำแสงอินฟราเรดมาผสานเข้ากับอากาศและความร้อน โดยแสงอินฟราเรดจะมุ่งตรงไปที่โมเลกุลของน้ำ ซึ่งจะช่วยเร่งกระบวนการระเหยของน้ำ ส่งผลให้ผมแห้งเร็วขึ้นสูงสุด 21% ชุ่มชื้นขึ้นสูงสุด 55% เพื่อเส้นผมเรียบลื่นและเป็นประกายเงางาม อีกทั้งยังลดการใช้พลังงานลงได้มากถึง 19%[1]

พรมแดนใหม่แห่งบริการความงาม

  • ใหม่ ด้วยความร่วมมือกับเมตา (Meta) ลอรีอัล ปารีส บิวตี้ จีเนียส (L’Oréal Paris Beauty Genius) คือผู้ช่วยความงามส่วนบุคคลตลอด 24 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน ขับเคลื่อนด้วยเอเจนติกเอไอ และพร้อมจะเปิดตัวบนวอตส์แอป (WhatsApp) เร็ว ๆ นี้ เมตา และลอรีอัล ปารีส กำลังกำหนดนิยามใหม่ของวิธีการที่จะทำให้ผู้บริโภคค้นพบ เข้าใจ และเข้าถึงความงาม ด้วยการนำคำแนะนำส่วนบุคคลแบบตัวต่อตัวมาสู่ผู้บริโภคในวงกว้างผ่านแอปส่งข้อความที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก
  • ใหม่ ลา โรชโพเซย์ สปอตสแกน+โค้ช (La Roche-Posay Spotscan+Coach) ได้รับการพัฒนาขึ้นร่วมกับแพทย์ผิวหนัง เพื่อให้เป็นแอปสำหรับแนะแนวเกี่ยวกับสิวแอปแรกที่ผสานการวิเคราะห์ผิวด้วยเอไอขั้นสูงเข้ากับกิจวัตรส่วนบุคคลและการสนับสนุนทางด้านอารมณ์ ด้วยความร่วมมือกับคาล์ม (Calm) ซึ่งเป็นแอปสุขภาพจิตชั้นนำของโลก ผู้ใช้แอปลา โรชโพเซย์ สปอตสแกน+โค้ช จะสามารถฝึกการทำสมาธิและฝึกการหายใจตามคำแนะนำ ตลอดจนเข้าถึงเครื่องมือช่วยการนอนหลับและคอนเทนต์จากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยลดความเครียดและส่งเสริมสุขภาวะแบบองค์รวม เพื่อจัดการกับผลกระทบทางจิตใจจากปัญหาสิว
  • ใหม่ โนลี Noli (“No one like I”) สตาร์ตอัปมาร์เก็ตเพลสแบบมัลติแบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI รายแรก ซึ่งก่อตั้งและสนับสนุนโดยลอรีอัล กรุ๊ป Noli สร้างสรรค์รูปแบบในการช่วยเหลือผู้บริโภคขึ้นมาใหม่ โดยช่วยผู้บริโภคค้นหาและซื้อผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ด้วยการรับบทบาทเป็นที่ปรึกษาความงาม (Beauty Advisor) โดยใช้การวิเคราะห์และเครื่องมือเอไออันทรงพลังที่พัฒนาขึ้นจากข้อมูลการสแกนใบหน้ากว่า 1 ล้านข้อมูล และการวิเคราะห์สูตรผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 สูตร เพื่อถอดรหัสโปรไฟล์ความงามของผู้ใช้แต่ละคน และจับคู่กับการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ตรงถึงหน้าประตูบ้าน Noli ใช้ประโยชน์จากความเป็นผู้นำด้านบิวตี้เทคที่ยากหาใครเทียบของลอรีอัล กรุ๊ป ตลอดจนความเชี่ยวชาญด้านความงามที่สั่งสมมายาวนานกว่าศตวรรษ ประกอบกับความรู้ที่กว้างขวางในด้านวิทยาศาสตร์ความงามและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค โดยโนลีเปิดตัว AI Refinery โดยร่วมมือกับเอ็นวิเดียและแอคเซ้นเจอร์ สร้างด้วยซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise และมีให้บริการบน Microsoft Azure
  • ใหม่ เอเจนติก คอนซูเมอร์ แคร์ (Agentic Consumer Care) จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของการดูแลความงามให้กับผู้บริโภค ลอรีอัลได้นำโซลูชันเจเนอเรทีฟเอไอของเซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) มาช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้า ด้วยการลดภาระงานประจำที่ต้องทำซ้ำ ๆ ในแต่ละวัน และเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ให้มากขึ้น เป้าหมายของเราไม่ใช่ให้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ แต่เรามุ่งสร้างความผูกพันที่ลึกซึ้งและเป็นส่วนตัวกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

พรมแดนใหม่แห่งความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรม

  • ใหม่ วายเอสแอล บิวตี้ ไฮเปอร์ ลุค สตูดิโอ (YSL Beauty Hyper Look Studio) คือสถานที่ที่โซเชียลมีเดียมาพบกับศิลปะการแต่งหน้าของวายเอสแอล เป็นพื้นที่ที่รวมจิตวิญญาณของวายเอสแอล บิวตี้ ผ่านเทคโนโลยียุคใหม่ วายเอสแอล บิวตี้ ไฮเปอร์ ลุค สตูดิโอ เชิญชวนผู้มาเยือนให้เลือกเทรนด์ความงามจากฟีดคอนเทนต์ที่คัดสรรจากโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์ เพื่อทดลองแปลงโฉมในรูปแบบเสมือนจริงที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน
  • ครีเอไอเทค (CreAltech) คือห้องปฏิบัติการสร้างสรรค์คอนเทนต์ด้านความงามของลอรีอัล ซึ่งอาศัยเจนเอไอมาช่วยเพิ่มพลังความคิดสร้างสรรค์ของทีมการตลาดและทีมคอนเทนต์ ด้วยการรวมระบบนิเวศแบบโมดูลาร์ของโมเดล ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และพันธมิตร ซึ่งรวมถึง กูเกิล (Google), อะโดบี (Adobe) และ โอเอ็มไอ (OMI) ทั้งนี้ ครีเอไอเทคมุ่งเน้นสร้างการขยับขยายเพื่อรองรับการเติบโตของความสามารถด้านงานภาพสามมิติ โดยอาศัยแพลตฟอร์ม NVIDIA AI Enterprise และช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างสรรค์ภาพ ข้อความ และวิดีโอนับพันที่มีเอกลักษณ์และสอดคล้องกับแบรนด์ สำหรับแพลตฟอร์มที่หลากหลายและผู้ชมทั่วโลก

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา