ทำไม L’Oreal แบรนด์เครื่องสำอางรายใหญ่ของโลก ต้องซื้อกิจการบริษัทเทคโนโลยี AI/AR ด้วย?

สัปดาห์ที่ผ่านมา Brand Inside นำเสนอไปกว่า L’Oreal ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทเทคโนโลยีรายหนึ่งที่เก่งด้าน AI และ AR แต่คำถามคือ ทำไมต้องซื้อ และซื้อแล้วจะเอาไปทำอะไรต่อ?

เครื่องสำอาง x เทคโนโลยี : เริ่มต้นที่เทคโนโลยีสแกนใบหน้า

Brand Inside เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้ว่า แบรนด์เครื่องสำอางรายใหญ่ที่สุดในโลก L’Oreal ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทเทคโนโลยี ModiFace ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน AI (artificial intelligence) และ AR (augmented reality)

  • คำถามคือ แล้วทำไมแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกจะต้องเข้ามาข้องเกี่ยวกับแวดวงเทคโนโลยีด้วย?

Lubomira Rochet หัวหน้าแผนกดิจิทัลของ L’Oreal ตอบต่อคำถามด้านบนว่า “เราต้องการสร้างอนาคตของประสบการณ์ความงาม (the future of the beauty experience) ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้ค้นพบ ได้ทดลอง และนำไปสู่การซื้อเครื่องสำอางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา”

  • ลูกค้าจะรู้ได้อย่างไรว่านั่นจะเป็นสินค้าที่ดีที่สุด?

Rochet บอกว่า ขณะนี้ทาง L’Oreal (กับ ModiFace บริษัทเทคโนโลยีที่เพิ่งซื้อมา) กำลังพัฒนา “เทคโนโลยีสแกนใบหน้า” และหากเสร็จสมบูรณ์ เทคโนโลยีตัวนี้จะให้คำแนะนำในการบำรุงผิวได้อย่างถูกต้องแม่นยำ บอกได้ตั้งแต่ริ้วรอยบนใบหน้า รูขุมขน ความชุ่มชื้นของผิว ไปจนถึงสีผิวที่แตกต่างกันว่าควรจะใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหนและประเภทอะไร

พูดง่ายๆ ก็คือ หลังจากนี้เราจะได้เห็นเทคโนโลยีในวงการความงามที่เข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น เช่น เราอาจใช้โทรศัพท์สแกนใบหน้าของตัวเอง ทำท่าเหมือนกำลังเซลฟี่ แต่จะทราบได้เลยว่าสุขภาพผิวเป็นอย่างไร แล้วจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ตัวไหนเพื่อบำรุงผิว

Photo: Shutterstock
Photo: Shutterstock

ถ้าไม่โกออนไลน์ ก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

Pinar Ergun นักวิเคราะห์จาก UBS มองว่าแบรนด์ L’Oreal ได้กระโดดเข้ามาเล่นโลกออนไลน์สักพักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียอย่าง Facebook หรือการใช้ Influencer บนโลกออนไลน์มาโปรโมทสินค้า จนทำให้รายได้ของบริษัทประมาณ 8% มาจากช่องทางอีคอมเมิร์ซ

  • แต่ถ้าพูดถึงการลงทุนในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของ L’Oreal ที่เหนือไปกว่าการทำโฆษณา ยังถือว่าน้อยมาก

Ergun บอกว่า “พวกเขายังลงทุนในดิจิทัลค่อนข้างน้อย … ถ้าไม่โกออนไลน์ พวกเขาก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” 

อาจกล่าวได้ว่า การเข้าซื้อกิจการของบริษัทเทคโนโลยีในครั้งนี้ของ L’Oreal เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของบริษัทเพื่อก้าวเข้าสู่เทคโนโลยีดิจิทัลเต็มตัว และที่น่าสนใจคือ การเข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยีในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในระวัติศาสตร์ของบริษัทนับตั้งแต่ก่อตั้งมากว่า 109 ปี

ในอีกด้านหนึ่งอาจเป็นการตัดขาคู่แข่งอย่าง LVMH ที่ได้ทำงานร่วมกับ ModiFace มาก่อนหน้าด้วย เพราะหลังจากซื้อกิจการครั้งนี้แล้ว ModiFace ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติแคนาดาที่มีวิศวกรไอที นักวิจัย และนักวิทยาศาสตร์ประมาณ 70 คน จะกลายเป็นพนักงานของ L’Oreal ทั้งหมด

สรุป

ถือเป็นการลงมาเล่นในตลาดเทคโนโลยีเต็มตัวมากขึ้น สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกอย่าง L’Oreal เพราะก่อนหน้านี้เคยทำเพียงแค่แอพพลิเคชั่น รวมถึงการทำตลาดแบบออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ยังไม่ได้ลุยเทคโนโลยีดิจิทัลแบบเต็มตัว

หลังจากนี้ น่าจับตามองต่อว่า เมื่อ L’Oreal ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทสายเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญด้าน AI/AR แล้ว ผู้บริโภคจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปวงการความสวยงามอย่างไรบ้าง

ข้อมูล – CNNMoney,Economictimes

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา