Loft เตรียมเปิดคอนเซ็ปต์ “บิวตี้ แล็บ” ทำเล็บ-เสริมสวย ประเดิมสาขาไอคอน สยาม

เมื่อสินค้ากลุ่มความสวยความงามมีรายได้ที่มีการเติบโตสูงที่สุด และเป็นไลฟ์สไตล์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบ ลอฟท์จึงไม่อยู่เฉยที่จะจัดเต็มด้านบิวตี้ เอาให้อยู่หมัดเป็น One Stop Service

ใช้โมเดลบิวตี้ แล็บอิมพอร์ตจากญี่ปุ่น

ลอฟท์ที่ประเทศญี่ปุ่นได้นำร่องมีสินค้ากลุ่มสุขภาพ และความงามได้ 2 ปีแล้ว แนวโน้มมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้สินค้ากลุ่มนี้มีรายได้แซงกลุ่มหลักอย่างเครื่องเขียนไปแล้ว มีสัดส่วนรายได้ 30% ทำให้ได้เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเมื่อมาช้อปปิ้งที่ร้าน

ลอฟท์จึงบุกหนักในกลุ่มบิวตี้ ได้เพิ่มมุม Service เข้ามาเรียกว่า “บิวตี้ แล็บ” มีบริการทำเล็บต่างๆ เป็นบริการที่ต่อยอดเมื่อซื้อของในร้าน เช่น ซื้อน้ำยาทาเล็บในร้าน ก็มีบริการทำเล็บในร้านเลย

เมื่อในประเทศไทยทิศทางเริ่มไปในแนวเดียวกัน คือกลุ่มบิวตี้มีความเติบโตสูงถึง 70% ในปีที่ผ่านมา และลอฟท์เองก็ต้องการขยายสินค้าไปยังไลฟ์สไตล์มากขึ้น ที่ผ่านมามีสินค้ากลุ่มความงามที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และมีกิจกรรม Workshop สอนแต่งหน้าจากบิวตี้ บล็อกเกอร์

กิจกรรม Workshop แต่งหน้า

ในปีหน้ามีแผนนำโมเดลบิวตี้ แล็บจากญี่ปุ่นอิมพอร์ตมาที่สาขาใหม่อย่าง “ดิ ไอคอน สยาม” ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงปลายปี 2561 แต่ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงวางแผนสำหรับบิวตี้ แล็บในไทยว่าจะมีบริการอะไรบ้าง แต่น่าจะมีบริการอย่างทำเล็บ สักคิ้ว ต่อขนตา เป็นบริการยอดนิยมที่สาวไทยชอบ

โดยที่เป้าหมายของการเปิดมุม Service เพิ่มเติมนั้น ต้องการให้ลอฟท์เป็น One Stop Service ที่มีบริการครบในที่เดียว และเป็นการเพิ่มความถี่ในการมาซ้ำ และเพิ่มระยะเวลาในการอยู่ในร้านให้นานขึ้นด้วย

สำหรับสาขาดิ ไอคอนสยามจะกลายเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร หรือใหญ่กว่าสาขาสยามดิสคัฟเวอรี่ 1.5 เท่า และตั้งใจจะให้เป็นสาขาแฟล็กชิพสโตร์ในอาเซียนด้วย เพราะลอฟท์ญี่ปุ่นมีแผนในการขยายสาขาไปยังประเทศอื่นอีก เพราะตอนนี้มีแค่ที่ประเทศญี่ปุ่น และไทยเท่านั้น

สรุป

– ลอฟท์มองเห็นเทรนด์การเติบโต และมีการปรับตัวได้ดี มองว่าผู้บริโภคยุคนี้ชอบอะไร เป็นการอุดจุดอ่อนของตนเองที่แต่เดิมเป็นร้านของขวัญ ทำให้คนมาน้อย

– ลอฟท์ยังได้จุดแข็งจากการที่มีสินค้าน่าเชื่อถือ เป็นสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น คนไทยชื่นชอบอยู่แล้ว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา